"โดม" ไม่ขอพูดเรื่อง "แมงมุม" หลัง "ท่านมุ้ย" ติติงในทำนองลูกสาวถูกนักร้องหนุ่มหลอก เผยที่ผ่านมาเป็นแค่พี่ - น้องเท่านั้น พร้อมแจงความสัมพันธ์กับ "พลอย" เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่อยากใช้คำว่าแฟน ยันเรื่องทั้งหมดไม่ใช่การสร้างภาพ ขณะที่ฝ่ายหญิง บอกเรื่องทั้งหมดมาจากคน 2 คน บุคคลที่ 3 ไม่เกี่ยวและไม่มีความสำคัญ
ถูกท่านมุ้ย "ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล" ออกมาพูดทำนองติติงในฐานะของบิดาที่เป็นห่วงลูกสาว "แมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล" ที่มีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับตนเองในห้วงเวลาที่มีข่าวว่าเลิกรากับแฟนสาว "พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์" งานนี้บรรดานักข่าวทั้งหลายเลยพากันตามติดนักร้องหนุ่ม "โดม ปกรณ์ ลัม" ที่ล่าสุดทำท่าว่าได้กลับมาคบหากับสาวพลอยอีกครั้งเพราะอยากจะรู้ว่าเจ้าตัวจะรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ทั้งนี้นักร้องหนุ่มก็ได้เปิดเผยว่า ตนเองคงจะไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกมองว่าไปหลอกลูกสาวของผู้กำกับชื่อดังมาเป็นแฟนโดยใช้ความเป็นดาราแต่อย่างใด เพราะจะเป็นการไปวิจารณ์คำพูดของผู้ใหญ่ แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็ยังยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจในความสัมพันธ์กับสาวแมงมุมว่า ที่ผ่านมาเป็นเพียงพี่ - น้องกันเท่านั้น
"สำหรับเรื่องของข่าวที่ท่านมุ้ยออกมาบอกว่าผมไปหลอกลูกสาวท่านนั้น มันก็เป็นอย่างที่ผมเคยพูดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นไม่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับตัวบุคคลที่สามเลย ส่วนแมงมุมนั้นเขาก็เป็นเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันเท่านั้น ความรักระหว่างผมกับพลอยนี้ ถ้าเราจะคบกันหรือเลิกกันนั้นคงไม่ต้องมาให้บุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวตรงนี้ด้วย เพราะผมคิดว่าตัวผมหน้าจะตัดสินใจได้ว่าเราจะคบหรือจะเลิกกับคนคนนั้น"
"ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเด็กเลยไม่อยากที่จะมาพูดหรือวิจารณ์อะไรต่อบนคำพูดของท่านมุ้ย โดยส่วนตัวโดมแล้ว โดมก็คิดว่าท่านมุ้ยเป็นผู้ใหญ่ในวงการที่นักแสดงทุกคนเคารพ คือโดมไม่ได้รู้จักอะไรกับท่านเป็นการส่วนตัว แต่เราก็ยังเคารพท่าน เราคงไม่กล้าไปทำอะไรล่วงเกินท่านหลอก ในส่วนต่างๆ ที่โดมพูดมาก็คิดว่ามันน่าจะเคลียร์มากแล้ว แต่ถ้าอยากทราบอะไรมากกว่านี้ก็ต้องไปลองถามท่านดู"
เผยยังไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับสาวแมงมุมอีกเลยนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมา พร้อมโบ้ย ถ้าไม่ใช่เรื่องของตนกับสาวพลอยก็คงจะต้องไปถามคนๆ นั้นเอาเอง
"กับแมงมุมเองตั้งแต่เกิดเรื่องจนเป็นข่าวกันมามากมายนี้เราก็ไม่เคยได้คุยหรือได้เจอกันเลย ผมรู้สึกว่าเขายังคงเก็บตัวอยู่เลยนะ ผมคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันมีคนออกมาพูดเยอะแล้ว พอใครได้ยินแล้วเอามาพูดต่อมันก็เลยไม่จบสักที ถ้าผมพูดต่อมันก็คงไม่มีประโยชน์ ดังนั้นถ้าอยากรู้อะไรให้ไปถามเขาดีกว่า"
"ส่วนที่มีภาพปาปารัซซี่นั่งทานข้าวกันกับแมงมุมที่ออกมานั้น ผมก็พูดไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราเป็นเพื่อนกัน เป็นคนที่รู้จักกัน ก็คงจะมีบ้างเป็นปกติธรรมดาที่จะไปทำอะไรแบบนั้นซึ่งมันก็ไม่ผิดนะ แต่ตั้งแต่มีปัญหาตรงนี้ก็ไม่ได้มีมาคุยอะไรกันต่อเลย ผมว่าเรื่องอะไรต่างๆ นั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องของผมกับพลอย น่าจะลองไปถามทางโน้นดีกว่านะ แต่ผมมั่นใจเลยว่าผมไม่เคยหลอกใคร แม้กระทั้งหลอกตัวเอง เพราะผมรู้สึกชอบใครผมก็จะบอก ถ้าใครดีกับผม ผมก็ดีกับคนนั้น มันก็เป็นเรื่องธรรมดา"
ส่วนความสัมพันธ์กับสาวพลอยที่เหมือนจะขาดหายไปช่วงหนึ่ง นักร้องหนุ่มบอกว่าตอนนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากได้มีการแก้ไขในส่วนต่างๆ ที่ไม่ดีของแต่ละคนไปบ้างแล้ว พร้อมยืนยันเรื่องทั้งหมดไม่ใช่การสร้างภาพ..."มันเหมือนกับว่าเรามาเรียนรู้ในตัวของแต่ละคนกันอีกรอบ มันก็ดีนะที่เกิดเรื่องต่างๆ นี้ขึ้นมันทำให้เราได้รู้คุณค่าของคนที่เรารักมากขึ้น และที่เรากลับมาคบกันนั้นก็ไม่ได้เป็นการสร้างภาพเลยนะ"
"เพราะตั้งแต่ต้นเราคบกันเราก็เปิดเผยกันตลอด ผมคบกับพลอยมาได้ 3 ปีแล้วนะ ถ้าผมจะไม่คบกันหรือเราจะกลับมาดีกัน มันน่าจะเป็นรื่องของเราสองคนมากกว่า คงไม่ต้องปล่อยให้บุคคลที่สามหรือคนอื่นมาบอกว่าเราจะคบต้อได้หรือเปล่า แต่ผมก็เข้าจะนะว่าอาจจะเป็นเพราะคนจับตามองคู่ของเราเยอะ"
พร้อมเผยสิ่งที่ดีและไม่ดีจากเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น
"จริงๆ มันก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดีนะที่มันเป็นแบบนี้ คือข้อดีมันก็คือสิ่งที่ทุกคนยังให้สนใจเราอยู่ มันทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้นจากหลายคน คือผมเข้าใจว่าคนอยากรู้ในเรื่องของเรา แต่อีกมุมหนึ่งที่ไม่ดีคือเราอาจจะทำตัวลำบากเหมือนกันในชีวิตประจำวัน เพราะทุกคนจับตามอง"
"จริงๆ แล้วเราก็เป็นเด็กวัยรุ่นเหมือนกับคนอื่นทั่วไป ตอนนี้เราก็ต้องคอยระวังตัวเองและต้องไม่ทำอะไรที่ไม่ดี เพราะตลอดระยะเวลาถ้าเกิดเราทำอะไรหน่อยทุกคนก็อาจจะมองว่าเราสร้างภาพได้ คือจริงๆ แล้วการที่เราจะทำอะไรจากความรู้สึกของเราจริงๆ มันคือการสร้างภาพเหรอ มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันผิดด้วยเหรอ"
"ตอนนี้พอเวลาเรามีปัญหาอะไรกันเราก็จะมาพูดกันตรงๆ มันเหมือนกับว่าเรากำลังศึกษาและเรียนรู้วิธีที่เราจะแก้ปัญหาให้ได้ของกันและกัน เรื่องแบบนี้เราจะไปอธิบายให้คนอื่นฟังมันอาจจะไม่เข้าใจ มันยากกว่าที่เราจะรู้ของเรากันเอง เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมันอยู่กับเราสองคนเองทั้งนั้น เราเข้าใจกันมากที่สุดและเราก็พยายามปรับความเข้าใจกันอยู่ แต่สุดท้ายก็คงไม่มีใครเข้าใจเราสองคนได้ดีเท่าตัวเราเองหรอก"
เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงที่บอกว่าเรื่องทั้งหมดมาจากคนเพียง 2 คนเท่านั้น บุคคลที่ 3 ไม่เกี่ยวและไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด
"สำหรับข่าวที่ออกมานั้นพลอยพยายามถือมันเป็นเรื่องธรรมดานะ เพราะเราอยู่ในวงการก็ย่อมจะมีข่าวเป็นเรื่องธรรมดา แต่ข่าวมันก็มีบ้างนะที่มันมาบั่นทอนจิตใจเรา และมันก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่เราอยู่ตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าชีวิตเราต้องเจออะไรแบบนี้อยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราเป็นคนของประชาชน ในเมื่อเราเลือกที่จะมีชีวิตแบบนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับที่ชีวิตจะเป็นแบบนี้ให้ได้ ซึ่งพี่โดมเองก็คงเหนื่อยเหมือนกัน"
"เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องของพลอยกับพี่โดมมากกว่า อย่าเอาใครมาเกี่ยวด้วยเลย ซึ่งแมงมุมเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตพวกเรา ตรงนี้เป็นเรื่องของพลอยกับพี่โดมมากกว่า บุคคลอื่นไม่เกี่ยวเลย และเขาก็ไม่สำคัญกับชีวิตเราเลย เรื่องแบบนี้บางทีอธิบายให้คนอื่นฟัง อาจจะไม่เข้าใจเท่ากับตัวเราสองคน อย่างที่บอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนสองคนจริงๆ เราก็เข้าใจกันมากที่สุดและพยายามปรับความเข้าใจกันอยู่ตลอด"
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ณ. เวลานี้ทั้งสองจะกลับมาใช้คำว่าแฟนเหมือนเดิมได้หรือยัง ทั้งคู่กลับเริ่มโบ้ยกันตอบ จนสุดท้ายนักร้องหนุ่มจะเป็นคนบอกเองว่า..."ตอนนี้เราก็กลับมาคบกันแล้ว บอกก่อนนะว่าเราไม่ได้สร้างภาพ ผมกลัวว่าเดี๋ยวคนจะมองว่าอะไรกันแน่ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกอะไรกันแน่ ตอนนี้ผมยังไม่อยากพูดว่าเราเป็นแฟนกัน"
"เราไม่ได้พยายามทำให้ทุกคนหันมาสนใจในคู่ของเรานะ ผมพูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าคงมีหลายคนที่อาจจะสนใจเรา แต่ขอให้เรื่องทั้งหมดนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของเราสองคนจะดีกว่าว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันทำให้เราทั้งคู่ต้องหนักแน่นกับความรักมากขึ้น คิดเยอะอะไรเยอะมากขึ้น"
"เพราะพอเราออกมาบอกว่ารักกันก็จะหาว่าสร้างภาพหรือเปล่า บางทีเราทำอย่างที่เราอยากทำ บางคนก็บอกอีกว่ามันหวานจนเลี่ยน เอาเป็นว่ามันก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นนั้นแหละ..."