รายการ "A Wonderful Life : ชีวิตที่เลือกได้" อังคารที่ 29 พ.ค.เวลา 21.20 น. ทางช่อง 5 ไปดูกันว่าชีวิตที่สูญสิ้นอิสระภาพและหลังพ้นจากห้องขังของหมอดูไพ่ยิปซีชื่อดัง "ขุนทอง อสุนีย์ ณ อยุธยา" นั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง..."ติดคุกอายุประมาณ 45 ปี ตอนอยู่ในคุก ผมเข้าไปอยู่กับแก๊งค์ที่เป็นขาใหญ่ที่สุดในคุก ผมเลยไม่โดนขู่ แต่เรื่องโดนรีดไถเงินมีบ้าง..."
"มันเป็นสังคมที่ไม่ถือว่าใครโตกว่าหรือแก่กว่าทุกคน ในคุกน่ะไม่มีวัฒนธรรม ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ผมต้องทำเวรตักอุจจาระ หอบขยะ ต้องออกไปลอกท่องาน ลอกท่อเป็นอะไรที่หนักสุด เวลาเข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าแบบห้องครึ่งตัว เวลานอนก็ต้องเบียดกัน บางครั้งนอนตะแคงเลยด้วยซ้ำ อยู่ในคุกผมก็ยังดูหมอและก็ยังเขียนหนังสืออยู่บ้าง ดูหมอถ้าดูให้นักโทษกันเองก็เป็ปซี่ 2 กระป๋อง ถ้าเป็นผู้คุมก็ดูฟรี"
"ผมออกมาจากคุกได้ 4 ปีแล้ว ภาพลักษณ์ของผมกลายเป็นคนตีเมียไปเลย ตอนนี้ผมอยู่กับภรรยาใหม่และลูกอีก 2 คน ขณะนี้ผมก็ยังเป็นหมอดูอยู่เพราะว่ายังมีคนมาให้ผมดูอยู่ ผมไม่ต้องออกไปหาเงินแต่เขาเอาเงินมาให้ถึงบ้าน และอีกอย่างผมไม่ต้องออกไปเจอกับสังคมที่น่าปวดหัว สับสน วุ่นวาย มาอยู่ข้างนอกก็ต้องปรับตัวเยอะ ผมออกมาก็เหมือนวัวสันหลังหวะเพราะเราจะไม่รู้ว่าคนอื่นมองเราอย่างไร เราคิดว่าบางทีเราอาจจะเป็นคนที่คนอื่นไม่ต้องการ"
"ผมอยู่อย่างสันโดษ ใช้ชีวิตสงบสุข ครอบครัวมีความสุขดี ผมเลิกเที่ยว เลิกไปงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่กับบ้านอย่างเดียว ใช้ชีวิตง่ายขึ้นอยู่กับภรรยาและลูก ไม่มีอะไรที่จะมีความสุขไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเงินมากขนาดไหนก็ซื้อความสุขแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อนแล้วเพราะผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับวัตถุที่มีราคาแพง และชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย"
"อยู่อย่างพอเพียงก็มีความสุข ยิ่งได้อยู่กับคนที่เรารักอย่างอื่นเราก็คงไม่ต้องการแล้ว ..."
ช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี เวลาสองทุ่มครึ่งในรายการ "คุณพระช่วย" ใครอยากจะรู้ความเป็นมาของเรื่อง "ส้วม" ไทยในอดีตต้องไม่พลาด ในตอน "ส้วมโบราณ" จากนั้นรายการ "คนค้นฅน" คืนวันอังคารนี้เสนอเรื่องราวชีวิตของชายชราที่ชื่อ "หนัง บังอาจ" หรือ "ลุงแปลก" ที่คนในเขตเทศบาลสตูลจะชินตาเป็นอย่างดีกับภารกิจในการขี่จักรยานเก่าๆ เพื่อขนอุปกรณ์เล่นหนังตะลุงมาแสดงที่ถนนสายนี้แลกกับน้ำใจของผู้คนที่ผ่านไปมา...เรื่องราวของแกจะน่าสนใจเพียงใด ต้องลองติดตามชมกัน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป
..........
คลิกชมโปรแกรมออกอากาศ
เอเอสทีวี
ช่อง 3
ช่อง 5
ช่อง 7
โมเดิร์นไนน์ ทีวี
ช่อง 11
"มันเป็นสังคมที่ไม่ถือว่าใครโตกว่าหรือแก่กว่าทุกคน ในคุกน่ะไม่มีวัฒนธรรม ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ผมต้องทำเวรตักอุจจาระ หอบขยะ ต้องออกไปลอกท่องาน ลอกท่อเป็นอะไรที่หนักสุด เวลาเข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าแบบห้องครึ่งตัว เวลานอนก็ต้องเบียดกัน บางครั้งนอนตะแคงเลยด้วยซ้ำ อยู่ในคุกผมก็ยังดูหมอและก็ยังเขียนหนังสืออยู่บ้าง ดูหมอถ้าดูให้นักโทษกันเองก็เป็ปซี่ 2 กระป๋อง ถ้าเป็นผู้คุมก็ดูฟรี"
"ผมออกมาจากคุกได้ 4 ปีแล้ว ภาพลักษณ์ของผมกลายเป็นคนตีเมียไปเลย ตอนนี้ผมอยู่กับภรรยาใหม่และลูกอีก 2 คน ขณะนี้ผมก็ยังเป็นหมอดูอยู่เพราะว่ายังมีคนมาให้ผมดูอยู่ ผมไม่ต้องออกไปหาเงินแต่เขาเอาเงินมาให้ถึงบ้าน และอีกอย่างผมไม่ต้องออกไปเจอกับสังคมที่น่าปวดหัว สับสน วุ่นวาย มาอยู่ข้างนอกก็ต้องปรับตัวเยอะ ผมออกมาก็เหมือนวัวสันหลังหวะเพราะเราจะไม่รู้ว่าคนอื่นมองเราอย่างไร เราคิดว่าบางทีเราอาจจะเป็นคนที่คนอื่นไม่ต้องการ"
"ผมอยู่อย่างสันโดษ ใช้ชีวิตสงบสุข ครอบครัวมีความสุขดี ผมเลิกเที่ยว เลิกไปงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่กับบ้านอย่างเดียว ใช้ชีวิตง่ายขึ้นอยู่กับภรรยาและลูก ไม่มีอะไรที่จะมีความสุขไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเงินมากขนาดไหนก็ซื้อความสุขแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อนแล้วเพราะผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับวัตถุที่มีราคาแพง และชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย"
"อยู่อย่างพอเพียงก็มีความสุข ยิ่งได้อยู่กับคนที่เรารักอย่างอื่นเราก็คงไม่ต้องการแล้ว ..."
ช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี เวลาสองทุ่มครึ่งในรายการ "คุณพระช่วย" ใครอยากจะรู้ความเป็นมาของเรื่อง "ส้วม" ไทยในอดีตต้องไม่พลาด ในตอน "ส้วมโบราณ" จากนั้นรายการ "คนค้นฅน" คืนวันอังคารนี้เสนอเรื่องราวชีวิตของชายชราที่ชื่อ "หนัง บังอาจ" หรือ "ลุงแปลก" ที่คนในเขตเทศบาลสตูลจะชินตาเป็นอย่างดีกับภารกิจในการขี่จักรยานเก่าๆ เพื่อขนอุปกรณ์เล่นหนังตะลุงมาแสดงที่ถนนสายนี้แลกกับน้ำใจของผู้คนที่ผ่านไปมา...เรื่องราวของแกจะน่าสนใจเพียงใด ต้องลองติดตามชมกัน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป
..........
คลิกชมโปรแกรมออกอากาศ
เอเอสทีวี
ช่อง 3
ช่อง 5
ช่อง 7
โมเดิร์นไนน์ ทีวี
ช่อง 11