"เสี่ยเจียง" เห็นใจ "ท่านมุ้ย" ทำ "นเรศวร" ไม่ได้ตังค์ ลั่นตั้งใจส่ง "จา" ช่วยทำเงินในภาค 3 บอกหากไม่มีซูเปอร์สตาร์คนนี้ขายเมืองนอกไม่ได้ หวังเป้าขายหนังได้ถึงพันล้าน พร้อมเคลียร์ข่าวกั๊กหนัง "หนุมาน" ไม่ให้อาร์เอส.ทำ ประกาศใครจะทำก็ทำ พร้อมเสียงสั่นยันไม่เคือง "พจน์" คู่กรณี "ตั๊ก" หนีซบค่ายอื่น...
หลังรักษาตัวจากอาการป่วยมาได้พักใหญ่ ล่าสุด "เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" บิ๊กบอสของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ สหมงคลฟิล์มก็ฟิตพร้อมลุยการตลาดหนังไทยในเมืองนอกต่อได้แล้ว ในงานเปิดตัวหนังเรื่อง "ปืนใหญ่จอมสลัด"
เจ้าตัวลั่นคิดสร้างรายได้เข้าบริษัทด้วยโปรเจ็กต์ใหม่จับ "จา พนม ยีรัมย์" ลง "นเรศวร ภาค3"
"หนังนเรศวรทำยากทั้งที่ท่านมุ้ยสร้างมาเรียกว่าเยี่ยมมาก แต่เราขายฝรั่งไม่ได้ไปตลาดเมืองนอกไม่ได้ หนังเขาเหมาะเมืองไทย คำว่านเรศวรเป็นกษัตริย์ของไทยเมืองนอกเขาไม่รู้จัก ไม่ใช่อเล็กซานเดอร์มหาราชใครๆ ก็รู้จัก ผมพูดกับเมืองนอกหลายทีแล้วแต่มันไม่ตกลง"
"ตอนนี้คิดว่าจะหาทางเอาหนังนเรศวรไปขายเมืองนอก เนี่ยกำลังดันไอ้จาเข้าไปช่วยเพื่อให้เมืองนอกอยากได้ ไม่ได้เป็นบทที่เขียนเพิ่มขึ้นมา ก็ธรรมดานเรศวรต้องมีทหารเอกอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้เอ่ยถึงตัวเอกตัวนี้ ตอนนี้ท่านมุ้ยกำลังแก้บทเพื่อเปลี่ยนเป็นตัวนี้ขึ้นมา ก็เป็นตัวที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์"
เมื่อถามต่อว่าการดึง "จา" ลง "นเรศวร 3" นั้นเสี่ยเจียงได้คุยกับ "ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล" หรือยัง? เจ้าตัวบอกคุยแล้วแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา พร้อมยืนยันหนังโปรเจ็กต์ยักษ์ขนาดนี้หากไม่ขายเมืองนอกคนทำอยู่ไมได้
"จะพูดอย่างไรดีน่ะ คุยน่ะคุยแล้วแต่รอเคลียร์บทให้เสร็จและรอดูงบจะบานแค่ไหนแล้วเดี๋ยวมาคุยกัน ก็จบภาค 3 เนี่ยแหละ ในหนังก็มีการทำยุทธหัตถีเหมือนกันหมดแต่มีฉากทหารเอกตัวนี้ขึ้นมา เพราะเวลาทำยุทธหัตถีต้องมีทหารเอกยืนอยู่ใต้ขาช้างยืนรบเคียงบ่านเรศวร"
"เราจะขายเมืองนอกแค่ภาคเดียวคือภาค 3 จริงๆ ก็แน่นอนเกือบจะ 100% น่ะ แต่เรายังไม่เซ็นสัญญากัน ครั้งที่แล้วเราปล่อยจาไปเนี่ยเราสงสารท่าน อยากทำให้ท่านมีเงินคือเอาหนังไปฉายเมืองนอกได้ เพราะอย่างนั้นท่านทำสุริโยไทฯ นเรศวรท่านก็ไม่ได้ ถ้าไปเมืองนอกไม่ได้ก็ตาย"
"หนังไม่ต้อง 300 ล้านหรอกเอาแค่ 200 ล้านพอแต่เอาที่ไหนมาคืนล่ะ คุณจะฉายโรงหนังแค่ในประเทศเหรอ ต่อให้คุณฉายได้ 300 ล้านคุณเก็บค่าก็อปปี้โฆษณาไม่คุ้ม เดี๋ยวนี้เราทำหนังลงทุน 200 - 300 ล้าน เราต้องหวังต่างประเทศ ในประเทศอย่างเดียวไม่ได้"
ยกยอซูเปอร์สตาร์ลูกหม้อ "โทนี่ จา" เล่นเป็นแค่นักแสดงรับเชิญก็ขายต่างชาติได้แล้ว
"บอดี้การ์ดฯ มีจารับเชิญน่ะ นิดเดียวก็ได้ เขาก็ซื้อแต่เราไม่ต้องขายแพงมากเหมือนหนังจีนถ้ามีเฉินหลงคนเอาเลย ถามว่าฝรั่งไม่ดูเนื้อหาหรือดูแต่ตัวแสดงหรือ...เราโฆษณาขายหนังไงถ้ามีดาราตัวแบบนี้เข้ามาเราก็ขายง่าย ถึงจะเล่นน้อยก็ขายน้อยก็ขายไป"
"เราไม่กลัวเสียภาพหรอกที่จาได้เล่นน้อยเพราะเราก็ต้องบอกว่าเป็นดารารับเชิญแล้วเราไปฉายหนังให้เขาดูทั้งเรื่องแล้ว กำลังต่อรองกับอเมริกาอยู่ 5 แสนเหรียญเพื่อเอาไปขาย เขาต่อมา 4 แสนก็จะตกลงแต่ "องก์บาก 2" กับประเทศใหญ่ๆ เราขายหมดแล้วเหลือแต่ประเทศเล็กๆ ได้มาประมาณ 18 ล้านเหรียญถ้าจะเอาแค่ต้นทุนนะได้แค่ 3 ล้านก็เท่าทุนแล้ว เราหวังว่าต้องขายได้ 15 ล้านเหรียญขึ้น"
พุ่งเป้าสร้างรายได้เข้าบริษัทถึงพันล้าน
"หลายเรื่องนะที่เราหวังแต่หวังที่สุดคือ "ปืนใหญ่โจรสลัด" อยู่ที่การเจรจาการฮั้วให้ลงตัว ไม่ได้ยากอะไร ทำไมมั่นใจก็เพราะโดยภาพหนังไม่น่าผิดหวัง ขายได้แน่ ที่ผมบอก 15 ล้านหรือ 20 ล้านอาจเหลือ 10 ล้านก็ได้แต่ว่าจริงๆ ได้มา 3 ล้านเราก็ไม่เจ็บ ปีๆ หนึ่งเราอยากได้เป็นพันๆ ล้านน่ะแต่ไม่รู้จะได้รึเปล่า ก็เต็มที่น่ะ"
"จริงๆ เราก็หวังในเมืองไทย เราสร้างหนังที่เหมาะกับเมืองไทยปีหนึ่ง 10 กว่าเรื่อง หนังทำเพื่อไปเมืองนอกเพียง 3 เรื่องเพราะทำเมืองนอกต้องลงทุน "มนุษย์เหล็กใหล" บริษัททำเพื่อไปลงทุนเมืองนอกแต่ขายไม่ได้บริษัทขาดทุนไป 50 ล้าน"
"หนุมาน" เป็นอีกโปรเจ็กต์ยักษ์ที่ใช้ทุนสูงถึง 100 ล้านที่ผู้กำกับ "ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล" หอบมาจากค่ายเก่าอาร์เอส.หวังได้สร้างจริงกับสหมงคลฯ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไร้วี่แวว จึงมีข่าวตามมาว่าทางสหมงคลฯ กั๊กบทประพันธ์ แถมข่าวแว่วว่าอาร์เอส.ก็จะทำอีกเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้เสี่ยเจียงประกาศใครอยากทำก็ทำ
"หนุมานเป็นโปรเจ็กต์ซ้ำซ้อนกับอาร์เอส.น่ะหรือ ผมบอกถ้าอาร์เอสจะทำทำเลย ไม่เป็นไร ไม่หวง ผมบอกราเชนทร์ให้หยุดไว้ก่อน แต่ถ้าเขาอยากทำก็ให้เขาไป ผมไม่เคยคิดจะเอาเรื่องของเขามา คำว่าหนุมานถ้าพูดจริงๆ ไม่มีใครมีลิขสิทธิ์ เป็นของกลางแต่บทนี้เขียนโดยราเชนทร์มันเกิดจากเขา ถ้าเราจะใช้คำว่าหนุมานเราเขียนอีกบทหนึ่งก็ได้ หนุมานใครก็ใช้ได้ ทำไมไอ้จุ๊ยยังทำ "หนุมานคลุกฝุ่น" เลย"
"คำว่านเรศวรไม่ใช่ท่านมุ้ยสร้างได้คนเดียวใครก็สร้างได้ ผมบอกราเชนทร์คืนเขาไปเถอะ เราทำใหม่ๆ ไม่ยุ่งยาก นี่เขากำลังจะทำทีเซอร์ให้ผมดูอยู่ เราจะทำหนังเรื่องหนึ่งเพื่อขายต่างประเทศเราต้องมีความคิดว่าเรื่องนี้ขายได้เพราะจุดไหน ไม่ใช่หนุมานแล้วขายได้"
"ผมไม่รู้เรื่องนะ ผมไม่ได้ไปบอกเขา อยู่ที่ราเชนทร์เขาจะเอาเงินจากอาร์เอส.แล้วเขียนแล้วเขาจะเอามาคืนก็ไปคืนเขา ผมไม่เกี่ยวกับเขา จะให้ผมทำผมจะทำอะไรก็เรื่องของผม ทำไมอาร์เอส.ไม่ฟ้องไอ้จุ๊ยล่ะ ทำหนุมานคลุกฝุ่น มันไม่มีสิทธิ์น่ะ เชื่อผม ถ้าเขาจะเอาคืนจริงเราก็ไม่เอาเปรียบใคร ไปขึ้นศาลกับผมได้เลยถ้าผมเอาบทคุณมา แต่ถ้าเราอยากจะทำบทนี้เราก็จ่ายเงินให้เขา บริษัทเราไม่ขี้โกง"
"แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากทำ เขาจะทำอะไรเรื่องของเขา ที่ไม่อยากทำเพราะผมมองไม่ออกว่าจะขายอะไร เราต้องมองว่าทำแล้วขายเมืองนอกได้ผมถึงอยากทำ"
ส่วนเรื่องข่าวทางสหมงคลฯ ไม่ยอมเอาหนังเรื่อง "Friend" ของ "พจน์ อานนท์" ลงฉายเพราะต้องการแก้แค้นผู้กำกับดังแทนลูกรัก "ตั๊ก บงกช คงมาลัย" นั้น เจ้าตัวยันไม่จริงพร้อมติง "พจน์" ไปทำหนังให้ที่อื่นไม่เห็นมาบอกตนก่อน
"พจน์ไม่เข้าใจตลาด มันอยู่ที่เราวางโปรแกรม เราไม่แกล้ง ไม่เกี่ยว เงินเราน่ะ ไม่ใช่เงินไอ้พจน์ เราก็อยากขายแต่ว่าจังหวะวางไปยังไม่ดีเราก็ถอยก่อน เขาไม่ได้เอาเงินมาหุ้นกับผมนี่ ผมไม่มีอะไร อยู่ๆ เขาไปทำหนังกับคนอื่นโดยไม่ได้บอกกล่าว ผมไม่รู้เรื่องอะไร ถึงวันนี้ยังไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ"
"คุณทำหนังที่บ้านผมจู่ๆ คุณจะไปทำที่อื่นคุณต้องบอกบ้านเราก่อน แล้วค่อยไป ผมไม่เคยว่าใครแต่ขอให้เรารู้หน่อย คนจะไปก็บอกกับทุกคนว่าอย่ายุ่ง ปล่อยเขาไปเถอะ ก็ไม่เคืองน่ะมองว่าเฉยๆ ผู้กำกับที่อยากมาอยู่น่ะมีเหลือเฟือ"
"ถามว่าเพราะพจน์มีปัญหากับตั๊กหรือเปล่าผมเลยไม่เอาหนังมันลงฉาย เขาไปมีเรื่องอะไรผมไม่เกี่ยว เพราะเรื่องส่วนตัวคุณ แต่คุณใส่เสื้อสหมงคล ฟิล์มอยู่ ผมไม่อยากให้คนของผมทะเลาะ ผมเป็นคนรักเพื่อนฝูง พอมีกำไรก็แบ่งให้ ถามคุณพจน์นะตั้งแต่ชีวิตคุณพจน์ทำหนังมาคุณได้แบ่งเงินจากใครบ้าง เรื่องแรกผมก็แบ่งให้เขาไปล้านหนึ่ง"
 
                    

