"เบเบ้" รับเหตุไม่ดังเท่าเพื่อนร่วมรุ่น "โฟร์" เพราะไม่นิยมโชว์เซ็กซ์ ออกปากไม่เคยน้อยใจที่เสียโอกาสทำเงิน บอกขอเน้นใช้สมองเรียนหนังสือดีกว่า งานนี้เจ้าตัวมองชีวิตวงการบันเทิงไม่จีรังถ้าเหี่ยวเมื่อไหร่ก็จบเลยประกาศมุ่งหน้าทำธุรกิจเป็นงานหลัก
หลายคนเคยจับตามองว่า "เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา" ที่โด่งดังมาจากงานโฆษณาและงานถ่ายแบบจะเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งซึ่งรุ่นของสาวเบเบ้ที่ถูกจับคู่ให้แข่งกันมาตลอดก็คือนักร้องสาวค่าย อาร์เอส "โฟร์ ศกลรัตน์" แต่ด้วยลุคของเบเบ้ที่คล้ายเด็กไม่ยอมเป็นสาวซึ่งต่างจากภาพของโฟร์ที่นับวันจะทวีความเซ็กซี่ ฝ่ายหลังจึงดูเป็นที่น่าสนใจและดังเปรี้ยงมากกว่า
เมื่อถูกเปรียบเทียบเช่นนี้นักร้อง-นักแสดงหน้าแบ๊วเลยขอชี้แจงว่าเหตุที่ตนมีงานน้อยเพราะตนต้องเอาเวลาไปเรียนใช้ทุน
"หนูต้องเรียนใช้ทุนของเอแบคน่ะค่ะ ต้องเรียนให้ได้เกรด 3.5น่ะค่ะ ตอนนี้หนูเรียนได้ 4.00 ค่ะ อยู่ปี 2 คณะบริหารธุรกิจ ก็ถ้าหนูไม่เรียนหนังสือหนูก็น่าจะดังกว่านี้แต่เราเอาเรื่องเรียนเป็นที่ 1คือก็มีงานเข้ามาตลอดนะแต่หนูไม่สามารถเอาเวลาเรียนไปทำงานได้น่ะค่ะ"
"ถามว่าหนูเสียโอกาสมั้ยหรือ...แต่หนูมองไว้อนาคตดีกว่าว่าอยากทำธุรกิจอยากทำงานที่เราบริหารคนอื่น แล้วเราเป็นเจ้านายน่ะ กับการที่เราเป็นนักร้องหรือเล่นละครมันก็ไม่นานน่ะ เผื่อว่าหนูแก่หรือเหี่ยวก็ไม่ได้แล้วน่ะ แต่เราทำธุรกิจเรายิ่งแก่เรายิ่งน่าเชื่อถือ"
วางแผนอยากเปิดโรงเรียนสอนบัลเล่ต์และธุรกิจเกี่ยวกับความงาม
"หนูเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่เด็ก ฝันอยากเปิดสตูดิโอและพี่หนูไปสอบเป็นครูได้แล้วก็อยากจะเปิดให้พี่สอนด้วย แล้วก็ส่วนตัวอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำหอม เครื่องบำรุงผิว อาจจะเอาแบรนด์นอกมาขายเมืองไทยหรือสร้างแบรนด์เอง"
"ที่อยากมีธุรกิจเพราะพอมาเรียนเกี่ยวกับคอมเมิซน่ะชอบมาก จัดการอะไรต่างๆ แล้วรู้สึกดี เราได้บริหารงานแล้วเราภูมิใจในงานของเราเอง"
เมื่อถามตรงเป้าว่านักร้องสาวหน้าแบ๊วไม่อยากเปลี่ยนลุคให้ตัวเองดูเซ็กซี่เพิ่มขึ้นเพื่อเรียกเรตติ้งเหมือนคนอื่นบ้างหรือ เจ้าตัวบอกตนขอใช้สมองดีกว่า
"งานเซ็กซี่ก็มีเข้ามาให้ถ่ายชุดว่ายน้ำแต่หนูไม่ทำค่ะเพราะหนูไม่ใช่ทางนี้ เปลี่ยนให้เซ็กซี่หนูไม่ทำน่ะค่ะ หนูคิดว่าขายภายนอกมันขายได้แป๊บเดียวน่ะคือเราทำอะไรที่มันเป็นตัวของเราเองโดยที่เราไม่ต้องพยายามเซ็กซี่หรือเปิดเผยอะไรมากมาย"
"เพราะหนูคิดว่าเรียนหนังสือและใช้สมองพยายามดีกว่า ไม่จำเป็นต้องโด่งดังเลยเพราะว่าแค่นี้เราก็ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวอยู่แล้วน่ะค่ะ"
"เรื่องเปรียบเทียบกับโฟร์มีคนเปรียบเทียบอยู่แล้วแต่หนูไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าอย่างโฟร์เข้าค่ายเพลงใหญ่อาร์เอสเลยแต่หนูอยู่ช่อง 7 ด้วยอยู่ค่ายเพลงเล็กๆ ด้วย หนูก็ค่อยเป็นค่อยไปอยู่แล้วน่ะและหนูก็ไม่น้อยใจด้วยค่ะ"
ถามต่อว่าสาวเบเบ้อยากย้ายไปอยู่ค่ายที่ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ เจ้าตัวตอบทันที...
"ยังไม่เคยคิดถึงตรงนั้นก็คือเราไม่ได้ร้องเพลงเป็นจริงเป็นจังแต่เราทำเพราะว่ามีโอกาสเข้ามา และหนูก็ไม่ได้อยากไปอยู่ค่ายใหญ่ด้วยเพราะว่าเขาจะใช้งานเราตลอดเวลาและทำให้เราไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง"
"ตอนนี้หนูทำอัลบั้มที่ 2 อยู่ค่ะ แนวเพลงดูโตเป็นสาวขึ้น ค่อนข้างจะเต้นมากขึ้น ชุดก็ไม่เซ็กซี่เลยใส่เอี๊ยมธรรมดาเลย ส่วนความคาดหวังคืออยากให้มีคนฟังเพลงเรามีคนชอบ ไม่ได้หวังเรื่องรายได้มากนักเพราะมันหวังไม่ได้น่ะ ของหนูเพิ่งออกแต่ก็มีเอ็มพี 3 แล้วน่ะค่ะแต่กระแสตอบรับดีค่ะ"
การเรียนไปได้ดี การงานไปได้เรื่อยๆ แต่เรื่องความรักสาวเบ้ยังไม่ขอคิดเพราะกลัวเสียใจเหมือนตอนที่คบกับพิธีกรลูกครึ่ง "จอนห์ วิญญู"
"ความรักมีคนมาคุยแต่ไม่ได้อะไร ก็คุยเป็นเพื่อนค่ะ เป็นเพื่อนของเพื่อนค่ะแต่ไม่ใช่ลูกครึ่งแล้วค่ะ จริงๆยังไม่ถูกใจเพราะคุณแม่ก็ไม่ชอบด้วยเหมือนแม่ไม่อยากให้เราเจ็บอีก อยากให้ดูดีๆคบกันนานๆ สเปคหนูคือชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ คนที่ดูแลเราได้แล้วก็รูปร่างหน้าตาดูโอเค"