xs
xsm
sm
md
lg

งานหนังในมุม "อนันดา"...ทุกเรื่องมีจุดบอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนันดา ในมาดผมทรงใหม่
ขึ้นทะเบียนกลายเป็นพระเอก(หนัง)คุณภาพที่ขายดีไปแล้วสำหรับพระเอกหนุ่ม "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" ที่ล่าสุดมีงานหนังวิ่งเข้าชนกันถึง 4 - 5 เรื่อง แต่ถึงแม้จะมีงานออกฉายไม่ขาดสาย แถมรายได้รวมทั้งเสียงตอบรับในส่วนของบทบาทการแสดงจะออกมาดี ทว่าพระเอกหนุ่มก็ยังถ่อมตัว บอกเป็นเพราะเรื่องของจังหวะและความหลากหลายของงานที่ได้รับนั่นเอง

"ไม่ใช่มันจะป็อปอะไรหรอกครับ มันกองมาอยู่รวมกันปีนี้หลายๆ เรื่อง ตั้งแต่ชัตเตอร์ฯ ผมไม่ได้หยุดทำงานเลยแล้วหนังไม่ได้ฉายสักที มันก็อั้นๆ กันมามากองปีนี้หมด แต่ในหลายเรื่องนี้ก็มีทั้งหนังฟอร์มเล็กด้วย แล้วก็หนังที่มันจะได้กลุ่มคนดูแบบกว้างๆ หน่อย"

"ตอนนี้มีเรื่องพลอย เรื่องปืนใหญ่จอมสลัด, me my self ที่ผ่านมา แล้วก็มีหนังฝรั่งที่สหมงคลฯ เขาซื้อมา เป็นหนังของแถบเอเชียร่วมทุนกันหลายๆ ชาติ แต่ทุนรู้สึกจะเป็นของสิงคโปร์เป็นหลัก เป็นหนังรักล้วนๆ เลย เรื่องงานหนังถ้าจะให้เฉลี่ยภายใน 3 ปีนี้ก็ตกปีละ 2 เรื่องครับ มันก็ปกติ แต่มันอั้นมาฉายอยู่ปีนี้หมด แต่อย่างว่าก็จะได้รู้ว่าคนดูรู้สึกอย่างไรกับตัวละครที่ผมเล่นแต่ละเรื่องเพราะมันคนละบทบาท"

ยืนยันการรับงานไม่เกี่ยวกับเรื่องของค่าตัว แต่ดูที่เรื่องของบทมากกว่า
"รับงานก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าตัวอยู่แล้วครับ เวลาผมจะเล่นเนี่ย ผมดูตามสโคปครับ อย่างหนังของพี่แต้ (สันติ แต้พานิช) เนี่ยครับ หนังเรื่อง ดึกแล้วคุณขา ที่ผมเล่นให้เขาบางทีไม่ได้ค่าตัวอย่างเดียวนะช่วยออกด้วย ด้วยความที่เราสนิทกัน แล้วเรารู้สึกว่าถ้าวงการเราไม่มีหนังหลายๆ แบบให้คนดูก็รู้สึกว่ามันไม่สมดุลน่ะ หรือผมไม่ได้บอกว่าหนังเล็กดีกว่าหนังใหญ่หรือหนังใหญ่ดีกว่าหนังเล็ก"

"อย่างเรื่องพลอยนี้ผมเกือบจะเป็นตัวละครรับเชิญด้วยซ้ำ คือตัวละครที่ผมเล่นมีไว้เพื่อที่จะเป็นตัวสะท้อนมันไม่ใช่ตัวละครที่เดินเรื่องมีเหตุผลที่มา..."

ก่อนพูดถึงฟีดแบกของ "me my self ขอให้รักจงเจริญ" ที่แม้ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางบวกที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทว่าบางส่วนก็มองว่าหนังอืดเกินไปว่าเป็นความตั้งใจของผู้กำกับ (อ๊อฟ พงพัฒน์ วชิระบรรจง) ที่อยากสร้างให้เห็นถึงอารมณ์ของตัวละคร
"เป็นบางช่วง เรารู้สึกว่ามันเป็นจังหวะที่พี่อ๊อฟเขาอยากรักษาไว้ เขาตั้งใจ คือมันแล้วแต่คนเราจะรู้สึก บางช่วงมันซึ้งได้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลถึงตอนท้ายๆ เรื่อง ตอนฉากสุดท้ายเราพยายามไม่ลึกตรงนี้เพราะเราไม่ใช่ตัวแทนของสังคมนี้"

"เราจะพูดถึงตัวละคร 2 ตัวแล้วก็อุปสรรคอันนี้ ไม่อยากจะสรุปว่าต้องกลับมาเป็นผู้ชายได้หรือต้องเป็นเกย์หรือเปล่าต่อท้าย เรื่องมันก็บอกว่าเราเลือกได้ไม่ใช่หรือ ถ้าหากว่า ณ ตอนนี้เราเลือกเส้นทางชีวิตได้เนี่ยมันผิดหรือเปล่าที่เราจะเป็นอย่างนี้ คืออยากปล่อยให้คนกลับไปคิดด้วยแหละว่าเป็นไปได้หรือเปล่า"

"หนังทุกเรื่องมันไม่สมบูรณ์ที่สุดหรอก มันมีจุดบอดแตกต่างกันไปตามปกติ ต่อให้หนังดีแค่ไหนมันก็มีจุดบอดเพราะว่าหนังมันเป็นประชาธิปไตย มันแล้วแต่คนดู มันไม่มีอะไรมาบังคับให้ทุกคนชอบหนังเราได้ แต่รวมๆ เนี่ยผมรู้สึกว่าก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง แล้วอีกอย่างคนทำหนังแนวนี้ไม่ค่อยมีด้วย ซึ่งพอสร้างขึ้นมาแล้วทำได้ในระดับหนึ่งผมก็ค่อนข้างภูมิใจ"

ในหนัง "พลอย" ของผู้กำกับ "ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง" ที่เจ้าตัวรับบทหนุ่มบาเทนเดอร์และต้องมีฉากเลิฟซีนดุเดือดกับแม่บ้านที่แสดงโดย "การ์ตูน พรทิพย์ ปาปะนัย" นั้น พระเอกหนุ่มบอกว่าหวานใจนางแบบสาวอย่าง "จี๊ด แสงทอง เกตุอู่ทอง" นั้นเข้าใจดี ไม่มีหึงหวง และไม่หวั่นเสียงวิจารณ์ เชื่อหากดูหนังแล้วจะเข้าใจตัวละครมากขึ้น

"เขารู้อยู่แล้วตอนที่พี่ต้อมเอาบทมาอ่านให้ฟัง ก็นั่งอยู่ มีเขินๆ กันหน่อย เขินบทที่พี่ต้อมเขาเขียน เขาก็มาเยี่ยมกองนะแต่เขาห้ามเข้าอยู่แล้ว เราต้องให้เกียริติทางกองเขาหน่อยถ้าใครไม่เกี่ยวก็ห้ามเข้า แล้วเดี๋ยวเราเองจะมีปัญหาในการแสดงด้วยเพราะว่าฉากที่ผมเข้านั้นเป็นซีนที่อินในบท ถ้ามีคนเข้ามาดูมันก็หมดความรู้สึก หมดอารมณ์เลย แต่ผมว่านะตอนออกมาฉายจริงๆ คนดูจะเห็นแล้วขำ อายๆ แทนมากกว่า เพราะมันจะไม่ใช่ซีนที่ปลุกอารมณ์อะไร มันจะไม่ใช่แบบนั้น"

"ไม่ได้ถนัด ไม่รู้จะบอกอย่างไรดี คือต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นบ้าง มันไม่ใช่เรื่องของความถนัดเรื่องกล้า เพียงแต่ผมหาเหตุผลของมันได้ที่มันจะต้องมีฉากเหล่านี้ มันเป็นธรรมดาของมนุษย์เรื่องเพศสัมพันธ์เรามาปฎิเสธมันไม่ได้ แต่สิ่งที่สื่ออกมามันออกไปในเรื่องของความรักซะมากกว่า มันก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสังคมเราก็เลยไม่คิดมาก"

"ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าเจ๊เบียบ (ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช) เขาดูจากกระแสเฉยๆ เขาอาจจะแอนตี้ อาจจะนะ เห็นแกในทีวีแกก็มีเหตุผลเหมือนกันในสิ่งที่พูด ผมว่านะ ถ้าแกไปดูหนังเรื่องนี้ก็คงไม่มีปัญหากับมันมากสักเท่าไหร่เพราะมันไม่ได้ทำอะไรที่แบบว่าน่าเกลียดหรืออะไรแบบนั้น ถ้าเข้าใจว่าหนังจะสื่ออะไรนะผมคิดว่าคนดูก็คงรู้สึกไม่ยี้"

ไว้ผมยาวเลยบ่ามาหลายปีพอหั่นให้สั้นลงหลายคนเลยเดาว่าพระเอกหนุ่มเริ่มมีปัญหาความรักอะไรกับแฟนสาวหรือเปล่า? เจ้าตัวรีบปฏิเสธ ก่อนเผยอย่างอารมณ์ดีว่าแฟนสาวเป็นคนตัดให้เอง..."ในเรื่องพลอยผมยาวประมาณเลยบ่ามันร้อนแรกๆ ก็เลยให้จี๊ดตัดให้เป็นบ๊อบก่อน พออยากให้เป็นทรงเราก็ตัดอีกทีหนึ่ง ไว้บ๊อบอยู่ประมาณเดือนกว่ามั้งแล้วค่อยมาตัดแบบนี้ สบายเลย อาบน้ำทีเวลาเช็ดหัวเย็นเลย"

"คิดอย่างไรถึงตัด ก็นั่งอยู่ที่บ้านไม่มีอะไรทำ ก็บอกตัดผมหน่อยได้ไหม...มีคนบอกว่าตัดแล้วหน้าเด็กขึ้น ดูเด็กขึ้นหน่อย หนึ่งคือมันรู้สึกสบายดี พอมีลมมาเราก็รู้สึกเย็นดี ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรเลย ผมไว้ผมมา 3 - 4 ปีแล้ว เบื่อหน้าตัวเอง"
กำลังโหลดความคิดเห็น