กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วสำหรับกรณีของภาพยนตร์เรื่อง “แสงศตวรรษ” ของ "เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล" ซึ่งนอกจากจะไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ในบางฉากเป็นผลทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ฉายในประเทศไทยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ที่ทำการพิจารณาภาพยนตร์ยังไม่ยอมคืนฟิล์มให้กับทางเจ้าของภาพยนตร์โดยอ้างว่าจะต้องมีการตัดทอนในบางฉากออกเสียก่อนจึงจะคืนให้นั้น
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้นอกจากจะทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการทำงานของกองเซ็นเซอร์ของไทยในหลายๆ ภาคส่วนแล้ว ล่าสุดเรื่องนี้ยังได้กลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คนในวงการหนังหลายคนได้ออกมาแสดงถึงจุดยืนอีกครั้งว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่บ้านเราจะยกเลิกระบบการเซ็นเซอร์แล้วหันมาใช้การแบ่งเรตแทน
ทั้งนี้ทางมูลนิธิหนังไทยเองก็ได้จัดทำเว็บไซต์ขึ้นสำหรับให้ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยมาร่วมลงชื่อแสดงพลังเพื่อขอเรียกร้องต่อคณะสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้บัญญัติให้ภาพยนตร์เป็นสื่อสารมวลชนอย่างหนึ่งเพื่อปลอดจากการแทรกแซงและจำกัดสิทธิเสรีภาพจากอำนาจรัฐ ดุจเดียวกับสื่อสารมวลชนอื่น ๆ ทั้งหลาย เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่ http://www.petitiononline.com/nocut/petition.html
โดยเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้น "เจ้ย อภิชาติพงศ์" หนึ่งในหัวหอกของการเปิดประเด็นขึ้นมา เผยว่า...
"ผมรู้สึกเสียใจยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแก่หนังของผม อย่างไรก็ตาม การต่อสู้นี้มิได้เป็นไปเพียงเพื่อจะผลักดันภาพยนตร์เรื่องแสงศตวรรษให้ได้เข้าโรงฉายในประเทศไทย ผมมิได้มีความต้องการจะใช้โอกาสนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของผมเอง แต่ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องขบคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับกฎหมายการเซ็นเซอร์ของไทยเรา เพื่อที่คนทำหนังรุ่นต่อไปจะได้ไม่ต้องเผชิญปัญหาเดียวกับพวกเรา และผู้ชมชาวไทยจะได้มีอิสระในการเลือกอย่างแท้จริงเสียที"
"ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องถกเถียงกันว่า ก่อนที่หนังทุกเรื่องจะเข้าฉายนั้น ควรหรือที่มันจะต้องผ่านการพิจารณาจาก กรมศาสนา แพทยสภา กลุ่มวิชาชีพครู กรมแรงงาน ทหาร กลุ่มคนรักสัตว์ สหภาพแท็กซี่ ผู้แทนจากประเทศอื่น ฯลฯ? หรือมันจะง่ายกว่าหากเราเปลี่ยนระบบการปกครองของประเทศให้เป็นรัฐเผด็จการเสียเลยเพื่อที่เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างเห็นพ้องเป็นหนึ่งเดียวกันทุกสิ่ง และไม่ต้องเสียเวลาพูดถึงเรื่องประชาธิปไตยกันอีกต่อไป?"
"ระบบการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ของไทยจำเป็นต้องถูกประเมินมาตรฐานเสียใหม่ สถานภาพและประสิทธิภาพของคณะกรรมการเป็นสิ่งที่ต้องถูกตรวจสอบและตั้งคำถาม และเราควรตัดสินใจว่ากฎหมายเหล่านี้สมควรถูกเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?..."
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้(18) "หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล" ก็จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย