xs
xsm
sm
md
lg

เมล์นรกฯ เรื่องของ รถเมล์ สงกรานต์ และการเมือง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรียว กิติกร เลียวศิริกุล
แม้จะทำงานออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่หนังของผู้กำกับที่ชื่อ "เรียว กิติกร เลียวศิริกุล" ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ผู้ชมและนักวิจารณ์ทั้งหลายคาดเดาแนวทางของเขาได้อย่างชัดเจน

ภาพยนตร์หลายเรื่องก่อนหน้านี้ของเรียวได้รับคำชื่นชมจากนักดูหนัง และคว้ารางวัลมาได้จำนวนหนึ่ง แต่ในทางกลับกันก็ยังมีภาพยนตร์ของเรียวอีกจำนวนหนึ่ง ที่ตกต่ำทั้งในแง่ของรายได้และเสียงตอบรับของผู้ชม

และเมื่อมีการประกาศสร้างหนังชื่อแปลกที่มีโครงเรื่องเกี่ยวกับรถเมล์และวันสงกรานต์อย่าง "เมล์นรก หมวยยกล้อ" โดยมีชื่อของนักแสดงอย่าง เทพ โพธิ์งาม, ซู่โม่กิ๊ก และโน้ส อุดม ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ของเขาเป็นที่จับตามองยิ่งขึ้นไปโดยปริยาย

จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ "เรียว" เผยว่าอยู่ที่ความนึกสนุกอยากทำหนังที่เล่นเอง ถ่ายเองสักเรื่อง โดยวางตัวละครให้ตัวเองและคนใกล้ตัวแสดงกันเองเท่านั้น
"จุดเริ่มต้นคือเขียนบทเพื่อจะทำหนังกันเอง หมายถึงจะเล่นกันเอง ถ่ายกันเอง มันหลายปีแล้ว ผมเป็นคนที่เขียนอะไรทิ้งไว้ คือคิดแล้ว เขียนไว้ แต่ก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องรีบทำมัน ก็เก็บมันไว้ แล้ววันหนึ่งก็มาเล่าให้เมียฟัง เขาก็บอก ว่า เออ น่าสนุกดีนะ เดี๋ยวเราไปเล่นกัน"

"ก็กะว่าเดี๋ยวเอาไอ้โจ๊ก(ธีรดนัย สุวรรณหอม)เล่น ผมเล่น ผู้ช่วยเล่น คนนู้นเล่น คนนี้เล่นก็เล่นกันเองหน่ะ มีตังค์สามหมื่น ห้าหมื่น ก็ออกไปถ่ายหนังกัน ใช้กล้องดีๆ ถ่ายกันเอง คงจะสนุกดี แล้วมีคนใกล้ตัวบอกว่า เราเอาไปทำกับอาร์เอสน่าจะดีกว่า ผมก็ตามใจ นั่นเลยเป็นที่มาของหนังเรื่องนี้"

ลงมือเขียนบทด้วยตัวเอง ในช่วงที่เหนื่อยกับการถ่ายภาพยนตร์นเรศวร โดยเริ่มที่การมองว่าเทศกาลปีใหม่ของคนไทยคือ วันสงกรานต์ แล้วผูกเรื่องให้โยงไปถึงการนั่งรถเมล์กลับบ้าน
"แรกสุด ผมคิดถึงรถเมล์ก่อน แต่พอคิดว่า เราจะไม่ทำหนังแค่รถเมล์แบบนั้น ก็เลยทำหนังวันสงกรานต์ (ทำไมเลือกสงกรานต์) คือฝรั่งเขามีคริสมาสต์นะ ก็อยากจะบอกว่าของไทยก็มีเหมือนกัน ไทยก็มีปีใหม่ เพียงแต่เราไม่ได้นับหนึ่งมกรา เรานับสิบสามเมษา 13 เมษาคือการเริ่มต้นปี ไม่ใช่หนึ่งมกรา แค่นั้นเอง"

"แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ในมุมของผมคือการกลับบ้าน ไม่มีใครมาห้ามคนไม่ให้กลับบ้านวันสงกรานต์ได้ มันเข้ากับรถเมล์มาก ผมมีความรู้สึกว่า เออ มันเข้ากันมาก การเดินทางกับสายรถเมล์เนี่ย เราขับรถเมล์แล้วให้รถเมล์พาเรากลับบ้านวันสงกรานต์อย่างนี้ (หัวเราะ) มันคงสนุกดี"

"ตอนที่เขียนบทนี่เป็นตอนที่ผมถ่ายนเรศวร คือจริงๆ ตอนตัดสินใจที่จะทำแล้ว เป็นตอนถ่ายหนังนเรศวร ก็เลยให้น้องคนหนึ่งมาช่วยเขียน ชื่อไอ้โน๊ต ซึ่งจนผ่านไปสามเดือนมันก็เขียนมาได้สองหน้า สุดท้ายก็ต้องเขียนเอง แล้วยังโกรธมันไม่หาย มันกวนตีน(หัวเราะ) คือมันไม่ได้เขียนไม่ได้นะ มันคงไม่มีแรงบันดาลใจ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรมันมาก"

"เพราะมันไม่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจของมัน มันเกิดจากแรงบันดาลใจของผมเอง ก็เลยสรุปกูต้องเขียนเองใช่ไหม โอเค แต่มันเหนื่อยมากไง ตอนที่ผมถ่ายนเรศวรอยู่มันเหนื่อยมาก กลางวันถ่ายแล้วกลางคืนต้องเขียนบท กองนเรศวรมันไม่ใช่กองเล็กๆ นะ มันก็เลยเป็นที่มาว่ายังโกรธมันอยู่"

"ทีนี้พอมาทำ ก็เลือกรถเมล์สาย สนามหลวง-รังสิต เพราะถ้าจะกลับโคราช มันต้องไปเส้นนั้น คิดว่าน่าจะกลับบ้านที่โคราชแหล่ะ เพราะถ้ากลับทางเหนือตัวละครต้องพูดเหนือหรือเปล่า ถึงจะรู้ว่ากลับทางเหนือ มันคงต้องข้าเจ้า มันคงตลกไป หรือว่าจะต้องเป็นเหมือนพี่เป็บซี่ ภาษาแบบนี้ เขาก็ทำกันไปแล้ว อย่าไปทำเลยหน่ะ ก็เลยเอาโคราช แต่ไม่ได้ยึดติดอะไรมาก ไม่ได้ต้องเป็นภาษาอีสาน ก็อยากให้เป็นภาษากลางๆ ทุกคนฟังรู้เรื่อง"

ในส่วนของเหล่านักแสดงผู้กำกับแจกแจงว่าจุดสำคัญคือนักแสดงที่จะมารับบทคนขับ ซึ่งการแสดงด้วยวิธีการนั่งอยู่กับที่แล้วให้คนสนใจได้นั้น ต้องระดับขั้นป๋าเทพเพียงคนเดียว
"ต้องระดับเวิร์ลคลาส ระดับป๋า ถึงจะเอาอยู่ ใช่ไหม หรือตัวละครอย่างพูนทรัพย์ คือจะกลับบ้านด้วยรถเมล์จะหาใครที่มันจะทำอย่างนี้ได้ มันต้องระดับพี่กิ๊กแล้วนะ แล้วถ้าเกิดช้างสองเชือกชนกันบนรถแบบนี้แล้ว ใครจะไปงัดต้องประมาณ โน้ส อุดมนะ ถึงจะเอาอยู่ มันเป็นเรื่องของรัศมีดาราที่ต้องเพียงพอน่ะ"

"(นึกถึงป๋าเทพคนแรกเลย?)ไม่ครับ ถ้านึกนะ นึกถึงไอ้โจ๊ก(โจ๊ก ธีรดนัย สุวรรณหอม)ก่อน ถ้านึกถึงก็นึกถึงไอ้โจ๊ก เพราะตอนคิดนี่จะทำกันเองเล่นกันเอง แต่พอจะมาทำกันอย่างนี้ ไอ้โจ๊กมันคงไม่เหมาะแล้วใช่ไหม มันไม่เข้ากันหน่ะ ก็เลยไม่เอา"

บอกไม่กลัวคนดูติดภาพหากินกับดาราวัยรุ่นมาดกวน "โจ๊ก ธีรดนัย" เพียงแต่ที่เรื่องนี้ไม่มีชื่อโจ๊ก เป็นเพราะแนวทางของเรื่องไม่ถูกกับจังหวะของนักแสดงคู่บุญเท่านั้น พร้อมทั้งปฏิเสธไม่ได้ตั้งใจจับดาวตลกสามยุคมาชนกันเพื่อขายหนัง..."ไม่หรอกครับ ไม่สนใจ จะติดภาพก็ได้ อย่างคอปเปอร์ล่ากับเดอนีโรเล่นด้วยกันทุกเรื่อง ยังไม่เห็นเป็นอะไร ท่านมุ้ยกับสรพงศ์ก็ยังเล่นด้วยกันแทบทุกเรื่อง..."

"ตอนแรกก็เขียนมาให้มันเล่นแหละ กระเป๋ารถเมล์ แต่พอทำแบบนี้แล้วมันไม่ใช่แล้วไง มันเป็นหนังคนละทาง...ถ้าไอ้โจ๊กเล่นก็ต้องเป็นหนังคนละทาง ถ้าผมทำกันเอง ถ่ายกันเอง มันจะเป็นตลกอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นตลกกวนส้นตีนไปเลย ไอ้นี่มาทางนี้ มันต้องหานักแสดงให้เข้ากัน ไม่เข้ากันมันก็ไม่ได้หรอก"

"ผมไม่ได้ตั้งไว้ว่าจะจับดาราตลกสามยุคสามสมัยมาชนกันแบบนี้หรอก ชื่อมันผุดขึ้นมาในหัวเฉยๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นการรวมดาวตลกสามยุค เพราะการรวมตลกสามยุคแบบนั้น ถ้าสมมุติว่าป๋าต๊อกยังอยู่ ป๋าต๊อกก็คงไม่มีใครทันแกมั้ง ใช่ไหม หรือเอา เทิ่ง สติเฟื่องมา มันก็คงไม่ใช่ มันไม่ใช่สามยุคนะครับ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ผมคิดจากคาแรกเตอร์คนมากกว่า คาแรกเตอร์ของตัวแสดงเป็นหลัก ไม่ได้คิดถึงอย่างนั้น"

ยอมรับว่า "เมล์นรกฯ" จำกัดประเภทยาก บอกสมัยนี้หาหนังที่แยกประเภทเดี่ยวๆ อย่างชัดเจนได้ยาก แต่ชี้แจงว่าไมได้ก็อปปี้หนังดังจากฮอลลีวูดมาแต่อย่างใด
"มันจำกัดสปีชีส์มันยากนะครับ มันยากจริงๆ แต่ดูแล้วมันประมาณโรแมนติก - คอมเมดี้นะ ถ้าให้แยกสปีชีส์ขนาดนั้นใช่หรือเปล่าไม่รู้นะ เพราะหนังปัจจุบันที่มันฉายอยู่ไม่ว่าจะเป็นของหนังฝรั่ง หรือว่าหนังจีน มันเริ่มแยกไม่ได้แล้ว เดี๋ยวนี้เราไม่ได้ทำหนังแอ็กชันเดี่ยวๆ แล้ว หรือเราไม่ได้ทำหนังตลกเดี่ยวๆ แล้ว"

แม้จะเป็นหนังตลก แต่ใครจะรู้บ้างหรือไม่ว่าหนังเรื่องนี้มีเรื่องของการเมืองสอดแทรกอยู่ด้วย
"หนังมันตลก(กล้าออกตัวเลยว่า เรื่องนี้ตลก?) ใช่ ก็ทำหนังตลกนี่ มันก็ตลกนี่หว่า ตลกแบบเรานะ (นักแสดงเพิ่มมุขเองไหม?) เพิ่ม เขาก็ใส่ลงไปพอสมควรแหล่ะ คือใส่เพิ่มได้ แต่ห้ามนอกเรื่อง"

"ส่วนเรื่องที่ว่ามันเป็นหนังการเมือง...คือผมเขียนบทในช่วงที่เขาปฏิวัติกัน ในช่วงที่เขาประท้วงกัน ยอมรับว่ามันมีผลสะท้อนมาในการเขียนบท แต่ผมไม่ได้ทำเรื่องการเมือง ผมทำเรื่องคนจะกลับบ้านวันสงกรานต์ แต่มันเสือกมีส่วนที่ซึมเข้ามา นั่งเขียนบทไปก็ดู ASTV ไป มันก็ซึมเข้ามาในบทด้วย ซึ่งผมไม่ได้ไปจำกัดมัน แต่ต้องยอมรับว่าผลสภาวะแวดล้อมมันมีผลต่อภาพยนตร์ มันมีผลต่อความคิด เราไม่ควรที่จะไปจำกัดหรือว่าไปกีดกั้นมัน"

"แต่มันไม่ใช่เรื่องการเมืองจ๋า มันอยู่ในอณูของมันเอง มันเป็นผลจากการเมือง พล็อตหน่ะมันพล็อตเดิม แต่กลิ่นของมันก็ไหลไปตามวันเวลา เรายังอยู่ที่ประเด็นเดิม เราไม่ได้เปลี่ยน แต่กลิ่นมันมีบวกเพิ่มมา ผมก็เลยคิดว่ามันเป็นหนังการเมืองหรือเปล่า ถือว่าจัดสปีซีย์ยากเหมือนกันนะเนี่ย"

เรียวบอกเขียนบททุกวัน อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่กดดันตัวเอง ลั่นในอนาคตอยากทำหนังมาสเตอร์พีซของตัวเองสักเรื่อง ยอมรับทุกวันนี้มาตรฐานหนังตัวเอง ยังไม่ถึงขั้นตำนานที่คนดูจะนำมาเปิดซ้ำหลายๆ รอบได้
"สำหรับหนังแนวที่อยากทำมีอีกเยอะแยะ แต่ไม่ได้บังคับตัวเอง ว่าจะต้องทำหนังแนวไหน(โปรเจคต่อจากเมล์นรก?) คิดไว้ทุกวันแหล่ะ คิดไปเรื่อย คิดไม่เคยซ้ำกัน แล้วก็ทิ้งมันไว้ก่อน อย่าเพิ่งทำ แล้วค่อยตัดสินใจว่าเราจะทำอะไร(ไม่กลัวลืมเหรอ) จดไว้ครับ เขียนเป็นบทเยอะแยะ เก็บไว้เป็นตันแหล่ะ ตอนนี้ผมก็เขียนทุกวันนะ ตื่นตีสองมานั่งเขียนบท"

"(ทำไมต้องเขียนตีสอง?) กลางวันต้องเลี้ยงลูก กลางคืนลูกไม่กวน บางวันก็นั่งเล่นเกมส์ บางวันเขียนแค่สามบรรทัด แล้วไปนั่งเล่นโปรแกรมซอฟแวร์ นั่งเล่นทรีจีบ้าง อะไรอย่างนี้ ไม่ได้บังคับตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวติสแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน แรงจะหมดตอนไหน แต่คิดว่า เอาน่ามันจะต้องมีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องทำแบบนี้ ถ้ามันถึงเวลาที่จะต้องทำแบบนี้ ก็ทำแบบนี้ ทำตัวเป็นติสบ้าง ก็เอา ลองดู ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ มันไปเรื่อยๆ ไม่ได้บังคับมัน"

"ผมอยากทำหนังที่คนอยากดูนะ ไม่ได้อยากทำหนังที่ส่งคาร์ฟูร์ (หัวเราะ) ไม่ได้เกลียดคาร์ฟูร์นะ ชอบคาร์ฟูร์มาก เดินทุกวันเลย แต่ในแง่คนทำหนังเนี่ย คุณคิดดูนะ หนังอย่าง ก็อด ฟาร์เธอร์ หรือลอร์ด ออฟ เดอะ ริง หรือรวมทั้งหนังชาร์ลี แชปลิน ที่เป็นหนังเงียบ ซึ่งถ่ายทำด้วยฟิล์ม 8 มม. จนวันนี้เราเปลี่ยนซอฟแวร์มาเป็นแบบวิดีโอ เป็นวีซีดี เป็นดีวีดี เป็นบลูเลเซอร์ จนถึงปัจจุบันมาเป็นเคเบิ้ลอะไรต่อมิอะไร ผมก็ยังเชื่อว่า เขาจะยังเอาหนังพวกนี้ มาแปลงเป็นรูปแบบพวกนั้น"

"ทุกวันนี้ผมก็ยังเห็นเด็กที่ดูเป็นแบบบลู เลเซอร์ แต่เขาคงไม่เอาหนังแบบเดอะ เมียมาทำบลู เลเซอร์ หรอก มันจะมีคนซื้อบลู เลเซอร์ เดอะ เมียดูไหม ผมอยากทำหนังอย่างนั้นมากกว่า ที่ไม่ว่าซอร์ฟแวร์จะเปลี่ยนไป หรือสักวันหนังมันจะไปอยู่ในอากาศหมดแล้ว มันไม่มีตัวที่จะไปซื้อหามาได้ มันไปอยู่ในอากาศ รวมทั้งการดูหนังจากทางโทรศัพท์จนไปถึงจากทางโทรจิต เว่อร์ไปถึงขนาดนั้น ผมก็ยังเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากดู เดอะ เมียนะ เขาก็คงอยากดู ดิ อันทีชชิเบิ้ล, ชาลี แชปลิน, บรู๊ซ ลี มากกว่า ผมอยากทำหนังแบบนั้นมากกว่า"




มาดผู้กำกับของเรียว ในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดเมล์นรก หมวยยกล้อ

กำลังโหลดความคิดเห็น