วิบากกรรมของ "ดาว มยุรี" กับชีวิต(ที่)ได้ไม่คุ้มเสีย!?!

คุณคิดว่าคนหนึ่งคนจะต้องเจอเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตได้สักกี่ครั้ง?

และเคยคิดกันเล่นๆ หรือไม่ว่าคุณจะโชคร้ายที่สุดด้วยเรื่องอะไร?

หากนึกไม่ออกและจินตนาการตามไมได้ เอาอย่างนี้ถ้าคุณเจอเรื่องที่คิดว่าแย่ที่สุดในชีวิตคุณพอจะตอบตัวเองได้มั้ยว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร?

กับผู้หญิงคนนี้ "ดาว มยุรี" ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทยซึ่งโด่งดังสุดๆ กับเพลง "มีเมียแล้วไม่เอา" ได้ผ่านเหตุการณ์ที่หลายคนคงคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องประสบพบเจอกับโศกนาฏกรรมมากมายขนาดนี้เชียวหรือ

เค้ามรสุมเคราะห์กรรมถาโถมเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวตั้งแต่ดาวเริ่มมีชื่อเสียงใหม่ๆด้วยการเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งด้วยการถูกครหาว่าเป็น "ลูกอกตัญญูทิ้งพ่อแท้ๆ ให้ตกระกำลำบาก" สร้างความหนักใจให้ดาวอย่างมาก

จากนั้นก็มีข่าวทำแฟนเพลงช็อคกันทั้งประเทศเมื่อจู่ๆ เธอก็ประกาศว่าท้องกับผู้จัดการส่วนตัว "เอก มนูญ พิมพาทอง" ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเคยได้ยินข่าวการแต่งงานของเธอมาก่อน นักร้องสาวเลยถูกโจษขานอย่างหนักว่า "แหกตาประชาชน" อยู่ได้ตั้งนาน

แต่สาวดาวกู้หน้าด้วยการออกมาขอโทษแฟนเพลงอย่างสุดซึ้ง ถือว่าช่วงนั้นนักร้องสาวดังมากเพราะขนาดท้อง 7 เดือนแล้วดาวยังต้องไปเล่นคอนเสิร์ตแดนซ์กระจายให้คนดูอยู่เลย ซึ่งสาวดาวเคยให้สัมภาษณ์ออกรายการหนึ่งว่า...

"ต้องขอโทษทุกคนด้วยค่ะที่ไม่ได้บอกกล่าวกัน ดาวยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้คิดจะเปิดเผยเรื่องลูก แต่ไม่รู้ว่าข่าวรั่วออกไปได้ยังไง เครียดอยู่เหมือนกันว่าแฟนเพลงจะรับได้ไหม บางคนถึงขนาดตามไปดูคอนเสิร์ตเพื่อให้เห็นกับตาว่าดาวท้องจริงหรือเปล่า เพราะท้องดาวเล็กมากค่ะ ดูแทบไม่ออกว่าท้อง 7 เดือนแล้ว"

เมื่อถึงเวลาที่ลูกสาว "น้องเฟรช ณัฐธิดา" ลืมตาดูโลกแม่ดาวก็ต้องทุกข์ใจอีกเพราะน้องเฟรชมีร่างกายที่ผิดปกติคือเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่แต่โชคยังดีที่ความก้าวหน้าของการแพทย์สุดล้ำทำศัลยกรรมน้องเฟรชจนสวยเหมือนแม่แล้ว

ครอบครัวน่าจะกำลังอบอุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบเพราะมีลูกวัยน่ารักเป็นโซ่ทองคล้องใจแต่ด้วยความที่สามีเป็นคนเจ้าชู้สุดๆ ทำให้ทั้งคู่เกือบเลิกรากันอยู่หลายครั้ง สามีเคยแอบหนีไปแต่งงานใหม่ถึง 2 รอบ!! โดยดาวเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...

"เขาเป็นแฟนคนแรกและแฟนคนเดียวของดาวเกือบ 20 ปีที่คบกันดาวต้องเจอกับเรื่องเจ้าชู้นี้ตลอดถึงขนาดที่ตอนคบกับดาว แล้วมาวันหนึ่งเขาแอบไปแต่งงานโดยที่ไม่บอก พอรู้ดาวก็ตามไปถึงงานแต่งเขาเลย ไปร่วมงานของเขา ขึ้นเวทีร้องเพลงให้เขาด้วย ร้องไปน้ำตาก็ไหลไป คนทั้งงานตกใจกันหมด"

"อย่างเคยจับได้ว่าเขาไปซื้อบ้านให้ผู้หญิงอื่น พอดาวรู้ความคิดแวบแรกก็บอกกับพี่ฮาย พี่ยิ่งยงว่าจะเลิก แต่เขาก็เตือนสติให้คิดดีๆ คิดถึงลูก ดาวก็เลยค่อยๆ คิดแล้วมานั่งคุยกัน ท้ายที่สุดทุกอย่างก็คลี่คลายลงได้ด้วยดี แฟนก็รับปากว่าจะกลับตัวใหม่ เพื่อครอบครัวเพื่อลูกค่ะ"

ความช้ำใจยังมีตามมาแบบไม่สิ้นสุดเมื่อใบหน้าที่เคยสวยได้รูปกลับเละไม่เหลือเค้าของเดิมเพราะซิลิโคนเป็นพิษจากการทำศัลยกรรมทั้งหน้าของเธอ กว่าจะแก้ได้ก็เสียเงินและเจ็บตัวไปเป็นสิบๆครั้ง แถมต้องเจ็บใจอย่างหนักอีก

รวมถึงเรื่องเลวร้ายเรื่องสุดท้ายในชีวิตที่นักร้องสาวคนนี้ควรจะได้รับ...กับข่าวร้ายที่สุดที่ "นายสมบูรณ์ พันธนาม" พ่อผู้ให้กำเนิดโดนคนวิกลจริตฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมด้วยการตัดคอจนขาดกระเด็นขณะขี่รถจักรยานอยู่ที่บ้านที่ จ.อำนาจเจริญเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยนักร้องลูกทุ่งสาวผู้โชคร้ายได้เล่าวินาทีที่ได้ทราบข่าวการสูญเสียพ่อให้บันเทิง ผู้จัดการออนไลน์ได้ฟังหลังจากที่ดาวทำใจได้ค่อนข้างมากแล้วว่า...

"โอ้โห! ตอนได้ข่าวช็อคเลยน่ะตอนแรกก็ไม่เชื่อเลย สายแรกที่เขาโทรมาบอกนึกว่าเขาแกล้งไง พอหลายๆครั้งก็เลยโทรศัพท์ไปเขาบอกว่าเป็นเรื่องจริงก็กว่าจะทำใจได้ นั่งอยู่ครึ่งชั่วโมงเลยนะคะ นั่งน้ำตาไหลคิดว่าเอ๊ะ! ใช่เหรอ เป็นจริงเหรอเพราะพ่อเราไมได้เจ็บป่วยไข้อะไรน่ะ แล้วเราฟังเหตุการณ์คอขาดเราเจอแต่ที่ภาคใต้ก็คิดว่าทำไมเราเจออย่างนี้ มันไม่คิดน่ะ มันเร็วมาก เสียใจที่เหตุการณ์นี้มาเกิดขึ้นกับพ่อ"

รับรู้ข่าวร้ายเสร็จต้องรีบตั้งสติให้ได้ให้เร็วที่สุด
"ตอนนั้นที่ได้รับข่าวดาวกำลังจะถ่ายหนังสือแฟชั่นลูกทุ่งนะคะ กับ ฮาย (อาภาพร นครสวรรค์) กับ พี่ยิ่งยง ยอดบัวงามกำลังรอช่างภาพมาแต่ดาวแต่งหน้าอะไรเสร็จแล้วนะ ก็ไม่คิดว่าต้องแต่งหน้าไปรับศพพ่อตัวเองเลย ก็นั่งอยู่ทำใจน่ะต้องตั้งสติกลับไปที่บ้านเก็บเสื้อผ้าและจองตั๋วเครื่องบินไปที่อุบลฯ ต้องกลับไฟลท์ 6 โมงเย็นเพราะเป็นไฟลท์บ่ายไม่ทันน่ะค่ะ"

"ตอนเก็บเสื้อผ้าก็คิดว่าต้องทำอะไรบ้างก็โทรให้น้าๆญาติๆผู้ใหญ่ไปรับศพพ่อไปโรงพยาบาลก่อน แต่งศพอะไรแบบนี้น่ะค่ะ พอไปถึงวินาทีที่เห็นพ่อก็ใจหาย มันบอกไม่ถูกว่าใช่เหรอแต่ไม่กล้าดูศพนะคะแต่ว่าเปิดดูตอนสุดท้ายตอนจะเผาและพี่ๆนักข่าว พี่ๆตำรวจผู้กำกับน่ะเขาก็ไม่กล้าให้ภาพเอามาให้ดาวดูเพราะกลัวดาวช็อค พอเราได้ฟังเรื่องราวเราก็คิดว่าพ่อเราไม่น่ามาเสียในสภาพแบบนี้ ไม่น่ามาเสียชีวิตแบบนี้"

ลางร้ายบอกเหตุก่อนพ่อเสีย
"ตัวดาวไม่มีลางนะแต่น้องสะใภ้เขาฝันว่าพ่อมาหาแต่งตัวดีมากเลยแล้วพ่อไปคอนเสิร์ตกับเราเพราะปกติพ่อจะไปด้วย เขาจะมาเล่นกับเราน่ะเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดีมาก จะยิ้มตลอดก็สนุกสนานกัน แล้ววันรุ่งขึ้นนะต้องไปถ่ายหนังสือด้วยกันกับน้องสะใภ้ ตอนเช้าเขาก็ยังใส่ชุดสีฉูดฉาดสีสดใสนะแต่อยู่ดีๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นชุดขาวดำน่ะวันนั้นน่ะ"

"แต่กับดาวเนี่ยรู้สึกได้ว่าวันที่ 8 วันที่ 9 แกมาหา จะมาแกล้งเราให้เปิดประตูห้องไมได้ เราก็หมุนลูกบิดไม่รู้กี่ครั้งน่ะก็หมุนไมได้ เปิดไม่ออกสักที แต่พอผ่านไปสัก 3นาทีเรียกให้พี่เลี้ยงมาเปิดให้ก็แก๊กเดียวก็ได้น่ะ ก็รู้แล้วว่าพ่อแกล้งมาอำเรา แกจะมาหาที่ห้องน่ะเพราะคนตายใหม่ๆน่ะจะยังไม่รู้ตัวจะรู้วันที่7-8-9 แล้วเขามาแบบนี้น่ะ เราก็แบบอยากให้เขามาเข้าฝันนะ"

"ตอนเด็กๆดาวจะสนิทกับพ่อนะ ติดพ่อมาก ไปไหนพ่อจะเอาไปด้วยจนถึงป.3นะเด็กๆ พ่อไปอยู่กับแฟนใหม่เราก็จะตามไปอยู่ตลอดเลยน่ะค่ะ ตอนเด็กๆ พ่อรักน่ะ"

วิธีทำใจรับมือกับเรื่องเศร้าที่สุดในชีวิต
"อาจเป็นเพราะเราเจอเหตุการณ์แย่ๆ มาเยอะ แม่ก็เสียตั้งแต่ดาวอายุ 3-4 ขวบแล้วตอนนี้มีแต่น้องชายคนเดียว อีกอย่างดาวเจอข่าวมามากมายน่ะ พอมาเจอแบบนี้มันก็ช็อคนะแต่มันเป็นช็อคในอีกรูปแบบหนึ่ง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวทิ้งพ่อขึ้นหน้าหนึ่งมาแล้ว มันก็อีกอารมณ์หนึ่ง มาเจอเรื่องแบบนี้ก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง มันไม่น่าเชื่อน่ะว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเรากับพ่อเหรอ มันเร็วน่ะ"

"เราได้กำลังใจจากทุกฝ่ายนะ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลง พี่น้อง เพื่อนๆในวงการเรา ทุกคนก็ให้กำลังเรา คนรอบข้างคนสนิทเราน่ะค่ะ"

"คือมันก็ต้องมีสติก่อนนะคะแล้วเราก็คิดว่าชีวิตทุกชีวิตต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตายแต่ทีนี้ช่วงที่มันเกิดเหตุการณ์เราจะทำอย่างไรล่ะมันก็ต้องใช้สตินะ นาทีที่ว่าเราจะทำอย่างไรจะจัดงานให้พ่อเราให้สมเกียรติอย่างไร เราก็ยังมีหน้าที่ตรงนี้ อย่างทำบุญ 100 วันเราก็ทำเจดีย์ให้เขา"

จัดงานศพอย่างสมเกียรติให้พ่อทดแทนบุญคุณครั้งสุดท้าย
"ถามว่าจัดงานใหญ่มั้ยก็เอาให้สมเกียรติเขานะ ไม่ใหญ่มากแต่ก็ให้ดูดีน่ะ ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มา หลายคนก็บอกว่าไม่เคยเจองานศพที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยแบบผู้หลักใหญ่ก็บอกว่าจัดได้ดี ก็อืมเขาพูดมาเราก็ภูมิใจนะคะ แต่ยิ่งใหญ่รึเปล่าเราก็ไม่รู้แต่เราจัดให้ดีและสมเกียรติที่สุดน่ะค่ะเพราะว่าศพต้องเอาไว้ที่บ้านนอกเอามาที่กรุงเทพฯ ไมได้ ชาวบ้านก็ชมมาก็ขอบคุณน่ะค่ะ"

หลายคนเชื่อว่าก่อนหน้านี้เพราะ "ดาว มยุรี" ประสบความสำเร็จมากด้านการงานแต่ต้องมาเจอเหตุการณ์สุดเศร้าครั้งนี้เหมือนเป็นการได้มา-เสียไป ส่วนตัวดาวเชื่อเรื่องนี้มั้ย?
"เชื่อค่ะเพราะว่าเราเกิดมาเนี่ยเราเป็นมนุษย์มาเราได้อย่างเราก็ต้องเสียอย่าง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามสร้างบุญไว้เยอะๆน่ะค่ะเพราะว่าบุญนี่แหละที่จะช่วย เราเชื่อศาสนาพุทธนะคะ พยายามทำบุญสร้างกุศล"

"ดาวเชื่อว่าพอเราดังมีชื่อเสียงเราก็ต้องมีข่าวคราวทั้งดีและไม่ดี ทีนี้เรามาอยู่ตรงจุดนี้เนี่ยเรามาเป็นคนของประชาชนเราจะทำอย่างไรต้องรับให้ได้กับข่าว ใหม่ๆรับไมได้เลยนะ ช่วงเริ่มดังรับไมได้เลยข่าวแรงมาก เป็นโรคกระเพาะเลย อ้วกเลยน่ะ ปวดหัวมากๆ เลย"

"พอเริ่มมีข่าวที่แรงขึ้นๆ อีกก็เริ่มทำใจ เราก็แบบไม่ได้นะ เราต้องรับมือให้ได้สิ เราต้องพิสูจน์อย่างที่มีข่าวเรื่องพ่อแบบช่วงนั้นอยากฆ่าตัวตายเลยน่ะ อยากจะพิสูจน์ตรงนี้ว่าเราไมได้เป็นคนแบบนี้นะ พอมานั่งฉุกคิดได้ว่าไม่ได้ถ้าเราตายไปเนี่ยความตายก็ช่วยไมได้ แล้วใครจะรู้ล่ะว่าเราเป็นอย่างไร"

"พอมาถึงสุดท้ายพิสูจน์รู้ว่ามันไม่ใช่ มันเกิดจากบุคคลที่ 3 ที่มายุแยงให้พ่อเราทำแบบนี้ ลำพังพ่อแม่คนน่ะไม่มีใครอยากทำร้ายลูกตัวเองหรอกค่ะ ก็นี่แหละ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีที่สุด"

"ทุกอย่างจะผ่านมาได้ด้วยดีก็อยู่ที่ว่าเราเข้มแข็งแค่ไหน แต่ว่าอันนั้นก็คือทำให้เรามีประสบการณ์ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นนะคะ เราอาจจะผ่านพ้นจุดนั้นมาได้มั้งทำให้เรามีสมาธิขึ้นที่ผ่านตรงนี้ไปได้ส่วนหนึ่งค่ะ"

ถูกนินทาสุดร้ายซ้ำอีก "พ่อตายแต่ดาวไม่เศร้าเลย"!?!
"ทุกคนบอกว่าทำไมพ่อตายไม่เศร้าเลย อุ๊ย! ช่วงชั้นช็อคคุณรู้มั้ยล่ะว่าชั้นช็อคแบบไหนขนาดไหน จะให้ชั้นร้องห่มร้องไห้ตลอดเวลาเหรอ พ่อเราก็ไปสบายแล้ว ช่วงช็อคน่ะเราจะพูดอย่างไรได้บางทีมานอนสะอื้นนะ วันจะเผาน่ะนอนลงนะสะอื้นอยู่คนเดียว น้ำตามันตกในน่ะเออ มันเป็นแบบนี้เองเนอะ มันร้องไห้มันช็อคมากพอแล้วจนร้องไห้ไม่ออกแล้ว"

"ก็ยังมีคนพูดๆให้ผ่านๆหูมาน่ะค่ะกับคำว่านี้ ก็แล้วแต่นานาจิตตัง แล้วแต่คนคิดนะคะ ก็ช่างเขาเถอะ คือเขาไม่รู้หรอกพ่อเราทั้งคน จะให้มาร้องไห้แบบฟูมฟายจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ ก็เราช็อคมาเยอะแล้วน่ะ เราบอกไม่ถูกเลยน่ะรู้เลยคนช็อคมันเป็นอย่างไร"

ตามศาสนาพุทธคนจะมองเป็นเรื่องของเวรกรรม
"ก็มีส่วนแบบว่าอื้ม..พ่อเขาอาจจะมีกรรมตรงนั้นนะเราก็ฟังๆไปน่ะค่ะ ตัวเราเองก็เป็นชาวพุทธแต่ส่วนหนึ่งก็พ่อเขาอาจจะเชื่อแฟนใหม่เขามากเกินไปน่ะค่ะ เสียชีวิตก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้ บังเอิญว่าทางนั้นเขาดึงพ่อเราไว้มากเกินไป ทางแฟนใหม่เขาน่ะ ดาวก็ชวนพ่อมาอยู่กับเราที่กรุงเทพฯ แต่ทางเมียใหม่เขาไม่ให้มา นั่นแหละด้วยกรรมเขาตรงนี้ส่วนหนึ่งด้วย"

"เขาก็บอกว่ามันเป็นกรรมของพ่อนะ แต่ดาวคิดนะว่าถ้าเขาขึ้นมากรุงเทพฯ อาจจะเบากว่านี้เพราะไม่รู้ว่ากรรมคนที่อยู่กับเขาดึงเขาไว้ทำให้กรรมไปมากกว่านั้นรึเปล่า"

ฟ้าหลังฝนที่ได้กลับมาหลังเจอเรื่องร้ายที่สุดในชีวิตมาแทบนับไม่ถ้วน
"ถามว่ามีเรื่องดีๆ เข้ามามั้ยมันก็เหมือนกับก็พ่อไปสบายแล้ว คือภาพต่างๆ ที่คนคลุมเครือน่ะว่าที่มีข่าวทิ้งพ่อที่ผ่านมาก็เหมือนกับว่าเป็นเหมือนภาพหนึ่งที่ชัดแล้ว ความจริงมันเป็นอย่างไร เราแค่ดีใจแค่โอเคแค่นี้น่ะ ดาวไม่สามารถพูดว่าดาวไม่ได้ทิ้งพ่อนะ พอข่าวออกมาแบบนี้สุดท้ายดาวคือลูกที่ต้องดูแลพ่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ พ่อเราต้องดูแลอยู่แล้วข่าวที่ผ่านมาไม่ใช่ การที่ให้ทุกคนแฟนเพลงได้เห็นว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่นะแค่นี้ดาวก็ดีใจแล้วค่ะ"

คำพูดที่อยากสื่อถึงพ่อ...
"ถ้าพ่อได้ยินและรับรู้อยากบอกพ่อว่ารักพ่อมากๆ ค่ะ ที่ผ่านมาอาจไม่เข้าใจกันหรือการแสดงออกต่อพ่ออาจจะไม่มีไปบอก หนูรักพ่อ ไปกอดไปหอมพ่อ ดาวกับพ่อตอนเด็กใช่นะสนิทกันแต่ถึงปัจจุบันนี้มีความห่างน่ะ แต่ก็รักพ่อห่วงพ่ออยากให้พ่อมีความสุข"

"จริงๆ ดาวอยากให้พ่ออยู่กรุงเทพฯ ไม่อยากให้ไปเลี้ยงไก่น่ะเพราะเรามีแรงที่จะเลี้ยงพ่อเราได้แล้วอยากให้พ่อสบาย ถ้าพ่อรับรู้ได้อยากให้รู้ว่าเรารักเขา ทุกอย่างเข้าใจพ่อ ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียดพ่อแล้วนะคะ"

ชีวิตครอบครัว -ธุรกิจ - ผลงานเพลงกำลังไปได้สวย
"เรื่องมีน้องยังไม่คิดมีค่ะ มีแค่น้องเฟรชคนเดียวก็พอแล้ว ตอนนี้ชีวิตครอบครัวก็มีความสุขดี ไม่มีปัญหาอะไรแล้วจากที่เป็นข่าวมาก็ฟันธงไปแล้วก็ดีแล้วค่ะ ตอนนี้น้องเฟรชอายุ 4 ขวบ ขึ้นอนุบาล 2 แล้วค่ะ"

"เรื่องวางอนาคตให้ลูก ก็น้องเกรซชอบร้องเพลงนะ ชอบจับไมค์ บางทีจะเล่นพูดสวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ ทำท่ารับพวงมาลัยอะไรแบบนี้ ก็ไม่รู้ค่ะว่าโตขึ้นจะเปลี่ยนแปลงมั้ยก็ลูกสาวน่ะแต่ก็พยายามอยากให้เขาเรียนเรียนเยอะๆ นะคะ ให้ตั้งใจเรียน พูดถึงให้ลูกเป็นนักธุรกิจก็ดีนะเป็นอะไรที่ยั่งยืนแต่ถ้าเขาชอบงานบันเทิงก็ทำคู่ไปกันด้วยก็ได้ ไม่มีปัญหา อยู่ที่ลูกสาวชอบอะไรคนเป็นแม่ก็ค่อยๆ ดูแลและส่งเสริมลูกไป"

"งานตอนนี้กำลังออกอัลบั้มของตัวเองชุด "1 ทศวรรษด้วยรักจากดาว" ของแซ่บ สตาร์ เรคคอร์ด เป็นค่ายของดาวเอง วางแผงประมาณ 10 - 12 เม.ย. นี้ค่ะเป็นการนำเพลงที่สร้างชื่อมารวมอยู่ในนี้ ก็ 10 กว่าปีแล้วที่แฟนๆได้ให้ดาว มยุรีมายืนอยู่จุดนี้ เราก็เอามาทำดนตรีใหม่เวอร์ชั่นใหม่ คาดหวังก็แค่ให้แฟนเพลงให้การต้อนรับเราไม่ขาดทุนก็พอแล้ว ซึ่งดาวก็ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบโชว์ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม"

"ส่วนธุรกิจปุ๋ยเคมีเกษตร "ปุ๋ย แซ่บ 007" ยังทำอยู่มีหลายโปรดักส์เป็นร้อยๆ ตัวค่ะแต่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของแฟนดาว โปรเจ็คอื่นอย่างหนัง ละครก็มีรับเชิญบ้าง ก็อยากรับนะอยากทำก็แล้วแต่ทางผู้จัดจะเห็นควรน่ะค่ะ"

"งานโชว์ตัวที่ต่างประเทศอย่างอเมริกาก็มีแต่ตอนนี้มันเหนื่อยน่ะ ไปร้องเพลงอเมริกากับบ้านเรามันต่างกันมาก แล้วไปทีก็ไปเป็นเดือนน่ะต้องเตรียมเพลงไปเยอะมาก แต่ก็มีติดต่อมานะคะแต่ดาวต้องดูก่อนอีกทีหนึ่งเพราะงานเมืองไทยเราก็ยังไม่ซา"

คิดอย่างไรที่คนบอกว่า "ดาว มยุรีเป็นผู้หญิงเก่งและแกร่ง"
"กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องเข้มแข็งน่ะแล้วประสบการณ์สอนเรามาน่ะ พอเรามาจุดนี้เราผ่านอะไรมาเยอะมันก็เลยทำให้เราแกร่งขึ้น กว่าที่เราจะมายืนตรงจุดนี้มันแกร่งนะแต่บางทีมันก็อ่อนระทวยเหมือนกัน"

"ก็ถือว่าเป็นคำชมที่ดีมากๆน่ะ แต่เราเป็นผู้หญิงที่แกร่งเหรอเราก็คิดว่าเราได้ต่อสู้กับชีวิตก็เท่านั้นเองน่ะค่ะ"