ดูเหมือนว่าช่วงนี้ประเด็นการ "จูบ" จะกลายเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างค่อนข้างจะหนาหูในแวดวงบันเทิงของบ้านเรา
ตั้งแต่กรณีของ "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" ซึ่งไล่จูบสาวๆ ในคอนเสิร์ตเปิดฟลอร์ ที่แม้จะเชื่อได้ว่าเจ้าตัวไม่มีเจตนาส่อไปในเรื่องทางเพศ แต่เพราะด้วยความที่มีมากไปนั่นเองที่ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมขึ้นมา หรือจะเป็นกรณีของสาว "ทราย เจริญปุระ" ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่กลายเป็นที่ถกเถียงกันขึ้นมาเล็กๆ ว่า ยุคนั้น สมัยนั้น บ้านเราเมืองเรามีวัฒนธรรมการแสดงความรักด้วยปากบดปาก ลิ้นพันลิ้น เลยหรือ?
เรื่อยไปจนถึงข่าว "จูบจริง" ในแวดวงละครหลายต่อหลายเรื่องที่ถูกนำเสนอผ่านหน้าบันเทิงของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิเรื่อง "รหัสริษยา" (ช่อง 7) ระหว่างนางเอกสาว "นุ่น วรนุช" กับหนุ่ม "พอล ภัทรพล" ที่ทำเอาคนดูต้องเกิดอาการตะลึงตึงตังเพราะคิดไม่ถึงว่าฝ่ายหญิงของเราจะกล้าแสดงถึงขนาดนี้
คู่ของสาว "ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์" กับนาย "ออย ธนา สุทธิกมล" ใน “ขิงก็ราข่าก็แรง”(ช่อง 7)
"กบ สุวนันท์ คงยิ่ง" กับ "สเตฟาน สันติ วีระบุญชัย" ใน "สายใยสวาท"(ช่อง 7)
"ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" กับ "รถเมล์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์" ใน “คมรัก คมเสน่หา”((ที)ไอทีวี)
ส่วนที่ดูจะเป็นเรื่องมากที่สุดก็คือ กรณี "จูบจริง" ของนักแสดงสาวหน้าใหม่ "จินนี่ ธนิดา กาญจนวัฒน์" กับ "ต่าย ณัฐพล ลียะวณิช" ในละคร "ยอดกตัญญู" ที่ว่ากันว่าฉากดังกล่าวนั้นทำเอาแฟนสาวของฝ่ายชาย "ไหม วิสา สารสาส" ออกอาการรับไม่ได้ถึงกับร้องไห้ออกมา และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความรักของทั้งคู่ถูกเขียนถึงไปในทิศทางไม่ค่อยจะดีนักในระยะหลังๆ ฯลฯ
หากมองย้อนกลับไปในอดีตของวงการบันเทิงบ้านเรา คงต้องถือว่าการจูบหรือแม้กระทั่งการดูดปากเหล่านี้ต่างมีมาโดยตลอดมิใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด และตัวผมเองก็มิได้หัวโบราณถึงขนาดที่จะรับไม่ได้เอาเสียเลยต่อเรื่องในลักษณะที่ว่านี้ (ในทางตรงกันข้ามกลับชอบเสียอีก)
แต่บอกกันตรงๆ ครับว่า มีหลายครั้งที่ดูฉากที่ตัวละครมีการ จูบ - ดูด ในละครไทยหลายเรื่องในปัจจุบัน ผมกลับมีความรู้สึกถึงการเปลืองตัวของดาราสาวๆ มากกว่าความรู้สึกอื่นใด แต่ถ้าจะให้ตัวเองดูดี อีกประเด็นหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ นี่แหละคือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมการแสดงออกของเด็กวัยรุ่นไทยในปัจจุบันและอนาคตถึงกล้าที่จะถูกเนื้อต้องตัวกันมากขึ้น (ในระดับที่ผู้หลักผู้ใหญ่มองว่าประเจิดประเจ้อ) ในที่สาธารณะ โดยไม่รู้สึกเขินอายหรือคิดไปว่าสิ่งที่ตนเองกระทำนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะที่ควร
เหตุที่ทำให้คิดเช่นนั้น เพราะผมรู้สึกว่าน้ำหนักใน "เหตุผล" ของนักแสดงส่วนใหญ่ที่มาเล่นบทในลักษณะนี้ซึ่งมักจะมีคำตอบเหมือนๆ กันว่าการที่ตนกล้าจะเล่นบท (จูบจริง - ดูดปากจริง)นี้ ก็เพื่อความสมจริงสมจัง และถือเป็นการพัฒนาการแสดงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เหล่านี้มันเบาโหวงเอามากๆ
เรียกว่าทั้งเบา และดูเสแสร้งกว่าคำตอบประเภทที่ว่า...ไม่ได้คิดอะไรหรอก ผู้กำกับเขาให้เล่นก็เล่นครับ(ค่ะ)...เสียอีก
จริงหรือที่การจูบจริงคือการแสดงถึงการพัฒนาการของการแสดง?
จริงหรือที่ว่าฉากจูบจริงฉากเดียวจะทำให้ละครที่มีนักนักแสดงอายุ 18 เล่นเป็นแม่นักแสดงที่มีอายุ 25 + ทำให้ละครที่พระเอก - นางเอกที่เล่นเป็นขอทานแต่ถูกแต่งหน้าซะเนียนขาว หล่อ - สวย + ทำให้ละครที่ทั้งเรื่องมีแต่พล็อตเรื่องน้ำเน่าและมีคำเจรจาราวกับยี่เก ต่างๆ เหล่านี้ดูสมจริงสมจังขึ้นมาทันที?
ในความคิดของผม ประเด็นสำคัญมันไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะจูบจริง หรือจูบไม่จริง(แต่ทำให้เหมือนหรือคิดไปว่าตัวละครกำลังจูบ)กันหรอกครับ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือก่อนหน้าที่จะบรรจุฉากที่ว่านี้เข้าไปในละครเรื่องหนึ่งๆ มันมี "เหตุ" และต้องการ "ผล" แบบไหน อันเนื่องมาจากเงื่อนไขพื้นฐานของการแสดงออกต่อเพศตรงกันข้ามแบบไทยๆ ของเราที่มีมาซึ่งไม่ได้ระบุไว้ว่าให้กิจกรรมการแลกน้ำลายนี้เป็นพื้นฐานสากลที่สามารถกระทำได้ในเรื่องของการแสดงการทักทาย หรือการแสดงออกถึงความรัก หากแต่เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า มันคือการแสดงถึงความมีอารมณ์ทางเพศและจุดเริ่มต้นของการที่คนสองคนจะมีอะไรกัน...ตรงนี้มากกว่าที่เป็นประเด็นที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคิดแล้วคิดอีกทว่าก็ไม่สามารถหาทางออกหรือฉากที่มาทดแทนอารมณ์กันได้ จนจำยอมที่จะต้องให้มีฉากจูบกันเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าตัวละครสองตัวนี้รักกันมาก? ให้จูบกันเพราะต้องการให้พระเอกหยุดนางเอกที่ก๋ากั่น เถียงคำไม่ตกฟาก, ให้จูบเพราะพระเอกขุ่มขืนนางเอก(ก่อนที่นางเอกจะมารักในตอนจบ), ให้จูบปาก(หลังจากล้มลงทับกันเพราะเดินชนกันตรงมุมตึก)เพราะอยากให้การพบกันครั้งแรกของพระเอกนางเอกสร้างความกิ๋วกิ้ว วี้ดวิ้วให้กับคนดู, ให้จูบเพราะนางเอกจะได้เกิดอารมณ์ฯ แล้วทอดร่างให้พระเอกเชยชม, ให้จูบเพราะต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ปรารถนา ฯลฯ ต่างๆ นานาเหล่าเหล่านี้แล้วละก็...
...เวลาผู้ใหญ่เห็นวัยรุ่นนั่งจูบ - นั่งดูดปากกันในที่สาธารณะ (ซึ่งมีปริมาณของผู้คนรับรู้น้อยกว่าคนที่เห็นภาพลักษณะเดียวกันในละครอย่างเทียบกันไม่ได้)แล้ว ก็โปรดอย่าได้ไปตำหนิติเตียนเด็กมันเลยครับ
ตั้งแต่กรณีของ "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" ซึ่งไล่จูบสาวๆ ในคอนเสิร์ตเปิดฟลอร์ ที่แม้จะเชื่อได้ว่าเจ้าตัวไม่มีเจตนาส่อไปในเรื่องทางเพศ แต่เพราะด้วยความที่มีมากไปนั่นเองที่ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมขึ้นมา หรือจะเป็นกรณีของสาว "ทราย เจริญปุระ" ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่กลายเป็นที่ถกเถียงกันขึ้นมาเล็กๆ ว่า ยุคนั้น สมัยนั้น บ้านเราเมืองเรามีวัฒนธรรมการแสดงความรักด้วยปากบดปาก ลิ้นพันลิ้น เลยหรือ?
เรื่อยไปจนถึงข่าว "จูบจริง" ในแวดวงละครหลายต่อหลายเรื่องที่ถูกนำเสนอผ่านหน้าบันเทิงของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิเรื่อง "รหัสริษยา" (ช่อง 7) ระหว่างนางเอกสาว "นุ่น วรนุช" กับหนุ่ม "พอล ภัทรพล" ที่ทำเอาคนดูต้องเกิดอาการตะลึงตึงตังเพราะคิดไม่ถึงว่าฝ่ายหญิงของเราจะกล้าแสดงถึงขนาดนี้
คู่ของสาว "ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์" กับนาย "ออย ธนา สุทธิกมล" ใน “ขิงก็ราข่าก็แรง”(ช่อง 7)
"กบ สุวนันท์ คงยิ่ง" กับ "สเตฟาน สันติ วีระบุญชัย" ใน "สายใยสวาท"(ช่อง 7)
"ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" กับ "รถเมล์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์" ใน “คมรัก คมเสน่หา”((ที)ไอทีวี)
ส่วนที่ดูจะเป็นเรื่องมากที่สุดก็คือ กรณี "จูบจริง" ของนักแสดงสาวหน้าใหม่ "จินนี่ ธนิดา กาญจนวัฒน์" กับ "ต่าย ณัฐพล ลียะวณิช" ในละคร "ยอดกตัญญู" ที่ว่ากันว่าฉากดังกล่าวนั้นทำเอาแฟนสาวของฝ่ายชาย "ไหม วิสา สารสาส" ออกอาการรับไม่ได้ถึงกับร้องไห้ออกมา และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความรักของทั้งคู่ถูกเขียนถึงไปในทิศทางไม่ค่อยจะดีนักในระยะหลังๆ ฯลฯ
หากมองย้อนกลับไปในอดีตของวงการบันเทิงบ้านเรา คงต้องถือว่าการจูบหรือแม้กระทั่งการดูดปากเหล่านี้ต่างมีมาโดยตลอดมิใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด และตัวผมเองก็มิได้หัวโบราณถึงขนาดที่จะรับไม่ได้เอาเสียเลยต่อเรื่องในลักษณะที่ว่านี้ (ในทางตรงกันข้ามกลับชอบเสียอีก)
แต่บอกกันตรงๆ ครับว่า มีหลายครั้งที่ดูฉากที่ตัวละครมีการ จูบ - ดูด ในละครไทยหลายเรื่องในปัจจุบัน ผมกลับมีความรู้สึกถึงการเปลืองตัวของดาราสาวๆ มากกว่าความรู้สึกอื่นใด แต่ถ้าจะให้ตัวเองดูดี อีกประเด็นหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ นี่แหละคือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมการแสดงออกของเด็กวัยรุ่นไทยในปัจจุบันและอนาคตถึงกล้าที่จะถูกเนื้อต้องตัวกันมากขึ้น (ในระดับที่ผู้หลักผู้ใหญ่มองว่าประเจิดประเจ้อ) ในที่สาธารณะ โดยไม่รู้สึกเขินอายหรือคิดไปว่าสิ่งที่ตนเองกระทำนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะที่ควร
เหตุที่ทำให้คิดเช่นนั้น เพราะผมรู้สึกว่าน้ำหนักใน "เหตุผล" ของนักแสดงส่วนใหญ่ที่มาเล่นบทในลักษณะนี้ซึ่งมักจะมีคำตอบเหมือนๆ กันว่าการที่ตนกล้าจะเล่นบท (จูบจริง - ดูดปากจริง)นี้ ก็เพื่อความสมจริงสมจัง และถือเป็นการพัฒนาการแสดงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เหล่านี้มันเบาโหวงเอามากๆ
เรียกว่าทั้งเบา และดูเสแสร้งกว่าคำตอบประเภทที่ว่า...ไม่ได้คิดอะไรหรอก ผู้กำกับเขาให้เล่นก็เล่นครับ(ค่ะ)...เสียอีก
จริงหรือที่การจูบจริงคือการแสดงถึงการพัฒนาการของการแสดง?
จริงหรือที่ว่าฉากจูบจริงฉากเดียวจะทำให้ละครที่มีนักนักแสดงอายุ 18 เล่นเป็นแม่นักแสดงที่มีอายุ 25 + ทำให้ละครที่พระเอก - นางเอกที่เล่นเป็นขอทานแต่ถูกแต่งหน้าซะเนียนขาว หล่อ - สวย + ทำให้ละครที่ทั้งเรื่องมีแต่พล็อตเรื่องน้ำเน่าและมีคำเจรจาราวกับยี่เก ต่างๆ เหล่านี้ดูสมจริงสมจังขึ้นมาทันที?
ในความคิดของผม ประเด็นสำคัญมันไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะจูบจริง หรือจูบไม่จริง(แต่ทำให้เหมือนหรือคิดไปว่าตัวละครกำลังจูบ)กันหรอกครับ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือก่อนหน้าที่จะบรรจุฉากที่ว่านี้เข้าไปในละครเรื่องหนึ่งๆ มันมี "เหตุ" และต้องการ "ผล" แบบไหน อันเนื่องมาจากเงื่อนไขพื้นฐานของการแสดงออกต่อเพศตรงกันข้ามแบบไทยๆ ของเราที่มีมาซึ่งไม่ได้ระบุไว้ว่าให้กิจกรรมการแลกน้ำลายนี้เป็นพื้นฐานสากลที่สามารถกระทำได้ในเรื่องของการแสดงการทักทาย หรือการแสดงออกถึงความรัก หากแต่เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า มันคือการแสดงถึงความมีอารมณ์ทางเพศและจุดเริ่มต้นของการที่คนสองคนจะมีอะไรกัน...ตรงนี้มากกว่าที่เป็นประเด็นที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคิดแล้วคิดอีกทว่าก็ไม่สามารถหาทางออกหรือฉากที่มาทดแทนอารมณ์กันได้ จนจำยอมที่จะต้องให้มีฉากจูบกันเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าตัวละครสองตัวนี้รักกันมาก? ให้จูบกันเพราะต้องการให้พระเอกหยุดนางเอกที่ก๋ากั่น เถียงคำไม่ตกฟาก, ให้จูบเพราะพระเอกขุ่มขืนนางเอก(ก่อนที่นางเอกจะมารักในตอนจบ), ให้จูบปาก(หลังจากล้มลงทับกันเพราะเดินชนกันตรงมุมตึก)เพราะอยากให้การพบกันครั้งแรกของพระเอกนางเอกสร้างความกิ๋วกิ้ว วี้ดวิ้วให้กับคนดู, ให้จูบเพราะนางเอกจะได้เกิดอารมณ์ฯ แล้วทอดร่างให้พระเอกเชยชม, ให้จูบเพราะต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ปรารถนา ฯลฯ ต่างๆ นานาเหล่าเหล่านี้แล้วละก็...
...เวลาผู้ใหญ่เห็นวัยรุ่นนั่งจูบ - นั่งดูดปากกันในที่สาธารณะ (ซึ่งมีปริมาณของผู้คนรับรู้น้อยกว่าคนที่เห็นภาพลักษณะเดียวกันในละครอย่างเทียบกันไม่ได้)แล้ว ก็โปรดอย่าได้ไปตำหนิติเตียนเด็กมันเลยครับ