"ประวิทย์" แจงส่ง "สรยุทธ" ช่วย "ไอทีวี"เผย ฝุ่นหายคลุ้งอาจทาบ "กิตติ" อีกครั้ง

นายใหญ่ช่อง 3 "ประวิทย์ มาลีนนท์" เผยกรณี "สรยุทธ" ยกทีมออกอากาศสดถึงตึกชินฯ รายงานเรื่อง "ไอทีวี" ถูกปิดเป็นเรื่องปกติของการทำข่าว ยันไม่ได้เป็นการ(ร่วม)บีบรัฐบาล เผยเคยทาบทาม "กิตติ" มาร่วมงาน แต่ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เพราะฝุ่นยังตลบ แจงไม่ปฏิเสธเด็กเก๋า "ต๋อย ไตรภพ" แต่พูดเหมือนกันท่าต้องมีของที่ดีจริงมาขายขณะที่รายการของช่อง 3 ตอนนี้ดีหมดแล้วจะไปแย่งที่คนอื่นคงไม่ได้

ถูกประชาชนบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทีเดียวกับท่าทีที่เสมือนกับเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวของอดีตพนักงาน "ไอทีวี" ในการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องไปยังรัฐบาลด้วยการกระทำต่างๆ นานา ทั้งร้องห่มร้องไห้ อ้างถึงความเสียสละ - ความดีของตนเอง ฯลฯ ภายหลังมีคำสั่งของสปน.ให้ปิดช่องทีวีดังกล่าวภายหลังยกเลิกสัมปทานกับทางบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน อันเนื่องมาจากการเพิกเฉยจ่ายค่าสัมปทาน รวมถึงเงินค่าปรับจากการกระทำผิดสัญญากระทั่งทำให้รัฐฯ เกิดความเสียหาย

แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงความจำเป็นที่จอ(ไอ)ทีวีจะดำมืดไม่ได้โดยยกเอาเรื่องของผลประโยชน์ประชาชนมาเป็นข้อต่อรอง แต่นั่นก็ดูจะมีน้ำหนักน้อยกว่าข้อสงสัยถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวในความคิดของใครหลายต่อหลายคน รวมไปถึงเหตุผลที่ว่าทำไมรัฐเองจะต้องออกมาเอาใจเข้าไปโอบอุ้มพนักงานไอทีวีอย่างออกหน้าออกตาทั้งที่คนเหล่านี้โจมตีและต่อว่าการกระทำของรัฐอย่างหนักโดยถึงกับประกาศตัวเองว่าเป็น "ผู้ชนะ" ออกมา เมื่อรู้ว่าจอไม่ดำ แถมยังได้ทำงานต่อ

ทั้งนี้ในระหว่างที่พนักงานไอทีวีร้องห่มร้องไห้ตีโพยตีพายต่อฝ่ายรัฐฯ ว่าทำไม่ถูก ช่วงเวลาที่ว่าได้มีผู้คนหลายคนเข้าไปร่วมให้กำลังใจ แต่ที่ดูจะฮือฮาด้วยความออกหน้าออกตาก็คือการเข้าไปจัดรายการสดถึงตึกชินวัตรของ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" จากรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" ด้วยการพูดคุยกับ "กิตติ สิงหาปัด" ทั้งที่หลายคนทราบกันเป็นอย่างดีว่าทั้งสองเหมือนไม้เบื่อไม้เมากันมานาน รวมถึงอีกหนึ่งคนของช่อง 3 อย่าง "กระเต็น วราภรณ์ สมพงษ์"

สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวไปยัง "ประวิทย์ มาลีนนท์" นายใหญ่ของช่อง 3 เผยว่า หากมองถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ในสังคม เพราะฉะนั้นการที่รายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" จะยกกองไปทำข่าวที่ไอทีวีก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ ก่อนยืนยัน ช่อง 3 ไม่ได้ร่วมกดดันรัฐบาลแม้แอ็กติ้งจะเยอะ พร้อมยอมรับตนเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องดังกล่าวจากการดูทีวีนั่นเอง

"ก็ข่าวมันมีน่ะ เราไม่เสนอได้อย่างไรล่ะ มันเป็นวิธีทำข่าวเราเปล่ากดดันสิ ไปกดดันได้อย่างไร บอกว่าดูเหมือนช่อง 3 แอ็กติ้งเยอะเรื่องนี้ทุกช่องก็เป็นเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคอนเซ็ปต์ของรายการเรื่องเด่นเย็นนี้วางไว้ว่าถ้ามีข่าวใหญ่ที่ไหนสรยุทธจะไปทำที่นั่น พอดีเนี่ยเป็นจังหวะแรกที่มันเกิดขึ้นมาและพอดีสรยุทธเป็นศิษย์เก่าที่นั่นด้วย ไม่ได้ตั้งใจหรอก"

"หลายคนมองว่าสรยุทธกับกิตติอาจอยู่ร่วมกันไม่ได้ขนาดนี้หากผมไม่สั่งแต่วันนั้นผมดูแล้วก็น่ารักดีน่ะ มันเป็นความห่วงใยร่วมอาชีพ และผมก็ไม่ได้สั่งเขานะ ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาจะไป วันนั้นพอดีผมไม่สบายแล้วผมก็นั่งดูโทรทัศน์อยู่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายกกองไป ตอนแรกเห็นทางไอทีวีนึกว่าสรยุทธไปให้กำลังใจเป็นการส่วนตัว แต่พอตอนหลังถึงรู้ว่าไปทำเรื่องเด่นเย็นนี้ที่นู่น จะบอกว่าผมให้อำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดกับสรยุทธก็ไม่ใช่แต่คือทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้เขาแพลนไว้อย่างนั้น"

"ถ้าคนจะมองไม่ดีก็อย่างมากผมก็โดนตำหนิ แต่มันเป็นงานข่าวจริงๆ ทุกวันนี้เขาประชุมกันเขาไม่ต้องมาบอกผมนะเขารู้ว่าควรจะทำอย่างไรบ้างแล้วตอนนี้ข่าวแข่งขันกันมากเพราะฉะนั้นลีลาในการทำก็ชิงไหวชิงพริบกันน่ะ"

เผยคงเอาผิดกับผู้จัดรายการชื่อดังไม่ได้เพราะอาจจะถูกมองว่าเป็นคนใจแคบ และเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนสาว "กระเต็น" นั้นไปในฐานะเรื่องส่วนตัว พร้อมเลี่ยงแสดงความคิดเห็นกรณีทำไมพนักงานไอทีวีไม่ไปเรียกร้องกับ "เทมาเส็ก" ผู้เป็นเจ้าของ...
"สุดท้ายคนต้องการอะไรน่ะใช่มั้ย ให้เราทำข่าวให้ดีเราก็ทำข่าวให้ดีขึ้น บอกว่าเราสร้างพันธมิตรที่ดีไว้ก่อน..ก็ ไม่จำเป็นหรอกไม่จำเป็นต้องทำตอนนี้ ทำตอนไหนก็ได้ มันเป็นแนววิธีกลยุทธในการทำข่าวของเขาน่ะนะ เราคงห้ามเขาไมได้ ก็เขาต้องการไปทำข่าวลักษณะแบบนี้ ถ้าไปปิดกั้นบอกว่าห้ามทำข่าวไอทีวีก็ดูใจแคบไป ก็ดูสิคุณจะไม่เสนอข่าวอย่างนี้ได้อย่างไร ถามว่าเรตติ้งวันนั้นเป็นอย่างไรผมก็ไม่รู้เพราะว่าจะทราบเรตติ้งก็อาทิตย์หนึ่งน่ะ"

"หากบอกว่าผมใจกว้างนะที่ส่งกระเต็นไปด้วย จริงๆ กระเต็นไมได้ไป กระเต็นนั่งอยู่ที่ห้องส่ง แต่อีกวันที่เขาไปผมไม่รู้ เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของเขานะที่ไป ไม่ต้องมาขออนุญาตผมก่อนเลย อันนี้ผมสาบานได้เลยแต่ว่าอันนี้คนมองได้หมดแต่มันเป็นงานข่าวเขาโดยเฉพาะเลยเราแทรกแซงไมได้ด้วยซ้ำไป ไม่รู้ด้วยซ้ำไปเพราะเขาไม่จำเป็นต้องมาปรึกษา"

"การที่กระเต็น สรยุทธไปช่วยไอทีวี..ผมว่าน่าจะยกความดีความชอบให้กับ 2 ท่านนั้นเผอิญเขาเป็นศิษย์เก่าของไอทีวีน่ะ เขาไปหาพวกไปแสดงความห่วงใยก็เป็นสปิริตของเขา ผมไม่เกี่ยวเลย นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาแต่ผมก็ชื่นชมเขานะ"

"ส่วนที่มีกระแสว่าทำไมพนักงานถึงมาเรียกร้องทางรัฐไม่ไปเรียกร้องทางเทมาเส็กตรงนี้เราไม่ทราบ แต่ถ้าเราไม่เสนอข่าวนี้สังคมจะคิดอย่างไร คือขยับทั้ง 2 ทางก็โดนหมด เดี๋ยวก็หาว่าเราใจแคบ อย่างตอนที่อสมท.เขามีปัญหาเราก็ทำข่าวเหมือนกัน มันเป็นข่าวขึ้นมาน่ะเราจะไปปิดทิ้งทำไม กลัวผลมั้ย มันพูดไมได้น่ะ จะไปห้ามคนคิดได้อย่างไร แต่เราทำตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อนน่ะ"

ถามถึงฟีดแบ็ก จากการออกจอพร้อมกันของ "สรยุทธ - กิตติ" ทำเอานายประวิทย์ถึงกับวาดภาพทั้งคู่ร่วมแรงร่วมใจทำงานให้ช่อง 3 แถมชม "สื่อไทย" สุดยอด
"ผมดีใจนะที่วงการนี้ดีอย่างหนึ่งที่วงการอื่นไม่มีนะ ของเราเนี่ยมีแต่คู่แข่งเราแข่งกัน แต่ไม่เคยเป็นศัตรูกันเป็นเรื่องดีมากเลย เราไม่มีการฆ่าฟันกัน มีขัดแย้งกันบ้างแต่ไม่ถึงกับประทุษร้ายกัน วงการอื่นมี และที่วิเศษสุดวงการทีวีไทยมีแห่งเดียวในโลกนะที่ทุกช่องมารวมเป็นทีวีพูลได้"

"คนไทยก็แปลกทุกช่องแข่งขันกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีความร่วมมือตั้งแต่ระดับล่างสุดมาถึงระดับสูงสุด ระดับสูงสุดคือเรามีโทรทัศน์องค์การเฉพาะกิจซึ่งผู้บริหารเจอกันเดือนละหนึ่งครั้งและทำงานร่วมกัน ลงไประดับฝ่ายข่าวเขาช่วยกันนะ เอื้อเฟื้อกัน ช่วยดราฟข่าวก็ยังมี ใครขัดข้องอะไรอะไหล่ก็ยืมกันได้"

"ผมว่าทีวีไทยแปลกมากเลย เราแข่งแต่ไม่กีดกันกัน สปิริตสูงมากเลย ผมยังอยากเห็นงานด้านอื่นเนี่ยเอาแบบทีวีบ้าง แข่งขันกันสูงจริงแต่เราไม่มีอคติกัน"

"หลายคนอยากเห็นคุณกิตติจะได้ร่วมงานกับสรยุทธ...ตรงนี้ก็ไปบอกคุณสรยุทธให้หน่อย ถามว่าผมเคยวาดภาพเล่นๆ มั้ยก็ต้องไปถามคุณสรยุทธดูน่ะ แต่หากเอา 2 คนนี้มาได้ก็จะมาเสริมภาพให้เด่นขึ้นนะ ภาพไม่ขัดหรอกถ้ามานั่งกันได้จะขัดอะไร แต่เรื่องเล่าเช้านี้ผมยุ่งไมได้ต้องไปถามคุณสรยุทธเพราะเขาเป็นโปรดิวเซอร์เอง ต้องเคารพในการตัดสินใจของเขา"

มีข่าวแว่วมาได้ระยะใหญ่แล้วว่า ช่อง 3 ทาบทามขุนศึกคนข่าวไอทีวีอย่าง "กิตติ" ไว้แล้ว เมื่อถามความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นกิตติทำงานกับช่อง 3 บอสใหญ่กล่าวว่าต้องรอให้ทาง "ทีไอทีวี" เลิกมีปัญหาก่อนถึงจะตอบได้
"ก็จริงที่เราไปทาบคุณกิตติไว้แล้ว แต่ตอนนี้ผมยังพูดไม่ได้หรอก พูดไปเดี๋ยวสุดท้ายคุณกิตติเสียหาย มันไม่ดี เพราะทางนู้นก็มีปัญหาอยู่เดี๋ยวพูดไปแล้วยิ่งสับสน ซึ่งข่าวเราก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เราก็พยายามเลือกบุคลากรที่ดี ทีมงานที่ดี เนื้อหาของข่าวสารก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ใครอยากมาร่วมงานกับเราก็ยินดีน่ะคนเก่งๆ ใครไม่อยากได้บ้าง ผมก็อยากได้"

"ถามว่ารอให้ทางทีไอทีวีชัดเจนในแง่ไหน...ก็เขามีปัญหาอยู่น่ะแต่อันนี้ผมไม่คอมเมนต์เลยเรื่องไอทีวีนะ (หัวเราะ) ผมว่าอีกสักพักหนึ่งคงรู้น่ะ ก็อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาก็ออกอากาศได้แล้วก็ไปเปลาะหนึ่งนะ แต่ยังไม่ชัดเจน เพราะเขาคงต้องดูว่าเขาจะรับพนักงานอย่างไร ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ"

อีก 1 ผู้ผลิตหัวหอกของ "ไอทีวี" ที่น่าจับตามองอย่าง "ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์" ศิษย์เก่า "ช่อง3" ที่เคยยกรายการทำเงินของช่อง 3 ทั้งหมดไปที่ "ไอทีวี" ยุคเฟื่องฟู วันนี้ชีวิตผันแปร "ต๋อย" จะมีโอกาสกลับมาร่วมงานที่รังเก่าอีกหรือไม่ งานนี้นายประวิทย์บอกหากเสนอรายการที่ไม่เจ๋งจริงช่อง 3 ก็ไม่เอาเหมือนกัน

"เราไม่มีปัญหากับบุคคลนะครับจะใครก็แล้วแต่ ไม่มีอะไรขัดข้องเราไม่เคยมีปัญหากับต๋อยเพียงแต่ว่ามีรายการที่เรารับได้หรือเปล่าเราจะมีขัดข้องกันนิดหนึ่งคือตัวรายการ ถ้าตัวรายการไม่เวิร์คไม่ปิ๊งเราก็ขอเปลี่ยน แต่ว่าบางช่วงขอเปลี่ยนแล้วมาทดแทนของเดิมไม่ได้ก็ต้องรอไปก่อนถ้ามีของดีก็กลับมา"

"ตอนนี้ที่ต๋อยมีรายการนั้นก็เป็นรายการเก่าของเรานะครับ มันอยู่ที่ว่าเรามีความสนใจหรือเปล่า ถ้าไม่น่าสนใจเราก็อยากได้ของใหม่ เขาต้องเสนอรายการใหม่ต้องมาคุยกันน่ะ คือวันหนึ่งก็มี 24 ชม.แล้วก็เต็มหมดแล้วนะจะเอารายการมาเพิ่มเติมหมายถึงเราต้องยกอะไรออก"

"นาทีนี้เลยนะยาก เพราะว่าทุกช่วงเวลามีคนทำอยู่แล้วน่ะแต่ถ้าอีก 3 เดือนข้างหน้าหรือเดือนหน้าก็ยังพอพูดกันได้ถ้ารายการเราดีหมดเราก็ถอดไม่ได้ เราต้องไม่ไปสร้างความลำบากให้คนอื่นเขา ต้องไม่ทำร้ายคนอื่น"