AP - หลังจากเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์จากหนังเยื่ยมทั้ง 5 เรื่อง "มาร์ติน สกอร์เซซี" ยอดผู้กำกับแห่งวงการภาพยนตร์โลกต้องกลับไปนอนเลียแผลที่บ้านถึง 5 ครั้ง
แต่ในการกลับมามีชื่อติดเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้จะไม่เหมือนปีก่อนๆ ด้วยผลงานที่โดดเด่นในสไตล์เฉพาะตัวของเขาอย่าง The Departed ที่คนในวงการต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ออสการ์จะต้องตกเป็นของเขาในคืนวันอาทิตย์(เช้าวันจันทร์ในเวลาประเทศไทย)ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ใช่ว่าปีนี้คู่แข่งของเขาจะอ่อนด้อยในฝีมือก็หาไม่ แต่กลับเป็นปีที่มีผู้กำกับยอดฝีมือผ่านเข้ามาฟาดฟันในรอบ 5 คนสุดท้ายด้วยกันทั้งนั้น นำโดย คลินต์ อิสต์วูด คู่รักคู่แค้นที่มาในผลงานสงครามโลกครั้งที่ 2 ในมุมมองของทหารญี่ปุ่น Letters From Iwo Jima และเป็นคนที่เคยกระชากออสการ์มาจากสกอร์เซซีเมื่อ 2 ปีก่อนจากเรื่อง Million Dollar Baby มาแล้ว
อีก 2 ยอดฝีมือชาวอังกฤษได้แก่ สตีเฟน เฟรียร์ส จากงานดรามาเจาะลึกราชวงศ์อังกฤษใน The Queen และ พอล กรีนกราส กับผลงานสุดสะเทือนใจว่าด้วยการต่อสู้ของผู้โดยสารสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ที่ถูกจี้เครื่องบินในเหตุการณ์ 11 กันยาฯ จาก United 93
และผู้ท้าชิงที่น่ากลัวที่สุดของปีนี้ได้แก่ อเลฮันโดร กอนซาเลส อินาร์ริตู ผู้กำกับเม็กซิกัน เจ้าของผลงานดรามาแสนซับซ้อนใน Babel
ตัวสกอร์เซซีเองนั้นเปิดเผยมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้วว่าเขากระหายความสำเร็จบนเวทีออสการ์มากมายเพียงไร ขณะที่ผู้กำกับเก๋าๆ รุ่นราวคราวเดียวกับเขาทั้ง สตีเฟน สปิลเบิร์ก หรือ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ต่างได้ออสการ์ไปนอนกอดกันคนละตัวสองตัวกันตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว
"จริงๆ แล้วผมค้อนข้างจะผิดหวังน่ะ แต่แน่นอน คุณไม่ควรจะทำหนังเพื่อหวังรางวัลใดๆ" สกอร์เซซีเปิดใจเมื่อครั้งที่เปิดตัว The Departed ใหม่ๆ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา
หลังจากคว้ารางวัลที่รอคอยมานานเหมือนกันอย่าง รางวัลสมาคมผู้กำกับแห่งสหรัฐฯ หรือ DGA มาครองได้สำเร็จ ซึ่งทำให้โอกาสในการคว้ารางวัลออสการ์ของเขามีมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะ 53 รายจาก 59 รายที่คว้ามันได้จะมีชัยบนเวทีออสการ์ทั้งนั้น กระนั้นเขาก็ยังถ่อมตนเมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
"ไม่รู้น่ะ แค่ได้ถูกเสนอชื่อก็ยอดเยี่ยมแล้ว โดยเฉพาะจากเรื่องนี้ด้วย" เขากล่าว
ถ้าเขาทำสำเร็จ ฝันร้ายจากการเสนอชื่อเข้าชิง 5 ครั้งในด้านการกำกับทั้งจาก Raging Bull, The Last Temptation of Christ, Goodfellas, Gangs of New York และ The Aviator และอีก 2 ครั้งด้านการเขียนบทจาก Goodfellas และ The Age of Innocence คงจะหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ถ้าไม่ การพลาดหวังเป็นครั้งที่ 6 ของเขาจะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ว่าเป็นยอดผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุดโดยไม่เคยชนะเลย
อย่างไรก็ดี ถ้าเขาชนะ ใช่ว่าสาวกของเขาจะดีใจกับชัยชนะที่ได้มาจากเรื่องนี่ของเขาทั้งหมด เมื่อเทียบกับความจริงที่ว่า The Departed ดูด้อยไปถนัดใจเมื่อเทียบกับผลงานอันเอกอุในอดีตของเขา แม้ว่ามันจะถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่เด็ดขาด, รุนแรง และแดกดัน ในวิถีแห่งสกอร์เซซีเหมือนเดิมทุกประการ
หลายฝ่ายลงความเห็นว่าจะสง่างามกว่าถ้าเขาคว้ามันได้จาก Raging Bull หนังมวยขาว-ดำอันยอดเยี่ยมเมื่อปี 1980 แต่กลายเป็นว่าออสการ์มอบเกียรตินั้นให้แก่นักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต เรดฟอร์ด ใน Ordinary People รวมทั้งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปีนั้นด้วย (นอกจากเรดฟอร์ดและอิสต์วูดแล้ว อีกรายที่เป็นนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับที่กระชากออสการ์ในสาขาผู้กำกับจากเขาไปยังรวมทั้ง เควิน คอสต์เนอร์ จากเรื่อง Dances With Wolves เมื่อปี 1990)
"ในฐานะสมาชิกของอคาเดมีคนหนึ่ง ผมก็โหวตให้เขาสมัยที่เขาสร้าง Raging Bull ด้วย ทุกๆ คนเห็นตรงกันว่าช่วงนั้นเขายอดเยี่ยมแค่ไหน ทุกวันนี้มันยังเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเขาอยู่ดี" คลินต์ อิสต์วูดกล่าว
เมื่อ 2 ปีก่อน ทุกๆ คนต่างจับตาดูการชิงชัยของสกอร์เซซีจาก The Aviator และอิสต์วูดใน Million Dollar Baby กันตาเป็นมัน แต่แม้จะได้ออสการ์มาครั้งหนึ่งแล้วจาก Unforgiven อิสต์วูดก็คว้าออสการ์ในฐานะผู้กำกับได้อีกครั้ง รวมทั้งแย่งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก The Aviator มาอีกสาขาด้วย
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของสิงห์เหนือเสือใต้ทั้งสองในปีนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ออสการ์หลายคนนึกถึงการแข่งขันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการคู่นี้อีกครั้ง ขณะที่ปีนี้แนวโน้มจะมาทางสกอร์เซซีมากกว่า และเห็นพ้องกันว่าออสการ์ตัวที่ 3 คงจะเร็วไปสำหรับอิสต์วูด
"ผมไม่ชอบให้มันเป็นอย่างนี้เลยน่ะ และคิดว่ามาร์ตีก็คงไม่ชอบ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ได้เข้าชิงก็คงไม่ชอบมันนัก เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ได้รับเลือกคนอื่นๆ ที่ก็มีผลงานที่โดดเด่นเหมือนกัน แต่กลับมีแต่คนมุ่งความสนใจมาที่รุ่นใหญ่แค่ 2 คนเท่านั้น" อิสต์วูดเปิดใจ "ใครที่มีผลงานที่ดี ต่างก็คิดว่าตัวเองสมควรจะชนะทั้งนั้น เมื่อคุณเปิดให้มีการแข่งขัน ก็ต้องเป็นอย่างยุติธรรม มาเน้นกันแค่ 2 คนอย่างนี้ผมไม่ชอบเลย"
อย่างไรก็ดี การมีชื่อเข้าชิงของอิสต์วูดถือเป็นการเซอร์ไพรส์ย่อมๆ เหมือนกัน หลังจากที่เขาถูกมองข้ามจากเวที DGA ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดียวกับที่ลงคะแนนให้ออสการ์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าออสการ์ได้เสนอชื่อเป็นการให้เกียรติเขา ที่สามารถสร้างผลงานสงครามเรื่องเยี่ยมอย่าง Letters From Iwo Jima และ Flags of Our Fathers ทั้งสองเรื่องภายในปีเดียวกันสำเร็จ
พอล กรีนกราส ก็เป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อที่สร้างความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้ United 93 ของเขาถูกมองข้ามจากสถาบันใหญ่ๆ มาแล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งการเข้าชิงเป็นครั้งแรกนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วสำหรับผลงานกึ่งสารคดีที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสะเทือนใจเรื่องนี้
ส่วนรุ่นเก๋าอีกรายอย่าง สตีเฟน เฟรียร์ส ที่โด่งดังมาแล้วจากผลงาน Dangerous Liaisons และ High Fidelity นั้น ก็เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงมาแล้วจาก The Grifters เมื่อปี 1990 ปีเดียวกับที่สกอร์เซซีเข้าชิงจาก Goodfellas โดยปีนี้เฟรียร์สมาด้วยผลงานสะท้อนเรื่องราวในราชวงศ์อังกฤษใน The Queen
อีกรายที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีนี้ได้แก่ อเลฮันโดร กอนซาเลส อินาร์ริตู จากผลงานเรื่องเยี่ยม Babel เรื่องราวดรามาที่ผูกเรื่องจนกลายเป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งแห่งโลกภาพยนตร์
ทั้ง 4 ต่างก็เหมาะสมกับออสการ์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ผู้สันทัดกรณีต่างฟันธงพร้อมกันว่า ยังไงเสียสกอร์เซซีจะต้องคว้าออสการ์ในปีนี้ไปครองอย่างแน่นอน
"ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง มันก็คงจะเยี่ยมมาก เพราะมันนาน, นานเกินไปแล้ว รู้ไหม มันบ้าแค่ไหน เพราะจริงๆ เขาควรจะได้มันไปหลายตัวตั้งนานนมแล้ว" บิล คอนดอน ผู้กำกับของ Dreamgirls หนังที่เข้าชิงสูงสุดถึง 8 ออสการ์ในปีนี้ ยกเว้นสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกรายของสกอร์เซซีถ้าเขาได้เข้าชิงอีกราย
สำหรับผู้ที่ร่วมงานกับเขามาแล้วถึง 3 เรื่องอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รวมทั้งใน The Departed คงจะไม่คิดว่าจะมีใครที่เหมาะสมไปมากกว่านี้
"ผมคิดว่าปีนี้จะเป็นปีที่เขายุติการรอคอยเสียที จนมันจะกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วที่เขายังไม่ได้ออสการ์"
"The Departed ได้รับเสียงชื่นชมทั้งจากนักวิจารณ์ ประสบความสำเร็จทางรายได้ มันลงล็อกไปซะทุกอย่าง เหลือแต่ดวงเท่านั้นที่จะพาเราไปตลอดรอดฝั่ง" ลีโอกล่าว
The Departed เข้าชิง 5 สาขา
1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2. ผู้กำกับยอดเยี่ยม (มาร์ติน สกอร์เซซี)
3. นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก)
4. บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
5. ลำดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
แต่ในการกลับมามีชื่อติดเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้จะไม่เหมือนปีก่อนๆ ด้วยผลงานที่โดดเด่นในสไตล์เฉพาะตัวของเขาอย่าง The Departed ที่คนในวงการต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ออสการ์จะต้องตกเป็นของเขาในคืนวันอาทิตย์(เช้าวันจันทร์ในเวลาประเทศไทย)ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ใช่ว่าปีนี้คู่แข่งของเขาจะอ่อนด้อยในฝีมือก็หาไม่ แต่กลับเป็นปีที่มีผู้กำกับยอดฝีมือผ่านเข้ามาฟาดฟันในรอบ 5 คนสุดท้ายด้วยกันทั้งนั้น นำโดย คลินต์ อิสต์วูด คู่รักคู่แค้นที่มาในผลงานสงครามโลกครั้งที่ 2 ในมุมมองของทหารญี่ปุ่น Letters From Iwo Jima และเป็นคนที่เคยกระชากออสการ์มาจากสกอร์เซซีเมื่อ 2 ปีก่อนจากเรื่อง Million Dollar Baby มาแล้ว
อีก 2 ยอดฝีมือชาวอังกฤษได้แก่ สตีเฟน เฟรียร์ส จากงานดรามาเจาะลึกราชวงศ์อังกฤษใน The Queen และ พอล กรีนกราส กับผลงานสุดสะเทือนใจว่าด้วยการต่อสู้ของผู้โดยสารสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ที่ถูกจี้เครื่องบินในเหตุการณ์ 11 กันยาฯ จาก United 93
และผู้ท้าชิงที่น่ากลัวที่สุดของปีนี้ได้แก่ อเลฮันโดร กอนซาเลส อินาร์ริตู ผู้กำกับเม็กซิกัน เจ้าของผลงานดรามาแสนซับซ้อนใน Babel
ตัวสกอร์เซซีเองนั้นเปิดเผยมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้วว่าเขากระหายความสำเร็จบนเวทีออสการ์มากมายเพียงไร ขณะที่ผู้กำกับเก๋าๆ รุ่นราวคราวเดียวกับเขาทั้ง สตีเฟน สปิลเบิร์ก หรือ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ต่างได้ออสการ์ไปนอนกอดกันคนละตัวสองตัวกันตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว
"จริงๆ แล้วผมค้อนข้างจะผิดหวังน่ะ แต่แน่นอน คุณไม่ควรจะทำหนังเพื่อหวังรางวัลใดๆ" สกอร์เซซีเปิดใจเมื่อครั้งที่เปิดตัว The Departed ใหม่ๆ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา
หลังจากคว้ารางวัลที่รอคอยมานานเหมือนกันอย่าง รางวัลสมาคมผู้กำกับแห่งสหรัฐฯ หรือ DGA มาครองได้สำเร็จ ซึ่งทำให้โอกาสในการคว้ารางวัลออสการ์ของเขามีมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะ 53 รายจาก 59 รายที่คว้ามันได้จะมีชัยบนเวทีออสการ์ทั้งนั้น กระนั้นเขาก็ยังถ่อมตนเมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
"ไม่รู้น่ะ แค่ได้ถูกเสนอชื่อก็ยอดเยี่ยมแล้ว โดยเฉพาะจากเรื่องนี้ด้วย" เขากล่าว
ถ้าเขาทำสำเร็จ ฝันร้ายจากการเสนอชื่อเข้าชิง 5 ครั้งในด้านการกำกับทั้งจาก Raging Bull, The Last Temptation of Christ, Goodfellas, Gangs of New York และ The Aviator และอีก 2 ครั้งด้านการเขียนบทจาก Goodfellas และ The Age of Innocence คงจะหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ถ้าไม่ การพลาดหวังเป็นครั้งที่ 6 ของเขาจะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ว่าเป็นยอดผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อมากที่สุดโดยไม่เคยชนะเลย
อย่างไรก็ดี ถ้าเขาชนะ ใช่ว่าสาวกของเขาจะดีใจกับชัยชนะที่ได้มาจากเรื่องนี่ของเขาทั้งหมด เมื่อเทียบกับความจริงที่ว่า The Departed ดูด้อยไปถนัดใจเมื่อเทียบกับผลงานอันเอกอุในอดีตของเขา แม้ว่ามันจะถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่เด็ดขาด, รุนแรง และแดกดัน ในวิถีแห่งสกอร์เซซีเหมือนเดิมทุกประการ
หลายฝ่ายลงความเห็นว่าจะสง่างามกว่าถ้าเขาคว้ามันได้จาก Raging Bull หนังมวยขาว-ดำอันยอดเยี่ยมเมื่อปี 1980 แต่กลายเป็นว่าออสการ์มอบเกียรตินั้นให้แก่นักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับอย่าง โรเบิร์ต เรดฟอร์ด ใน Ordinary People รวมทั้งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปีนั้นด้วย (นอกจากเรดฟอร์ดและอิสต์วูดแล้ว อีกรายที่เป็นนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับที่กระชากออสการ์ในสาขาผู้กำกับจากเขาไปยังรวมทั้ง เควิน คอสต์เนอร์ จากเรื่อง Dances With Wolves เมื่อปี 1990)
"ในฐานะสมาชิกของอคาเดมีคนหนึ่ง ผมก็โหวตให้เขาสมัยที่เขาสร้าง Raging Bull ด้วย ทุกๆ คนเห็นตรงกันว่าช่วงนั้นเขายอดเยี่ยมแค่ไหน ทุกวันนี้มันยังเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเขาอยู่ดี" คลินต์ อิสต์วูดกล่าว
เมื่อ 2 ปีก่อน ทุกๆ คนต่างจับตาดูการชิงชัยของสกอร์เซซีจาก The Aviator และอิสต์วูดใน Million Dollar Baby กันตาเป็นมัน แต่แม้จะได้ออสการ์มาครั้งหนึ่งแล้วจาก Unforgiven อิสต์วูดก็คว้าออสการ์ในฐานะผู้กำกับได้อีกครั้ง รวมทั้งแย่งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก The Aviator มาอีกสาขาด้วย
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของสิงห์เหนือเสือใต้ทั้งสองในปีนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ออสการ์หลายคนนึกถึงการแข่งขันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการคู่นี้อีกครั้ง ขณะที่ปีนี้แนวโน้มจะมาทางสกอร์เซซีมากกว่า และเห็นพ้องกันว่าออสการ์ตัวที่ 3 คงจะเร็วไปสำหรับอิสต์วูด
"ผมไม่ชอบให้มันเป็นอย่างนี้เลยน่ะ และคิดว่ามาร์ตีก็คงไม่ชอบ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ได้เข้าชิงก็คงไม่ชอบมันนัก เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ได้รับเลือกคนอื่นๆ ที่ก็มีผลงานที่โดดเด่นเหมือนกัน แต่กลับมีแต่คนมุ่งความสนใจมาที่รุ่นใหญ่แค่ 2 คนเท่านั้น" อิสต์วูดเปิดใจ "ใครที่มีผลงานที่ดี ต่างก็คิดว่าตัวเองสมควรจะชนะทั้งนั้น เมื่อคุณเปิดให้มีการแข่งขัน ก็ต้องเป็นอย่างยุติธรรม มาเน้นกันแค่ 2 คนอย่างนี้ผมไม่ชอบเลย"
อย่างไรก็ดี การมีชื่อเข้าชิงของอิสต์วูดถือเป็นการเซอร์ไพรส์ย่อมๆ เหมือนกัน หลังจากที่เขาถูกมองข้ามจากเวที DGA ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดียวกับที่ลงคะแนนให้ออสการ์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าออสการ์ได้เสนอชื่อเป็นการให้เกียรติเขา ที่สามารถสร้างผลงานสงครามเรื่องเยี่ยมอย่าง Letters From Iwo Jima และ Flags of Our Fathers ทั้งสองเรื่องภายในปีเดียวกันสำเร็จ
พอล กรีนกราส ก็เป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อที่สร้างความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้ United 93 ของเขาถูกมองข้ามจากสถาบันใหญ่ๆ มาแล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งการเข้าชิงเป็นครั้งแรกนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วสำหรับผลงานกึ่งสารคดีที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสะเทือนใจเรื่องนี้
ส่วนรุ่นเก๋าอีกรายอย่าง สตีเฟน เฟรียร์ส ที่โด่งดังมาแล้วจากผลงาน Dangerous Liaisons และ High Fidelity นั้น ก็เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงมาแล้วจาก The Grifters เมื่อปี 1990 ปีเดียวกับที่สกอร์เซซีเข้าชิงจาก Goodfellas โดยปีนี้เฟรียร์สมาด้วยผลงานสะท้อนเรื่องราวในราชวงศ์อังกฤษใน The Queen
อีกรายที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีนี้ได้แก่ อเลฮันโดร กอนซาเลส อินาร์ริตู จากผลงานเรื่องเยี่ยม Babel เรื่องราวดรามาที่ผูกเรื่องจนกลายเป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งแห่งโลกภาพยนตร์
ทั้ง 4 ต่างก็เหมาะสมกับออสการ์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ผู้สันทัดกรณีต่างฟันธงพร้อมกันว่า ยังไงเสียสกอร์เซซีจะต้องคว้าออสการ์ในปีนี้ไปครองอย่างแน่นอน
"ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง มันก็คงจะเยี่ยมมาก เพราะมันนาน, นานเกินไปแล้ว รู้ไหม มันบ้าแค่ไหน เพราะจริงๆ เขาควรจะได้มันไปหลายตัวตั้งนานนมแล้ว" บิล คอนดอน ผู้กำกับของ Dreamgirls หนังที่เข้าชิงสูงสุดถึง 8 ออสการ์ในปีนี้ ยกเว้นสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกรายของสกอร์เซซีถ้าเขาได้เข้าชิงอีกราย
สำหรับผู้ที่ร่วมงานกับเขามาแล้วถึง 3 เรื่องอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รวมทั้งใน The Departed คงจะไม่คิดว่าจะมีใครที่เหมาะสมไปมากกว่านี้
"ผมคิดว่าปีนี้จะเป็นปีที่เขายุติการรอคอยเสียที จนมันจะกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วที่เขายังไม่ได้ออสการ์"
"The Departed ได้รับเสียงชื่นชมทั้งจากนักวิจารณ์ ประสบความสำเร็จทางรายได้ มันลงล็อกไปซะทุกอย่าง เหลือแต่ดวงเท่านั้นที่จะพาเราไปตลอดรอดฝั่ง" ลีโอกล่าว
The Departed เข้าชิง 5 สาขา
1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2. ผู้กำกับยอดเยี่ยม (มาร์ติน สกอร์เซซี)
3. นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก)
4. บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
5. ลำดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
