ชี้เหตุ ลาวไม่พอใจ “เพลงรักสองฝั่งโขง” ของเวิร์คพอยท์ ฉากหนุ่มไทยขว้างดอกไม้ประจำชาติ “จำปา” ทิ้งพื้น แถมยังทำให้หญิงลาวเหมือนคนใจง่าย รวมถึงคำสบถที่ไม่สุภาพและภาษาที่ไม่ชัด ด้าน เวิร์คพอยท์ ยินดีนำกลับไปแก้ ขณะที่หัวเรือใหญ่ “ธงชัย ประสงค์สันติ” ที่เคยคุยเป็นละครส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีของทั้งสองประเทศ ยังเงียบ ส่วนนางไห “ตุ๊กตา” เผยละครทำให้ลาวดูดีมาก ขณะที่ “กันตนา” กลัวมีเรื่อง ขอใช้ประเทศสมมติแทน
ทำเอาบรรดาแฟนๆ ละครของวิกหมอชิตต้องพากันแปลกใจทีเดียวสำหรับการงดฉายละครเรื่อง “เพลงรักสองฝั่งโขง” ของบริษัท เวิร์คพอยท์ อย่างกะทันหัน ทั้งที่มีกำหนดจะออกอากาศในคืนวันอังคารที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทางช่อง 7 เองได้นำเอาละครเรื่อง “เขาหาว่าหนูเป็นเจ้าหญิง” มาออกอากาศแทน
ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้ละครเรื่องที่ว่าต้องงดการออกอากาศก็เนื่องจากได้มีหนังสือส่งมาจาก “หมุนแก้ว ออละมูน” รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปยังบริษัท เวิร์คพอยท์ และช่อง 7 เพื่อขอให้งดการออกอากาศละครเรื่องที่ว่าไปก่อน เนื่องจากทางการลาวได้พิจารณาเห็นว่าเนื้อหาของละครมีหลายสิ่งที่สร้างความไม่สบายใจให้กับทางการลาวเป็นอย่างยิ่ง โดยทางการลาว เกรงว่า หากมีการแพร่ภาพไปแล้วจะกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คนลาวเกิดความไม่พอใจ จึงขอให้นำกลับไปแก้ไขก่อน
โดยหนังสือดังกล่าวได้ถูกส่งมาอย่างกะทันหันในวันที่ 8 ก.พ.ซึ่งเป็นเหตุให้ทางผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขได้ทัน จึงได้พิจารณาของดการออกอากาศ ขณะที่ทางผู้บริหารของช่อง 7 เองอย่าง “แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ได้เปิดเผยว่า ทางช่องและผู้ผลิตยินดีที่จะนำละครเรื่องที่ว่านี้กลับไปแก้ไขก่อน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และถือว่าเป็นบทเรียนที่จะต้องจดจำไว้ในการทำงานครั้งต่อไป พร้อมๆ กันนั้น ผู้บริหารของช่อง 7 ยังบอกด้วยว่าไม่อยากที่จะให้มีการขุดคุ้ยในรายละเอียดถึงสาเหตุที่แท้จริงแต่อย่างใด
สำหรับละครเรื่อง “เพลงรักสองฝั่งโขง” นั้น นำแสดงโดย “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” ร่วมกับนักร้องชื่อดังของประเทศลาว “อเล็กซานดร้า ธิดาวัลย์ บุญช่วย” ผลิตโดยบริษัท คำพอดี จำกัด ในเครือบริษัท เวิร์คพอยท์ โดยมี “ธงชัย ประสงค์สันติ” รับหน้าที่ดูแล เป็นเรื่องราวของพระเอกหนุ่มเมืองไทย “พิณ” ที่ไปตกหลุมรัก “จำปา” สาวลูกครึ่งลาว-อเมริกา ซึ่งแม้ว่าความรักทั้งสองจะถูกกีดกันจากผู้เป็นแม่ของฝ่ายหญิง ทว่าทั้งสองก็ใช้ความรักแท้ฟันฝ่าอุปสรรคที่ว่าได้เป็นผลสำเร็จ
ก่อนหน้าที่ละคร “เพลงรักสองฝั่งโขง” จะออกอากาศทางช่อง 7 รวมถึงบริษัท เวิร์คพอยท์ ได้หวังเป็นอย่างมาก ว่า ละครเรื่องนี้ที่มีงบประมาณในการถ่ายทำค่อนข้างจะสูง น่าจะประสบความสำเร็จทั้งในประเทศไทยเอง และที่ลาว ทั้งในเรื่องของเนื้อหา รวมถึงได้มีการดึงเอานักร้องสาวของลาวเข้ามาร่วม ขณะที่ทาง “ธงชัย ประสงค์สันติ” เองก็ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจ ว่า ละครเรื่องนี้จะเสมือนกับสื่อที่เชื่อมวัฒนธรรมของทั้งไทยและลาวให้แน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การถ่ายทำเองก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และคาดว่า คนลาวจะต้องชอบอย่างแน่นอน
ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะติดต่อเจ้าตัวเพื่อขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทว่า ก็ไม่สามารถที่จะทำได้แต่อย่างใด โดยหนึ่งในทีมงานที่ผลิตละครเรื่องดังกล่าว เผยว่า เจ้าตัวนั้นไม่อยากจะขอพูดอะไรในตอนนี้ แต่ก็ยินดีที่จะนำกลับไปแก้ไข
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้ทางการลาวต้องส่งหนังสือมาด้วยความไม่สบายใจนั้น แหล่งข่าวชี้ว่า มาจากฉากที่นางเอกสาวลาวได้นำเอาดอกไม้ “จำปา” ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของลาว มามอบให้กับฝ่ายชายไทย ทว่ากลับถูกหนุ่มไทยขว้างทิ้งอย่างไม่ไยดี นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของคำสบถที่ค่อนข้างจะหยาบคาย รวมไปถึงการที่ละครได้สื่อออกไปในลักษณะที่ว่าผู้หญิงลาวนั้นใจง่าย เห็นหน้าหนุ่มไทยเพียงครั้งเดียวก็เกิดอาการรัก-หลงทันที
“เพลงรักสองฝั่งโขง” ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สร้างความไม่พอใจให้กับทางการลาว ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะที่ว่านี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง “หมากเตะ” ของค่ายจีทีเอช ที่เป็นเรื่องตลกๆ ของนักฟุตบอลทีมชาติลาว ซึ่งถูกประท้วงจนทาง “จีทีเอช” ต้องนำกลับไปแก้ไขใหม่ก่อนจะนำกลับมาฉายอีกที
หรือจะเป็นกรณีของนิตยสาร “สไปซี่” ที่หยิบเอาภาษาลาวมาเล่นเป็นมุกตลก อาทิ ถ้าจะชมผู้หญิง (ลาว) สวยให้พูดว่า “สวยตายห่า” หรือถ้าจะเรียกผู้หญิงว่า “อีด-กทอง” จะถูกใจ เพราะว่าดูมีค่าดี หรือถ้าจะชมผู้ชายหล่อมากๆ ให้พูดว่า “หล่อฉิบห-ย” เวลาจะถ่ายรูปกลุ่มพูดว่า “มาแหกตาสามัคคีกันเถอะ” รวมทั้งคำพูดเสียดสีอีกหลายอย่าง กระทั่งหนังสือพิมพ์ลาวเองอย่าง “เวียงจันทน์ใหม่” ต้องออกมาเขียนวิพากษ์วิจารณ์แสดงความไม่พอใจ
..........
“นางไห” ชี้ ไม่น่าจะมีปัญหา
ด้านหนึ่งในนักแสดงของละครเรื่อง “เพลงรักสองฝั่งโขง” ในบทของนางไหประจำวงพระเอก “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” เผยว่า เท่าที่ทำมาก็ไม่เห็นว่าละครจะมีฉากไหนที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด...“ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ไม่ดี เพราะจะพูดแต่ถึงเรื่องดีๆ น่ะค่ะ ส่วนใหญ่ และพี่ธง (ธงชัย ประสงค์สันติ) พยายามทำออกมาให้ดูแล้วคนไทยกับคนลาวเห็นแล้วแบบว่าคนไทยก็อยากไปเที่ยวลาว คนลาวก็อยากไปเที่ยวไทย เพราะจะเป็นเหมือนสานสัมพันธ์น่ะค่ะ”
“หากที่ว่ามันก็ต้องดูตามเนื้อเรื่องน่ะค่ะว่าทิ้งทำไม อย่างตามเนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรนะ คือ นางเอกฝากให้พระเอกแล้วไม่ถึงมือพระเอก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน มันก็มีเหตุมีผลของมันนะ คือ นางเอกมาเชียร์พระเอก เพราะพระเอกแข่งวงดนตรีมาแล้วก็โดยความรักต้องมีอุปสรรคน่ะมีคนมาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาดอกไม้ให้พระเอกเอง แล้วไม่ได้ให้ ดอกไม้เอาไปทิ้ง”
“จริงๆ มันไม่ได้เป็นอะไรน่ะมันเป็นเหมือนตอนๆ หนึ่งของเรื่อง ซึ่งทำให้พระเอกเข้าใจนางเอกว่าไม่ยอมมาเชียร์วันนี้วันสำคัญนะ คือ นางเอกก็พยายามเข้าไปแต่มันก็ต้องมีตัวร้ายมากีดกัน ไม่ใช่อยู่ก็โยนทิ้ง”
แต่ยอมรับอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกไม่ดีได้
“หนูก็คิดว่า จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องอะไรที่ทางเขาก็มีสิทธิที่จะคิดอย่างนี้น่ะค่ะ แต่เขาก็น่าจะดูเหตุผลนิดหนึ่งว่าจริงๆ แล้วตามเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร เพราะมันจะเป็นละครที่ทำขึ้นมาเพื่อสานสัมพันธ์ 2 ประเทศน่ะ จริงๆ แล้วประเทศลาวกับเราใกล้กันมากจนจะเป็นประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ด้วยความที่วัฒนธรรมใกล้กันเป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วย เราก็รู้สึกว่าทุกอย่างทุกคนทีมงานอยากทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศนะ เพราะไม่มีตรงไหนเลยที่จะทำให้ประเทศลาวรู้สึกไม่ดี”
“เท่าที่ในเรื่องไม่มีเลยนะคะ ตุ๊กตาก็อ่านบทตลอด เพราะพี่ธงค่อนข้างที่จะประณีตมาก ละเอียดอ่อนมาก สวยงามแม้แต่คำพูดก็จะประดิษฐ์กันทุกฉากจริงๆ ระมัดระวังมากๆ น่ะค่ะ...ตุ๊กตาก็ได้พูดคุยกับคนลาวนะคะ แต่หนูว่าไม่ทุกคนนะที่เซ้นส์ซิทีฟกับเรื่องนี้เท่าที่สัมผัสทุกคนใจดีน่ะ เป็นคนใจเย็น มองโลกในแง่ดีน่ะค่ะ ก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งเลยต้องมีปัญหา”
รู้สึกเสียดายหากละครจะไม่ได้ออกอากาศจริงๆ แต่เชื่อว่า ทุกอย่างคงแก้ไขได้...“เสียดายเหมือนกัน เพราะว่าด้วยความตั้งใจของผู้กำกับ และคนประชาพันธ์อยากให้เห็นเลยว่าทำไมคนไทยถึงไปตกหลุมรักคนลาว เพราะประเทศลาวมีอะไรดีบ้าง มีวัฒนธรรมที่น่ารัก มีประเทศที่สวยงาม มีผู้หญิงที่มีความรักที่สวยงาม ถ้าได้ดูแล้วจะรู้สึกดีมากๆๆๆ น่ะนะ จะบอกว่าพี่ธงฝีมือมากค่ะคือเขาตั้งใจทำน่ะค่ะ”
“ก็คิดว่าทุกอย่างมันมีทางแก้ไขน่ะค่ะ ทางประเทศเขาก็คงอยากจะให้ตัดแค่บางฉากนะคะ ก็คิดว่าทางผู้ใหญ่คงเห็นไปตามเหมาะสม น่าจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีคิดว่าทางทีมงานน่าจะมีทางแก้ไขน่ะค่ะ...คือ เท่าที่ทราบมาตอนไปถ่ายก็ได้รับการต้อนรับที่ดี เพราะว่าตั้งแต่ต้นได้รับการติดต่อกับที่นั่นดีแล้วนะคะเขาถึงกล้าไปทำ เพราะไปก็ไปถ่ายวันประเพณีตลอดเลยนะช่วงเทศกาลแบบนี้ ก็ได้รับการต้อนรับที่ดีมากน่ะ”
“พี่ธงเขาเชิดชูน่ะค่ะทุกอย่างเครดิตเขาให้ลาวเกือบหมดเลย ถ้าได้ดูเหมือนเป็นละครลาวเลยน่ะ...พี่ธงคงไม่ท้อหรอกค่ะ เพราะทุกอย่างต้องมีปัญหาน่ะต้องมีอุปสรรคอยู่ที่ว่าใครจะเจออย่างไร ตุ๊กตามองว่าพี่ธงคงไม่เสียความรู้สึกกับคนลาวหรอกค่ะเพราะเขาเป็นคนที่กำลังใจดีมากและเขาก็ผ่านอุปสรรคมาเยอะพอสมควรกว่าจะมาถึงวันนี้"
“ถ้าสมมติผ่านพ้นตรงนี้มาได้อีกหน่อยอาจไม่มีปัญหาอะไรเลยก็ได้ อาจจะง่ายมาก ถ้าละครฉายเรตติ้งต้องดีมากค่ะ เพราะว่าเนื้อเรื่องสนุกมาก จริงๆ ตัวหนูเองยังอยากดูเลย...”
..........
“กันตนา” ออกตัว ไม่เกี่ยวกับลาว
จากกรณีที่ว่าและปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายต่อหลายครั้งที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งไทยและลาว ในส่วนของ “บริษัท กันตนา” เองที่เคยออกข่าวมา ว่า จะทำละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศลาวชื่อ “จำปารำพัน” เผยว่า ละครที่จะทำขึ้นมานั้นจะขอใช้เป็นประเทศที่ถูกสมมติขึ้นมาแทน
“ในเรื่องมันเป็นประเทศสมมติ บทมันยังมีการดัดแปลงอยู่ ภาษาเนี่ยไม่ใช่ภาษาลาว มันอาจจะเป็นภาษาอีสานหรืออะไรก็ว่ากันอีกที แต่ในเรื่องไม่ได้ไปพาดพิงถึงเขา ละครมันชื่อเรื่อง จำปารำพัน มี ซี ศิวัฒน์ กับ นุ่น วรนุช เล่น ในเรื่องตัวผู้ชายจะเป็นไทย ผู้หญิงเป็นประเทศสมมติที่ว่า แต่ไปอยู่ฝรั่งเศสแล้วไปเจอกันในต้นเรื่อง แล้วพอกลับมาผู้ชายก็ไปตามหาผู้หญิงคนนี้”
“เป็นละครรักโรแมนติก หรืออาจจะเป็นละครเพลง ยังไม่แน่ใจนะ มันจะมีเรื่องของเพลงเป็นตัวเกี่ยวข้องสอดประสานด้วย ซึ่งตัวพระเอกเขาต้องร้องเพลง เป็นละครเพลงแต่ไม่ถึงกับมนต์รักลูกทุ่งครับ มันออกแนวดราม่า เราคงไม่ไปแตะเขาเยอะ แต่มันมีนโยบายแห่งชาติอยู่แล้วนะ ใครที่จะทำเรื่องพวกนี้ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศก็ต้องมาระมัดระวัง ศึกษาให้รอบคอบและศึกษากันหลายด้านน่ะ”
เผยเคยทำกิจกรรมร่วมกันมาก่อนจึงรู้และเข้าใจในสถานการณ์และบรรยากาศต่างๆ พอสมควร
“ตอนนี้จำปารำพันยังไม่ได้ถ่ายเยอะ เพิ่งจะเริ่มถ่าย จริงๆ เราระมัดระวังอยู่แล้ว ที่จริงกันตนามีทีมฟุตบอลกันตนาสุวรรณภูมิ ซึ่งเรารวมกับทางกระทรวงต่างประเทศที่จะประสานความสัมพันธ์ เราเข้าใจถึงสถานการณ์ตรงนี้ดีพอสมควร รู้ว่าควรจะเอามาทำได้แค่ไหน คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อย่างที่บอก ประเทศเราคงจะต้องสมมติเอานั่นแหละ”
“พี่ว่าผู้ใหญ่คงดูถี่ถ้วนแล้วล่ะ...(หัวเราะ) เพราะงานแก้มันคงแย่กว่างานทำใหม่ ยิ่งเกิดเรื่องนี้เกิดขึ้นเขาต้องยิ่งระวังมากขึ้นอีก ตอนนี้ละครถ่ายปกติ ยังไม่มีการงด ระงับเรา เราไม่อยากไปพาดพิงละครของคนอื่น ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรตรงไหนฉากไหนที่ไปขัด แต่คิดว่าทุกคนก็คงรู้ดีว่าควรทำให้มันออกมาได้แค่ไหน ตรงนี้ไม่ขอพาดพิง”