ชวนเที่ยวอัมพวา....

ชวนเที่ยวอัมพวา....

โดยนพวรรณ สิริเวชกุล

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อรับชมและฟัง ในรูปแบบ Photo Slide Show

ช่วงนี้กระแสการเที่ยวชมหิ่งห้อยยามราตรี ที่อัมพวา กำลังเป็นที่นิยมนะคะ วันหยุดสุดสัปดาห์หลายครอบครัวจะมุ่งหน้าไปอัมพวา ลัดเลาะเที่ยวเล่น กระทั่งเย็นถึงจะลงเรือชมหิ่งห้อย บางคนก็แวะค้างคืนแบบ โฮมสเตย์ที่นั่น บางครอบครัวก็กลับบ้านเลย.... อัมพวา เป็นอำเภอหนึ่งในเขตจังหวัดสมุทรสงครามค่ะ...ระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา อัมพวาได้รับการกล่าวถึงทางการท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยว่าเส้นทางที่สะดวกและไม่ไกลไปจากเมืองหลวง ทำให้ใครหลายคนเดินทางมาได้ง่าย

จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม ต่างๆ มากมาย พื้นที่โดยทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน และมีคลองต่างๆ ประมาณ 300 คลองกระจายอยู่ทั่วจังหวัด โดยเฉพาะเขตอำเภออัมพวา ซึ่งที่นี่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำสวนมะพร้าว และมีการยกร่องสวนกันมาแต่อดีต ที่ถือเป็นภูมิปัญญาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ชุ่มน้ำ และมีน้ำเข้าถึงสวนในบางช่วงของปี

อัมพวานอกจากจะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษหลายประการ ทั้งวัดวาอารามต่าง ๆที่ปรากฏให้เห็นแทบทุกจุด รูปแบบสถาปัตยกรรม ที่หลากหลายผสมผสานวัฒนธรรมมอญ ไทย จีน ได้อย่างกลมกลืน ทำให้เป็นจุดเด่นสำหรับการท่องเที่ยวแม่กลอง ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ทั้งวิถีชีวิตของชาวอัมพวาที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมตลอดเวลากว่า 20 ปี จึงทำให้อัมพวามีเสน่ห์ดึงดูดให้ใครหลายคน หลบความสับสนวุ่นวายไปพักผ่อนที่นั่นได้....

แต่เดิมอัมพวามีชื่อเรียกว่า บางช้าง แต่ไม่ปรากฎเป็นหลักฐานที่แน่ชัดว่า ตั้งชื่อนี้กันมาแต่สมัยไหน บางช้างแต่เดิมรวมอยู่กับเขตเมืองราชบุรี และถือเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีความเจริญทั้งในด้านการค้าและการเกษตร ความสำคัญของอัมพวาหรือบางช้างในทางประวัติศาสตร์ก็คือ ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ โปรดเกล้าฯ ให้นายทองด้วงไปเป็นหลวงยกกระบัตรที่เมืองราชบุรี ซึ่งถือเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา

ภายหลังหลวงยกกระบัตรท่านนี้ได้แต่งงานกับคุณนาค ซึ่งเป็นธิดาของเศรษฐีบางช้างและย้ายมาอยู่บ้านหลังวัดจุฬามณี กระทั่งเกิดไฟไหม้บ้าน จึงได้ย้ายครอบครัวมาสร้างเรือนใหม่บริเวณวัดอัมพวันเจติยาราม กระทั่งกลายเป็นเรือนประสูติของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยหรือนายฉิม

หลายคนที่ไปเที่ยวอัมพวา มักจะแวะไปชมอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือที่เรียกกันติดปากว่า อุทยานร.2 เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมที่งดงามไว้เป็นมรดกของชาติ จนกระทั่งพระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (Unesco)

บริเวณที่กลายเป็นอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยาราม เป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย ด้วยถือว่าบริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 นั่นเอง

ด้านหน้าของอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ คือที่ตั้งของวัดอัมพวันเจติยาราม ซึ่งเป็นวัดของตระกูลราชินิกูลบางช้าง และสันนิษฐานว่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 บริเวณหลังวัดแห่งนี้เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ครั้งยังดำรงพระยศเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี และบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันเจติยารามในปัจจุบันนี้ เดิมเคยเป็นเรือนที่คุณนาคใช้เป็นเรือนคลอดคุณฉิม ซึ่งในกาลต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย...

วัดอัมพวันเจติยาราม ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ โดยรัชกาลที่ 3 ,4 และ 5 ปัจจุบันวัดอัมพวันฯ แห่งนี้ถือเป็นพระอารามหลวงชั้นโท พระอุโบสถตลอดจนถาวรวัตถุในวัดนี้ ส่วนใหญ่เป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งนับเป็นพระอุโบสถที่มีความงดงามอีกด้วย

หากมีเวลา น่าจะลองแวะไปเที่ยวชมเรื่องราวในอดีตที่ยังมีชีวิตอยู่ที่อัมพวา กันบ้างนะคะ อย่างน้อยการที่เราได้เที่ยวชมวัดและอุทยานที่เต็มไปด้วยต้นไม่หลากหลายพันธุ์นั้น ก็พอทำให้เราลืมเรื่องยุ่งๆ ในใจลงไปได้บ้างล่ะค่ะ

พบกับรายการ ต่างสมัย รอยไทย โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
ได้ทุกวัน เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 07.00 - 08.00 น.
ทางคลื่นสามัญประจำบ้าน FM 97.75 MHz
หรือรับฟังรายการย้อนหลังได้ทาง www.managerradio.com