"ตั้ว" บอกข่าวเป็นชู้กับ "นกหญิง" เป็นเรื่องอัปรีย์ ด่าพวกกุข่าวและคนในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นพวกหน้าตัวเมีย ออกปากรู้สึกงงกับข่าวเพราะตนไม่ใช่นักการเมืองขี้โกงที่จะต้องโดนโจมตีขนาดนี้ เจ้าตัวยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิดพร้อมปฎิเสธเรื่องรับทำละครเอง ด้าน "นกชาย" พูดไม่ออก บอกเพียงอยากให้เรื่องมันจบ
เป็นเรื่องฮือฮาพอสมควรเมื่อมีข่าวลือว่า "นก สินจัย เปล่งพานิช" คบชู้กับ "ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ถึงขนาดใช้บ้านที่ฝ่ายชายเช่าให้เป็นรังรัก โดยฝ่ายหญิงปฏิเสธแล้วว่าเป็นแค่ออฟฟิศที่ทำละครด้วยกันต่างหาก ขณะที่ฝ่ายชายเองพอโดนถามถึงเรื่องดังกล่าวก็ใส่เป็นชุดว่า...
"มันควรจะจบแล้ว อันดับแรกเลยขอร้องอย่าไปเขียนว่าตั้วลั่น, ประกาศกร้าวอารมณ์เสีย มันไม่ดี มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องและพี่คิดว่ามันจบแล้ว ความจริงก็คือทุกคนพูดเหมือนกันมันก็น่าจะจบ ก็ไม่อยากพูดต่อให้มันกลายเป็นเครื่องมือของใครที่ไปสร้างเรื่องที่ผมต้องบอกว่าอัปรีย์จริงๆ คิดอะไรได้ขนาดนี้น่ะ ผมทำงานมาจนขนาดนี้อายุขนาดนี้วุฒิภาวะขนาดนี้ไม่รู้ใครเอาอะไรมาคิด มันไม่ไหวน่ะ"
"แต่ทั้งหมดนี้ห้ามไปเขียนว่าพี่ตวาดอะไรนะ พี่พูดแบบยิ้มๆ นะ แต่มันไม่น่ามาทำกับพี่ พี่ไม่ใช่นักการเมืองที่โกงกินบ้านเมืองจะต้องมาอะไรขนาดนี้นะ ที่สำคัญมันไม่มีอะไรเลยไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะฉะนั้นพี่ก็เลยไม่อยากพูด มันมี 2 อย่างถ้าไม่พูดก็เป็นว่าหนีไม่พูด พอพูดก็กลายเป็นแก้ตัวเพราะฉะนั้นมันคือหนึ่งเรื่องราวในแวดวงสื่อที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ เรื่องดีๆที่น่าจะทำน่าพูดถึงกว่านี้มีตั้งเยอะแยะ"
เมื่อถามตั้วต่อว่ารู้สึกอย่างไรกับข่าวที่เกิดขึ้นและคิดว่าคนปล่อยข่าวลือนี้ทำไปเพื่ออะไร เจ้าตัวถึงกับหลุดด่า "หน้าตัวเมีย" ออกมา
"ไม่คิดไม่ได้คิดคือแน่ๆ ต้องเป็นหน้าตัวเมียน่ะ มันไปอยู่ตรงไหนไม่รู้แล้วก็พูดขึ้นมา ไม่รู้จะทำทำไมไง ปัดโธ่เอ๊ย ถ้าเป็นนักแสดงวัยรุ่นอยู่ในกระแส มีผลต่อค่ายเทปหรือบริษัทก็ว่ากันไปอย่างที่เขาทำกันอยู่ มันก็โอเคน่ะก็เข้าใจแต่นี่มันขนาดนี้แล้วจะอะไร นึกไม่ออกว่าเขาทำทำไมอาจจะสนุกปากแต่พี่ไม่คิดอะไรมาก"
"ก็มองอย่างเข้าใจว่าทุกวันนี้โลกมันเป็นอย่างนี้ก็เท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีอะไร ก็ไม่อยากไปรู้สึกอะไรกับมันมาก ไม่อยากไปงงมากเดี๋ยวคนที่มันทำจะรู้สึกภาคภูมิใจ จริงๆ นะพี่คิดว่ามันน่าจะเข้าใจกันได้ทุกฝ่ายและเรื่องแบบนี้คือพี่เปิ้ล (หัทยา) ก็พูดแล้ว นก (สินจัย)ก็พูดแล้วก็มีเท่านั้นน่ะ ไม่น่าจะมีประเด็นถามต่ออีกแล้ว"
แม้จะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรแต่ตั้วก็ออกปากงงกับข่าวอัปรีย์นี้จริงๆ
"หลายคนคิดกันว่าเป็นเพราะพี่กับนกมาทำละครด้วยกันรึเปล่า ก็ทำมาตั้ง 3 – 4 เรื่องแล้ว อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลยคือทำไปแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำ ทำมาตั้งแต่ละครเทิดพระเกียรติแล้ว ก็บอกตรงๆ งงๆ ก็กลายเป็นว่าพี่แพ้มันไอ้หน้าตัวเมีย แต่จริงๆ มันไม่น่าจะงงนะก็ทุกคนพูดไปตามความจริง ไม่ใช่ว่าพี่มีอย่างนั้นอย่างนี้แล้วอาจจะแก้ตัว"
มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกอินเทอร์เน็ตถึงเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่าพระเอกหนุ่มใหญ่รู้หรือไม่ ตั้วบอกตนไม่เคยคิดเข้าไปอยู่ในโลกของคนไม่มียางอายเด็ดขาด..."พี่ไม่ดูโลกของหน้าตัวเมียน่ะครับ อย่าบอกว่าพี่ด่านะพี่พูดอย่างหน้ายิ้มๆ นะเพราะว่าเราน่าจะได้ประโยชน์หลายๆ อย่างจากเทคโนโลยี คือการที่เราชอบใครหรือไม่ชอบใครเป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครจะรู้สึกอย่างไรก็ได้แต่ว่าการมาใช้พื้นที่ตรงนี้แล้วโจมตีจนเกิดเป็นเรื่องอย่างนี้ ใครอยากจะด่าใครก็มาด่าแบบหยาบคายพี่ว่ามันไม่ถูกต้อง"
"ที่พี่ไม่อ่านไม่ใช่แต่เรื่องนี้แต่แต่ไหนแต่ไรพี่ก็ไม่ดูอยู่แล้วเพราะจะทำให้เราเกิดอารมณ์ไปด้วย พี่ว่าการใช้โลกอิเล็กโทรนิกส์ด้วยวิธีนี้เป็นวิธีของคนไม่มียางอาย ตัวเองอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เป็นใครก็ไม่รู้แล้วก็เข้ามาว่าคนอื่น"
นักแสดงรุ่นใหญ่เผยว่าหลังมีข่าวเกิดขึ้นตนเองได้คุยกับนกหญิงแล้ว ก่อนจะแจงเรื่องการทำละครร่วมกันว่า..."ก็คุยกับนกวันที่มีข่าว พี่รู้จากคนอื่นด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้อ่านข่าวเองแล้วนกเขามาเล่าให้ฟังว่ามีข่าวและไปให้สัมภาษณ์แล้วเท่านั้นเองคือไม่ให้น้ำหนักมากน่ะครับเพราะพี่ไม่คิดว่าใครจะมาคิดอย่างนี้หรือถ้าคิดก็ช่างหัวแม่งมันเถอะ"
"เรื่องผลิตละครพี่ไม่ทำละครเด็ดขาดพี่จะทำได้ก็ต่อเมื่อมันเบ็ดเสร็จมาแล้วที่พี่ไม่ต้องไปดิวกับสถานีอย่างนี้พี่พอทำได้เพื่อไม่ให้มีปัญหา อย่างที่ผ่านมาทำละครเทิดพระเกียรติแต่ทีนี้พี่นกเนี่ยทำละครเทิดพระเกียรติเขาก็อยากทำละครบ้าง พี่ก็ว่าก็เอาสิเพราะพี่นกเขาสนิทกับคุณบอย อย่างไปตัดตอนมาอย่างนี้ทำให้ได้"
"คือก็ยังไม่ได้ดำเนินการถึงไหนเพราะว่าบริษัทพี่จริงๆ ทำหนัง พี่ก็ทำหนังของพี่ไป ก็คุยไปว่าถ้าพี่นกเขาอยากทำละครก็ถ้าเหมามาอย่างนี้ก็เป็นมือปืนรับจ้างทำ ก็หุ้นกันตรงนั้น ในเรื่องของโปรดักชั่นอาจมีเรื่องของการขายสปอนเซอร์ซึ่งพี่ไม่รู้ตรงนี้พี่นกอาจนึกสนุกอยากทำตรงนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"
ส่วนทางด้าน "นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช" สามี "นก สินจัย" ย่อมโดนผลกระทบจากข่าวนี้โดยตรงผู้สื่อข่าวจึงตามไปถามความรู้สึกของนกชายแต่เจ้าตัวบอกไม่ขอพูดถึง..."พี่นกหญิงพูดไปหมดแล้วทุกสิ่งอัน พี่นกก็ไม่อะไรกับตรงนี้นะครับหมายความว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นพี่นกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดได้อย่างไร พี่นกว่ามันน่าจะหยุดแล้วนะ นักข่าวก็ทราบอยู่แล้วว่ามันเป็นอย่างไร..."
"เพราะฉะนั้นพี่นกก็คงไม่น่าจะพูดอะไรให้มันเยอะขึ้นไปอีก ไม่พูดดีกว่า ปิดประตูสำหรับตรงนี้ดีกว่า ไม่ดีหรอกครับหากจะพูดอะไรออกไปอีกเยอะแยะมากมาย..."