xs
xsm
sm
md
lg

(สาว)ลาวใจแตก!!(2)/เรื่องจากจอ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

วันนี้ขอบอกกล่าวชี้แจงความรู้สึกส่วนตัวสักนิดนะครับ

ที่มาของการเขียนครั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากข้อเขียนชิ้นที่ผ่านมา "(สาว)ลาวใจแตก!!" ที่มีผู้อ่านบางส่วนซึ่งอ่านจนจบแล้วและได้แสดงความคิดเห็นเข้ามาทาง http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID= 9500000004116 นั่นแหละครับ

โดยส่วนใหญ่หรือจะเรียกว่าเกือบจะทั้งหมดมีแนวโน้มไปในทางตำหนิ ติติง และเสนอแนะ อันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเองรู้สึกถึงความ "ไม่ปกติ" เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับความ "ตั้งใจอย่างแท้จริง" ในการนำเสนองานที่ว่านี้ออกไป

เป็นผลสะท้อนกลับที่เริ่มต้นเหมือนจะ "คาดเดา" ได้ในระดับหนึ่งถึง ท่าที และอารมณ์ความรู้สึกของคนอ่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเอาเข้าจริงๆ ต้องบอกว่า "ผิดคาด" ครับ

ยกตัวของการแสดงความคิดเห็นที่เข้ามา อย่างเช่น...

- ความคิดเห็นที่ 3 - คุณอำนาจนี่ท่าทางข่าวสารบ้านเมืองนี่คงไม่ค่อยได้ติดตามกระมังคะ คืนวันที่ 31 ธ.ค. น่ะ ระเบิดไป 10 จุดค่ะ สองที่สุดท้ายของคืนนั้นคือ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงบริเวณคอสะพานข้ามคลอง และฝั่งตรงข้ามคือ ตู้โทรศัพท์หน้าโรงแรมอโนมา ขนาดดิฉันไม่ได้ทำงานด้านสื่อสารมวลชนหาเลี้ยงชีพยังเกาะติดสถานการณ์บ้านเมืองมากกว่าคุณเลย กว่าคุณจะลงมือเขียนคอลัมน์นี้น่ะคุณน่าจะได้ทราบข้อมูลทั้งสิ้นของการระเบิดในวันนั้นแล้วนี่คะ ทำไมยังมานั่งเทียนเขียนข่าวอยู่อีก จบสื่อสารมวลชนมาจากสถาบันไหนหรือคะ?/pasinee

- ความคิดเห็นที่ 4 - อายเหรอคะที่เอาข้อมูลนั่งเทียนมาเขียนคอลัมน์ ไม่มีการกลั่นกรองตรวจสอบเลย ทั้งที่ข่าวเรื่องวางระเบิดก็เสนอทุกช่อง ณ เวลานั้น ดิฉันเองก็ยังอยู่ที่เมืองไทย ยังติดตามข่าวสารบ้านเมืองมากกว่าคุณเลย ดิฉันก็จบสื่อสารมวลชนมาเหมือนกันเลยเกิดความข้องใจว่า สื่อสารมวลชนสถาบันไหนเค้าสอนคุณมาแบบนี้??/ภาสินี

- ความคิดเห็นที่ 13 - โฮ พี่นักเขียนครับ มันก่อจริงของพี่ครับ ยอมรับว่าเด็กลาวสมัยนี้เขาเปลี่ยนไปมาก ทางการลาวเองห่วงเหมือนกัน อันเนื่องมาจากทีวีไทย แต่พี่เองก่อพาดหัวข่าวแรงไปหน่อยนะ พี่กลัวคนไม่เข้ามาอ่านเหรอครับ? น้อยคนมากที่เขาจะอ่านทังหมดนี้ แล้วคนที่อ่านแค่หัวข้อละ เขาคงไม่เข้าใจผิดหรอกนะ แต่เขาจะคิดแบบผมเลยว่า น่ะจะคิดนิดหนื่งก่อนพาดหัวข่าว/หนุ่มลาวที่โตเกียว

- ความคิดเห็นที่ 18 - อ่านข่าวนี้จบ...จาก สาว(ลาว)ใจแตก จะเป็น กอง บก. ปากแตก/นักเรียนออสเตรเลีย(ลืมlogin)

- ความคิดเห็นที่ 24 - คิดจะเป็นนักเขียนแต่ไม่มีศิลป์ ในการสื่อ หากยังคิดจะเขียนบทความเป็นอาชีพ คุณยังต้องฝีกอีกมาก ไม่รู้จบอะไรถึงมาทำงานเป็นสื่อได้ ผมแนะนำ คุณทำวิทยุอย่างเดียวดีกว่า อย่ามาเขียนเลย หรือว่าผู้จัดการขาดคน เลยต้องให้คนไร้คุณภาพมาเขียน บทความแบบนี้แต่พาดหัว ก็ไม่ตรงกับเนื้อหาแล้ว หากพาดหัวกันแบบนี้ ผมก็ คงต้อง พาดหัว ของผมในการวิจารณ์ คุณบ้างว่า พ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วในการวิจารณ์ แม้จะทำเป็นว่าชมเชย สังคมลาว แต่ก็แทนที่คนลาวอ่านแล้วจะปรบมือ กลับไปเขียนกัดเขาในเชิงลบอยู่ แบบนี้เรียกว่า ไม่มีศิลป์ในการสื่อสาร ไม่รู้ว่าเรียนจบอะไรมาถึงมาทำงาน เป็นสื่อได้แบบนึ้ ผู้จัดการรับคนยังไง/แนะนำ

- ความคิดเห็นที่ 26 - ถืง ท่าน อำนาจ เกิดเทพ และ กอง บ.ก พวกท่านก็เป็นปัญญาชน เวลาตั้งชื่อเลื่องทำไม่คิดดีๆ ท่านไม่คิดว่าคนที่นี้เขาจะเสยความรู้สึกฤา เพาะว่ามีคนจำนวนมากที่เป็นแฟนรายกาน metrolife, managerradio,manager online และก็ยังเป็นแฟน ท่าน สนธิ ลิ้มทองกุลด้วย/smith2bill@yahoo.com

... ฯลฯ...

ผมขอน้อมรับข้อเสนอแนะทั้งหลายเอาไว้ทั้งหมดด้วยเต็มใจอย่างไม่มีอคติ(ขอยืนยันครับ) และมีความยินดีเป็นอย่างมากในสิ่งที่สะท้อนออกมากับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันอันเป็นสิ่งที่ผมเองต้องการเป็นที่สุดในการที่จะสื่อสารอะไรออกไป เนื่องด้วยความรู้ แนวคิดและประสบการณ์หลายต่อหลายอย่างที่ท่านได้แสดงผ่านเข้ามาในรูปแบบและอารมณ์ที่แตกต่างกันไปมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะทำให้ ความโง่ ความเขลา ความเบาปัญญา ความไม่รู้ ความประมาทเลินเล่อ หรือแม้กระทั่งความอ่อนด้อยประสบการณ์ ต่างๆ เหล่านี้ของผมที่มีมากเหลือเกินได้ลดน้อยลงไปบ้าง

ก่อนอื่นต้องผมขอยืนยันเลยครับว่า ผม(ที่ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นคนระดับ "ปัญญาชน")ไม่เคยมีความรู้สึกที่ไม่ดี รังเกียจ ดูแคลน ดูหมิ่น หรือแม้กระทั่งมองว่าตนเองมีความ "เจริญ" มี "อารยะ" กว่าคนลาวอย่างที่ใครหลายคนรู้สึกจากงานเขียนที่ว่าแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ความรู้สึกที่มีมันตรงกันข้ามกันเสียด้วย

ผมชอบไปเที่ยวลาวมาก(ช่วง 3 - 4 ปีหลังไปทุกปี (จนแม่หาว่ามีเมียอยู่ที่ลาว), ผมชอบนิสัยตรงๆ ซื่อๆ และจริงใจของเพื่อนผมที่เป็นคนลาวรวมถึงคนลาวหลายต่อหลายคนที่ได้ไปพบพูดคุย, ผมชอบเบียร์ลาวที่นอกจากรสชาติจะดีแล้วราคายังถูกอีกต่างหาก, ผมชอบธรรมชาติที่มากไปด้วยภูเขา - ป่าไม้ รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ผมถึงขนาดเคยคิดที่จะวางแผนไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศลาวเสียด้วยซ้ำไป

กรณีของการใช้คำที่ว่า...คนที่นี่ขี้เกียจ ไม่มีความฝัน ไม่มีความทะเยอทะยาน สภาพบ้านเมืองถนนหนทางยังดูล้าหลัง ไม่ทันสมัย...ซึ่งดูเหมือนจะเป็นประโยคที่หลายๆ คนไม่ชอบใจในงานเขียนชิ้นที่แล้ว หากดูหมดทั้งประโยคจะเห็นได้ว่าได้มีการใช้คำว่า "ตาเปล่า" กำกับไว้ด้วย ซึ่งในความตั้งใจของผมก็คือให้เป็นไปในลักษณะที่ว่าเป็นการมองและตัดสินเอาจากที่สองตาที่มองเห็น ทั้งในเรื่องของพฤติกรรม การแสดงออกของคน นิสัย การจัดการกับปัญหา รวมไปถึงสภาพของบ้านเมืองส่วนใหญ่ทั้ง ระบบไฟฟ้า การประปา การคมนาคม ถนนหนทาง โดยมิได้มีเจตนาที่จะนำไปเปรียบเทียบหรือตัดสินในสิ่งที่เป็น "นามธรรม" เรื่องที่ว่ามัน "ดี" หรือ "ไม่ดี", คน - หรือประเทศไหนจะมีความงาม - มีคุณค่ามากกว่ากัน หรือจะบอกว่าคนไทยมีความ "เจริญ" ที่มากกว่าคนลาว - คนลาวมีความสุขมากกว่าคนไทยแต่อย่างใดก็หาไม่

การพาดหัวโดยใช้ประโยคที่ว่า "(สาว)ลาวใจแตก!!" ผมไม่ปฏิเสธครับว่าส่วนหนึ่งก็เพราะคิดว่ามันเรียกความสนใจล่อให้คนเข้ามาอ่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลักๆ เลยผมขอยืนยันว่ามันมีการ "เล่นคำ" ที่ในความรู้สึกของผมมันไม่ได้สื่อถึงนัยของการดูถูก ดูแคลน และผมก็ไม่ได้บอกเช่นกันว่าผู้หญิงประเทศลาวกำลังใจแตก มูลเหตุของการใช้คำว่า(สาว)เติมเข้ามาเพราะผมอยากให้เห็นภาพที่ชัดเจน และคำว่า "ใจแตก" นั้นผมใช้ในนัยของการสื่อให้เห็นถึงการ "มาพบกัน" ของวิถีชีวิตแบบเก่ากับสังคมและเทคโนโลยีรวมถึงแนวคิดในรูปแบบใหม่ๆ ที่เข้ามาที่ประเทศลาวในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกๆ ที่ ทุกๆ สังคม ที่มีองค์ประกอบทั้งคนดีและไม่ดี

อาจจะคิดผิด แปลก หรือแตกต่างไปจากคนอื่น(หรืออาจจะฟังดูแล้วเหมือนคำแก้ตัว)หากผมจะบอกว่าคำว่า "ใจแตก" (ซึ่งแน่นอนว่ามันมีความหมายไปในทางลบ) นั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก หากแต่คิดไปไกลกว่านั้นถึงเรื่อง "ผล" ที่ออกมาจากพฤติกรรมในเชิงลบที่ว่านี้ ที่เป็นไปได้ทั้งในด้านที่ "ดี" และ "ไม่ดี" (คงไม่ต้องยกตัวอย่างก็น่าจะเข้าใจกัน)

ตัวผมเองแม้จะมีรสนิยมที่ชื่นชอบอะไรที่เป็น "วิถี" แบบบ้านๆ เดิมๆ แต่น้อยครั้งมากๆ ที่ผมจะไปสรุปหรือฟันธงว่าทั้งคนและเทคโนโลยีที่อยู่ใน "วิถี" เก่าๆ มั้นจะ "ดีกว่า" หรือ "ไม่ดีกว่า" คนและเทคโนโลยีที่เป็นของใหม่ อันเนื่องมาจากเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปต่างๆ นานาๆ

ทั้งหมดนี้ขอยืนยันจากใจเลยครับว่ามิใช่การแก้ตัวและไม่ได้มีเจตนาจะโน้มน้าวเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกเข้าใจว่าครั้งที่แล้วเป็นท่านผู้อ่านเองที่เข้าใจในเจตนาของผมผิดไป เพราะความคิดเห็นที่ออกมาจากข้อเขียนชิ้นที่แล้วซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันหมดเป็นสิ่งที่ยืนยันอย่างชัดเจนได้เป็นอย่างดีถึงความอ่อนด้อยทางการสื่อสาร ทางการเขียน รวมไปถึงรสนิยมที่ค่อนข้างจะห่วยแตกในเรื่องของการใช้ภาษา การมองประเด็นที่ขาดความรอบคอบของผม

ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยและน้อมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และแน่นอนครับว่าในเมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันคือความ "สำคัญ" อย่างยิ่งยวดที่ผมจะต้องมีให้น้อยที่สุดหรือไม่มีได้ก็ดีที่สุด(แต่คงเป็นไปไม่ได้)หากคิดที่จะทำอาชีพ - หน้าที่ตรงนี้ต่อไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ผมพิจารณาตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้วครับ

ส่วนกรณีของการตั้งชื่องานเขียนครั้งนี้ซ้ำของเก่าที่อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่ดีอีกครั้ง ขอเรียนตามตรงนะครับว่าผมเองไม่ได้เต็มใจสักเท่าไหร่ (หลังพิจารณาเห็นแล้วว่าไม่เหมาะสมจริงๆ)

แต่มันมีเหตุผลที่จำเป็นจริงๆ ครับ ก็หวังว่าหลายคนคงเข้าใจแล้วตอบได้ว่าทำไม?
กำลังโหลดความคิดเห็น