"โจอี้ บอย" เผยหนังต่อจาก "เก๋า เก๋า" มีไว้ในหัวเพียบ รอโอกาสเหมาะพร้อมจะสร้างต่อ ยอมรับสนใจวงการหนังแต่ไม่คิดทิ้งวงการเพลง ลั่นจองตัว "จ๋า แสบสนิท" เป็นนางเอกคู่ไว้แล้ว ปฏิเสธฝ่ายหญิงไม่ใช่กิ๊กเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้น ย้ำตอนนี้โสดสนิทยังไม่เจอคนที่ใช่ ขอทุ่มเวลาให้การงานอันดับหนึ่ง
แร็พเปอร์หนุ่มที่ผันตัวเองมาเอาดีด้านเขียนบทภาพยนตร์ "โจอี้ บอย" เผยหลังจากที่หนังเรื่องแรกในชีวิตอย่าง "เก๋า เก๋า" ลงโรงและประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ว่าโปรเจ็กต์ต่อไปมีอยู่ในหัวเพียบ รอโอกาสเหมาะๆ ที่จะปล่อยของเท่านั้น
"ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายเลยครับ แค่ได้มีโอกาสให้เราได้ทำเรื่องต่อไปต่อ แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว สำหรับเรื่องต่อๆไป นี่ก็มีแล้วครับ มีเอาไว้ในใจเต็มไปหมด มีเอาไว้หลายๆ พล็อต รอเขาเลือกออกมาว่าอันไหนจะได้นำมาทำกัน ซึ่งจริงๆ มีหลายแนวครับเพราะว่าผมก็จะเขียนเอาไว้หลายๆ แบบ แต่จริงๆ ที่อยากจะทำ คือพวกดราม่ามากกว่าเพราะว่าผมชอบครับ"
"จริงๆ แล้วมันคงติดมาจากแม่แหล่ะครับ ตอนเด็กๆ แม่จะพาไปดูหนังจีนหลิน ชิน เสียบ่อย ดูแล้วมันเป็นหนังที่ค่อนข้างจะได้อารมณ์ ในการดู ก็ชอบ จริงๆ ผมชอบทุกแนวนะครับ และถ้าจะให้เลือกจริงๆ ผมอยากเล่นหนังผีมากกว่า ส่วนเรื่องต่อไปนี่ผมยังไม่ทราบเลยว่าจะเป็นอย่างไร คงต้องรอให้ตัดสินใจว่าจะทำเรื่องไหน แล้วค่อยว่ากันไป แต่ว่าทุกเรื่องผมเล่นเองอยู่แล้ว เขียนเองต้องเล่นเองครับ"
"คงจะเน้นเรื่องการเล่นก่อนอยู่แล้วครับ เพราะผมหลงเสน่ห์การเล่นมากกว่าการทำงานกำกับ ผมว่ามันสนุกนะครับ มันสนุกในการเล่น คือเราเล่นมิวสิกวิดีโอมา มันแค่สามนาทีเราก็ชอบแล้ว นี่พอมาเป็นหนังปุ๊บ เราได้มานั่งดู เราก็ค่อนข้างจะภูมิใจที่ได้เห็น"
ไม่กลัวว่าใครจะมองว่าด้อยประสบการณ์ มองว่าทุกคนต้องมีก้าวแรก ยอมรับการทำหนังเป็นงานที่ต้องใช้ความทุ่มเท แต่อย่างไรงานเพลงก็ไม่มีวันทิ้ง
"ผมว่าประสบการณ์จริงๆ แล้ว มันเหมือนว่าทุกคนมันต้องมีครั้งแรก หลายๆ คนเริ่มจากคนเบื้องหลังจริงๆ หลายๆ คนเริ่มมาจากการเป็นนักเขียนจริงๆ พื้นฐานมันมากันคนละแบบ แต่ของผมมันมาจากสายดนตรี ทำงานเกี่ยวกับมิวสิควิดีโอมาตั้งนาน แล้วที่เราได้ดูได้ศึกษาคือ ผมว่ามันเป็นงานยาก เป็นงานที่ต้องใช้ความทุ่มเท เราติดอยู่อย่างเดียวว่าเราจะมีเวลาหนึ่งปีมาทุ่มเทให้กับมันหรือเปล่า เท่านั้นเอง"
"คงไม่ถึงขนาดทิ้งทุกอย่างมาทำหนังหรอกครับ เพราะงานหลักเราจริงๆ คือเรื่องเพลง ถ้าเราเห็นแล้วว่า ระยะเวลาหนึ่งปีเต็มๆ ในการสละทุกสิ่งทุกอย่างมากำกับ คือต้องเลิกทุกอย่าง ต้องเลิกทุกอย่างจริงๆ เพราะเราเห็นจากบอลเขากำกับแล้ว เราคิดว่า โห คนที่จะมากำกับหนังได้จริงๆ ต้องทุ่มเทมากๆต้องรัก ต้องทุ่มเทมากๆ เลยต้องใช้เวลา นั่นคือปัญหาใหญ่ของผมเลย เรื่องเวลานี่แหล่ะครับ"
"ผมว่าถ้ามีโอกาสคงต้องทำสักครั้งหนึ่ง ถ้าเรามีโอกาสน่าจะลองไปเรื่อยๆ เราโตมาจากตรงนี้ เริ่มจากนักร้อง เป็นนักแต่งเพลง นักแต่งเพลงเป็นโปรดิวเซอร์ มาเป็นเจ้าของค่าย ตอนนี้ก็ย้ายมาลองเล่นหนัง มันคือการก้าวไปเรื่อยๆ ของการทำงานของผมมากกว่า ถ้าทำได้ก็ต้องลองครับ"
ตัวนางเอกยังไม่มีที่แน่นอน แต่ยอมรับว่าจองตัว "จ๋า" ไว้แล้ว ย้ำชัดในอนาคตต้องมีได้เล่นร่วมกันสักเรื่องแน่นอน พร้อมปัด”จ๋า”เป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว ไม่เคยมีอะไรเกินคำว่า "เพื่อนสนิท"...
"ยังเลย แต่ที่มีคุยๆ กันไว้ ก็มีน้องจ๋า แสบสนิทนี่แหล่ะ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ แล้วต่างคนก็ต่างเล่นหนังกัน ก็มีโครงการที่วางไว้แน่ๆ เลยยังไงก็ต้องมีหนังเรื่องหนึ่ง ที่ โจอี้ บอย เล่นคู่กับจ๋า"
"เป็นเพื่อนสนิทกันครับ และก็ติดตามผลงานกันมาตั้งแต่นานนมแล้ว ส่วนหนังที่เราจะเล่นร่วมกันนี่จะเป็นแนวไหน ยังไม่รู้เลยครับ จริงๆ ก็เคยมีมาคุยกันนะ ว่า เฮ้ย จะเล่นแนวไหนวะ คุยกันไว้แล้ว จองไว้แล้วครับผม ไม่ต้องห่วงครับ ผมกับจ๋านี่รู้จักกันมานานมากแล้ว โดยที่ไม่มีข่าว เพราะว่ามันไม่มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น เพราะเราก็รู้จักแฟนเขา เขาก็รู้จักแฟนเรา คือมันเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ"
"หมายถึงว่าเรากับจ๋าเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว รู้จักแฟนจ๋าตั้งแต่สมัยแมทธิว ตั้งแต่สมัยไหนนั่นแล้ว ส่วนผมนี่ยังหาไม่ได้ครับผม มันต้องทำงานตลอด อย่างช่วงปีที่ผ่านมาก็ต้องทำหนัง ทำเพลงตลอด ส่วนปีต่อๆ ไปก็คงจะเป็นเหมือนเดิม คงจะเน้นเรื่องเพลงเป็นเมนหลักอยู่แล้ว ถ้ามีเวลาค่อยมาทำหนัง"
ยืนยันไม่เข็ดเรื่องความรัก เพียงแต่ยังไม่มีเวลาให้ เพราะถ้ามีแฟนอาจมีปัญหากระทบเรื่องงานได้ บอกที่บ้านช่วยหาให้แบบขำ ขำ ถ้าจะมีจริงขอเลือกเองดีกว่า ยอมรับตัวเองเลือกมาก เผยเพิ่งรู้ตัวว่าหลงเสน่ห์นางเอกหนังยุคก่อน เพราะที่ผ่านมาแฟนจะหน้าตาคล้ายกันหมด
"ไม่ได้เข็ดเรื่องความรักหรอกครับ แต่มันยังไม่มีเวลาที่จะมีมากกว่า ถ้าผมมีแฟนผมเต็มที่อยู่แล้ว คือแฟนกับงานนี่มาคู่กันเลย ครอบครัวอันดับหนึ่ง อันดับสองนี่แฟนกับงาน ถ้าจะเลือกงานนี่ก็ยังไม่ต้องมีแฟน ถ้าจะมีแฟนนี่ผมจะทิ้งงานเลย เรียกว่าบริษัทแทบพังเลยก็มี"
"ที่บ้านเขาไม่ได้หาให้ผมหรอก เขาก็มาแนะนำขำๆ เขาก็ขายข้าวมันไก่อะไรไป เขาก็มาบอก มีลูกสาวร้านข้าวมันไก่หน้าตาน่ารักดี เรียนดีด้วยนะ ผมก็บอกป๊าไปจีบเองแล้วกัน แหม...มันหมดเวลาคลุมถุงชนไปแล้วนะ เราก็ต้องเลือกตามกรรมเวรเรา หาเจอเมื่อไรก็มีแน่ๆ คือคนเรามันถูกสเป็กที ก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงผู้ชายมันก็ต้องชอบคนสวย คนหล่อ มันคือภาพแรกที่เราเห็น แต่สำหรับผม คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของเสน่ห์ที่ตามมามากกว่าที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกันนานๆ"
"ตอนนี้ไม่มีเลยครับ ผมว่าก็ค่อนข้างจะเลือกมากนะ ผมว่าจากประสบการณ์ที่เราผ่านตรงนั้นมาแล้ว ผ่านตรงนี้มาแล้ว มันทำให้เราเลือกแบบว่าให้มันไม่เหมือนกับคราวที่แล้ว น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้วางสเป็คเลย ไม่ได้นึกถึงเลยครับ"
"แฟนคนก่อนๆ หน้าคล้ายๆ กันหมดเลย เพิ่งรู้นะ มันรู้เพราะวันนั้นไปเจอหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่ ฟีบี้ เคทเล่น คุณอาผมพาเข้าไปดูในโรงหนัง ตอนผมสมัยเด็กๆ หนังที่ฟีบี้ เคทเล่น แล้วเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นผู้หญิงเปลือย แล้วผมเพิ่งมาเปิดดู พบว่าแฟนผมทุกคนหน้าเหมือนผู้หญิงคนนี้(หัวเราะ) มันทำให้เรารู้สึกว่า อย่างนี้แหล่ะที่สวยสำหรับตัวเอง มันคงไม่ได้เลือกหรอกครับ แต่ถ้าเจอจริงๆ มันคงโอ้โห...อย่างนี้มันโดนว่ะ"