เคยคบหากันอยู่พักหนึ่ง และเลิกรากันไปแบบไม่สวยซักเท่าไหร่ เพราะฝ่ายหญิง “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ชายสมัยนี้ดูยากไม่รู้เป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง พาลให้หลายคนเข้าใจผิดตีความว่า “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” อดีตแฟนหนุ่มของจ๋าท่าจะไม่แมน
เวลาผ่านมาเป็นปีจู่ ๆ จ๋าก็มาปรากฏตัวเป็นกำลังใจให้อั้มในงานเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊คส์ “เรื่องของหัวใจ Private Love Life” ของอั้ม หลังจากที่ไปไม่รอดกับการดูใจ “แดน วรเวช ดานุวงศ์” แต่พอเลิกงานจ๋าก็หายตัวปิ๊งราวกับรู้ว่าสื่อกำลังจะตั้งคำถามอะไร งานนี้ก็เลยต้องยกหน้าที่ทั้งหมดให้อั้มเป็นคนตอบ
“เราเลิกกันด้วยเหตุผลต่างๆ นานาที่ว่ากันไป โดยที่ผมไม่ได้ออกมาบอกชัดเจนว่าอะไร บางทีเรื่องราวคนสองคนมันไม่สามารถอธิบายได้เป็นตัวอักษร หรือถอดเป็นคำพูดได้ชัดเจน แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดี เราสามารถเป็นเพื่อนที่ดี มีอะไรยังสามารถปรึกษากันได้ การเป็นเพื่อนที่ดีแล้วมีอะไรแลกเปลี่ยนกัน ผมว่ามันไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว”
มาให้กำลังใจกันแบบนี้อาจมีสิทธิ์รีเทิร์น....
“ผมอยากจะบอกว่าไม่อยากให้คิดแบบนั้น คนเราเป็นเพื่อนกันได้ก็ดีแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็ไม่มีทางหายไป ถ้าความสัมพันธ์แบบอื่นก็อย่างที่รู้กันว่า ถ้าไปกันไม่ได้ หรือทำให้เจ็บช้ำน้ำใจก็ไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันได้ เราก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน มันก็โอเค”
“กับการที่เชิญเขามาในวันนี้ ผมก็ทราบอยู่แล้วว่าสื่อต้องมา และที่ผมเชิญเพื่อนทุกคนมา เพราะไม่กลัวว่าใครจะคิดยังไง ผมเคารพความเป็นเพื่อน ดังนั้นผมไม่แคร์ว่าใครมาแล้วจะมีข่าวอะไร หรือคิดกันไปในรูปแบบต่างๆ ผมยินดีที่จะให้เพื่อนมาทุกคน ทุกคนเป็นกำลังใจให้ผมหมด”
เคลียร์เรื่องจ๋าเสร็จพลิกดูหนังสือเล่มแรกของอั้มก็สะดุดตาหน้าปกที่เปลือยท่อนบนสุด ๆ มอง ๆ ดูแล้วก็แม๊นแมน แต่มองอีกทีก็ออกแนวเพศที่สามได้เหมือนกัน
“ถามว่าวาบหวิวมั้ย ก็วาบหวิว แต่ไม่ซะทีเดียว ผมเป็นคนออกกำลังกาย ดังนั้นการถอดเสื้อในสนามบอลเป็นเรื่องปกติมาก ทีแรกผมก็เซ็ทเสื้อผ้าไป แต่ทีมงานอยากให้เห็นว่าการออกกำลังกาย และเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ดี เขาอยากให้คนอื่นเห็นกัน มันก็ไม่มีอะไรเกินกว่านั้น ไม่ได้ถอดกางเกง หรือโพสท่าไปในทางอื่น”
“ถ้าใครจะคิดว่าเหมือนเกย์ก็แล้วแต่คนคิด บางคนอาจดูแล้วสุขภาพดี บางคนอาจคิดแบบนั้นก็ได้ แต่ผมมีตัวตนของผมชัดเจน ดังนั้นเลยไม่กลัวว่าใครจะคิดแบบไหน คนที่รู้จักผมจริงๆ จะรู้ว่าผมเป็นยังไง เวลาผมไปถ่ายแบบ ถ้าเขาให้ถอดเสื้อเพื่อให้เห็นสัดส่วน มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไม่พร้อมก็ไม่ถ่าย”
สำหรับเรื่องราวในหนังสือ “อั้ม” บอกว่า เป็นเรื่องราวของตัวเองล้วน ๆ ไม่ได้แฉใครกลับ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีคนออกสาวไส้เรื่องราวของอั้มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ “คืนที่ฉันนอนกับดารา” หรือแม้แต่ “หมออ้อย จุฑารัตน์ อัตถากร” ก็เคยแฉแหลกเรื่องอั้มมาแล้ว
“หนังสือเล่มนี้ผมไม่คิดจะแฉใคร แฉเรื่องราวของตัวเองดีกว่า ผมไม่ชอบการพูดพาดพิงถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดี โดยผ่านตัวหนังสือ ผมว่ามันเป็นสิ่งไม่สวยงาม และไม่แฟร์กับคนที่เราพาดพิงถึง ดังนั้นเรื่องราวที่เป็นตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นเรื่องราวของผมทั้งหมด แต่ก็จะมีพูดถึงบ้างคนที่ทำให้เกิดสิ่งดีๆ ทำให้เกิดความคิดที่ดีต่างๆ ในชีวิตผม”
“ผมไม่ได้แฉกลับใครเลย อย่างข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผม ผมก็จะบอกความรู้สึกลงในหนังสือเล่มนี้ บางทีผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์ หรือให้สัมภาษณ์ไปแต่อาจจะมีการผิดพลาดในเรื่องของข้อมูล แต่ทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้จะเป็นเรื่องราวจากปากของผมเลย”
“ผมไม่ค่อยแคร์ข่าวเป็นเกย์อะไรขนาดนั้น ผมเคยบอกหลายรอบไปแล้ว และในหนังสือเล่มนี้จะบอกเรื่องราวเป็นจริง ถามว่าหนังสือเล่มนี้ตั้งใจจะตอบคำถามหรือเปล่า ก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าอ่านหนังสือจะรู้ว่า สิ่งที่เคยสงสัย หรือบางทีมีเรื่องอะไรแล้วผมไม่พูด แต่ในเล่มนี้จะมีเพราะเป็นเรื่องราวและมุมมองของผม และรายได้ส่วนหนึ่งก็จะมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ อยากให้ทุกคนช่วยกันทำบุญ”