“ต้อย แอ็คเน่อร์” แจงเหตุเบี้ยวนัดไกล่เกลี่ยคดีหมิ่น “กบ” เป็นพิธีกรเก๊ ออกปากนางเอกสาวไม่เคยโทรหาตนเลย พร้อมปฏิเสธข่าวโดนหมายจับคดี “ครูสลา-ต่าย” ฟ้อง “ดาราเดลี่” ลั่นคดีไม่มีอะไรน่าห่วงแต่จะตกลงกันได้หรือไม่เจ้าตัวบอกต้องเป็นไปตามเกม เจ้าของนสพ.ดังยืนยันทั้ง 2 คดีตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไรสำหรับคดี “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์บันเทิง “ดาราเดลี่” ฐานหมิ่นประมาทเขียนข่าวระบุนางเอกสาวเป็นพิธีกรเก๊ ทั้งนี้นางเอกคนดังต้องการไกล่เกลี่ยให้คดียุติโดยการให้ฝ่ายหนังสือพิมพ์บันเทิงกล่าวขอโทษลงหนังสือเป็นจำนวน 5 ฉบับซึ่งกบบอกว่าเธอพยายามโทรเคลียร์กับ “ต้อย แอ็คเน่อร์” หรือ”เกรียงศักดิ์ สกุลชัย” แต่เจ้าของหนังสือก็ไม่เปิดโทรศัพท์มือถือเลย เรื่องราวบานปลายจนล่าสุดศาลได้นัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ทาง “ต้อย แอ็คเน่อร์” ไม่ได้มาตามนัดโดยเจ้าตัวให้เหตุผลสั้นๆว่า...
“เรื่องที่กบบอกว่าพี่ปิดมือถือไม่จริงนะ เขาไม่เคยโทรหาพี่อยู่แล้วและไม่มีเหตุผลที่พี่ไม่คุยกับเขาหรอก เราอยู่ในสื่อ ก็เราไม่ได้มีอะไรกับเขา แต่ล่าสุดที่พี่ไม่ได้ไปไกล่เกลี่ยก็เพราะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปของคดีเท่านั้นเอง”
อีกคดีที่ดูจะไม่จบง่ายๆกรณีครูเพลง “สลา คุณวุฒิ” กับลูกศิษย์ “ต่าย อรทัย ดาบคำ” ที่จับมือกันฟ้อง “ดาราเดลี่” ฐานกล่าวหาว่าทั้งคู่แอบมีสัมพันธ์กันเชิงชู้สาว โดยศาลได้นัดไกล่เกลี่ยไปแล้วแต่ทาง “ต้อย แอ็คเน่อร์” ก็ไม่ไปตามที่ศาลนัดจนล่าสุดมีข่าวว่าบก.คนดังโดนหมายจับนั้นเจ้าตัวรีบปฏิเสธข่าวทันที
“ไม่ใช่แจ้งจับก็เพียงแต่ว่าคดีของต่ายกับกบเป็นวันและเวลาเดียวกัน ทนายที่แต่งตั้งก็อยู่ที่ศาลที่กบ ก็เลยไม่ได้มาที่ต่ายแต่ที่แถลงไม่ได้เพราะว่าคนที่แถลงไม่ได้เป็นทนาย ศาลก็ออกหมาย รุ่งขึ้นเราก็ไปชี้แจงกับศาล ศาลก็เพิกถอนก็เท่านั้นเอง ก็ไม่มีอะไร ยังไม่ได้ออกหมายนะ เขาก็พิจารณาไปเพราะเราไม่ได้มาศาล”
ออกปากแม้คดีจะยืดยาวแต่ตนก็ไม่หนักใจเพราะไม่ได้อยู่ในส่วนที่จะต้องไปรับผิดชอบ
“ในส่วนคดีนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรหรอกครับ ก็ต้องว่าไปตามเกมเพราะในชีวิตไม่เคยรู้จักต่าย อรทัยเลย ไม่เคยรู้จักกันอยู่แล้ว ไม่ได้คุยเลย ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ไปเจรจาไปตามรูปแบบไม่น่าหนักใจอะไร ไกล่เกลี่มา 2-3ครั้งแล้ว”
“แนวโน้มจะยุติมั้ยก็ไม่รู้นะ ก็เห็นส่วนใหญ่เขาไปคุยกันแต่พี่ก็ไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวเท่าไหร่หรอก ไม่ได้เกี่ยวกับพี่นะจริงๆแล้ว อย่างศาลก็บอกชัดเจนอยู่แล้วคนที่รับผิดชอบคือใคร เราคือผู้ลงทุนเฉยๆ จริงๆมันมีผู้รับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว เราไม่เกี่ยวกับรูปคดีอยู่แล้ว”
“ก็คนทำหนังสือพิมพ์ก็ต้องรู้กันอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างไรบ้าง พวกเราก็มีพรบ.การพิมพ์อะไรต่างๆ เราอยู่ในกรอบของกฎหมายอยู่แล้วเราทำอะไรฉะนั้นเราไม่ใช่ว่าอยากทำอะไรก็ทำ เราก็ต้องเรียนรู้ถึงข้อกฎหมายเหมือนกัน แต่คงไม่มีอะไรหรอกเพราะเรื่องนี้ก็ยังไม่ไต่สวนมูลฟ้องใดๆทั้งสิ้นเลย เรื่องธรรมดา พี่ก็ในชีวิตตั้งแต่เขียนข่าวผมยังไม่เคยถูกฟ้องเลยดูกันแบบง่ายๆ เราก็รู้อยู่แล้วข้อกฎหมายเป็นอย่างไร”