ภาพยนตร์Apocalypto ของเมล กิ๊บสันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอารยธรรมของชนเผ่ามายาได้กลายเป็นประเด็นร้อนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวพื้นเมืองตามรายงานจาก BBC NEWS
ลูซิโอ แย็กซอน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวกัวเตมาลาซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีบ้านอยู่ในอาณาจักรของชนเผ่ามายาที่ตั้งอยู่ในบริเวณอเมริกากลาง พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าดูไม่สมจริง โดยกล่าวว่า "ผู้กำกับหนังเรื่องนี้( เมล กิ๊บสัน )ต้องการสื่อออกมาว่าชนเผ่ามายาเป็นชนเผ่าที่ดุร้ายป่าเถื่อน"
แต่ทางด้าน ริชาร์ด แฮนเซนผู้ให้คำปรึกษาด้านโบราณคดีแก่หนังเรื่องนี้ กล่าวว่า "เมล กิ๊บสันพยายามจะสร้างบริบททางสังคมขึ้นมาในเรื่องความคิดเกี่ยวกับการเหยียดผิว โดยเมล ผู้มีส่วนร่วมในการเขียนบทเรื่องนี้พยายามที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เจ็บปวดก็เพื่อจะทำให้หนังออกมาถูกต้องตามที่ประวัติศาสตร์ระบุไว้และสมจริงที่สุด"
อย่างไรก็ตามบรรดาโฆษกส่วนตัวของเมลก็ไม่ว่างที่จะออกความเห็นใดๆในเรื่องดังกล่าว
และเมื่อหนังตัวอย่างของเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปที่กัวเตมาลา บรรดาหัวหน้าชนเผ่ามายากล่าวให้ความเห็นว่าในฉากที่ชาวมายันใช้กระดูกแทงคนเพื่อนำมาบูชายัญเป็นการแสดงให้เห็นด้านเดียวของวัฒนธรรมพวกเขา
อิกนาชิโอ โอชาวผู้อำนวยการมูลนิธิ Nahual ซึ่งทำหน้าที่โปรโมทวัฒนธรรมของชาวเผ่ากล่าวว่า "กิ๊บสันนำเสนอเผ่ามายาเป็นชนเผ่าเหยียดผิวที่ก้าวร้าวและชอบโหดร้ายทารุณต่อผู้อื่นมายาวนานก่อนการมาเยือนดินแดนแถบนี้ของชาวยุโรปและด้วยเหตุนี้ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาสมควรที่จะได้รับความช่วยเหลือมากกว่า"
อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับคำชมอย่างมากในอเมริกา ซึ่งบทพูดจะใช้ภาษา Yucatec Maya และกิ๊บสันก็ได้คัดเลือกนักแสดงส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองที่ได้รับการยกย่องจากทางกลุ่มของชาวละตินและอเมริกันพื้นเมือง (อินเดียนแดง)ในสหรัฐอเมริกา
อารยธรรมชนเผ่ามายาล่มสลายเมื่อช่วงศตวรรษที่ 8 โดยจำนวนประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของชาวกัวเตมาลาสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่ามายาดั้งเดิม ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบกับความยากจน ไม่ค่อยได้เข้าถึงการศึกษาและบริการทางสังคมเท่าที่ควร ประชากรกว่า 200,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมายาเสียชีวิตระหว่างสงครามกลางเมืองเมื่อ 36 ปีที่แล้ว โดยสงครามได้สิ้นสุดลงเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา