รักช่วยอะไรไม่ได้ นางเอกสาว "ชมพู่ อารยา" ประกาศชัดเลิกแฟนหนุ่มนักธุรกิจ "หนึ่ง ธนวัฒน์" หลังคบหาดูใจกันมาร่วม 8 ปี เผยยังอยู่ในอาการซึมเศร้า ทำใจไม่ได้ พยายามมุงานหนักไม่ให้ฟุ้งซ่าน แต่ย้ำไม่มีโอกาสกลับไปรีเทิร์นแน่นอน
ใส่ตีนผีวิ่งหนีนักข่าวที่ไปรอสัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ที่มีข่าวว่าเลิกรากับแฟนหนุ่มตี๋ "หนึ่ง ธนวัฒน์ วาณิชานนท์" จนถึงขั้นร่ำไห้ไม่เป็นอันทำงานในงานเปิดตัวรถเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุดโผล่มางานแต่เพื่อนร่วมวงการ "กีตาร์ ศรีพิชญ์" ด้วยชุดสีเขียวสุดเซ็กซี่ สาว "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" เลยโดนกระจอกข่าวรุมทึ้งถามถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นอย่างไรกันแน่
เจ้าตัวเปิดปากพูดความจริงด้วยเสียงสั่น ยอมรับเลิกขาดแฟนหนุ่มเพราะความไม่เข้าใจส่วนตัวก่อนยกมือไหว้ขอโทษสื่อกับพฤติกรรมที่แสดงไม่ค่อยเหมาะสม พร้อมย้ำจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
"มีการเปลี่ยนแปลง จริงๆ ความรักก็ยังอยู่เพียงแต่ว่าจุดหมายอาจจะเปลี่ยน ยังดูแลกันอยู่เพียงแต่ว่าเราอาจจะเคยมีจุดหมายบางอย่างร่วมกันแต่ว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่างมันเป็นไปไม่ได้ เปลี่ยนความรักเป็นอย่างอื่นที่มันยั่งยืนกว่า มีเหตุผลหลายอย่างทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมันคงไม่ใช่ความรักอย่างเดียว คงไม่ใช่เรื่องเลขอาถรรพณ์ความจริงชมว่าคนก็เลิกกันทุกวันไม่เห็นใครมาเก็บเป็นสถิติไว้ว่ากี่ปี เราก็เปลี่ยนสถานภาพ"
"ปีนี้ชมก็อายุ 25 ปี คบกันเป็นปีก็เป็นอัตราส่วน 1 ใน 3 ของชีวิต มันก็แปลกๆ หมือนกันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เป็นเหตุที่รู้กัน 2 คน เพราะเวลาที่คบก็คบกัน 2 คน ผ่านอะไรมาเยอะ ไม่มีใครรู้ดีกว่าชมและพี่หนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้ระหองระแหงคุยกันด้วยความเข้าใจ ชมว่าความรักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้มันยั่งยืนกว่า ทุกคนคงเสียใจ ชมเสียใจ เขาเองก็เสียใจคนรอบข้างที่ดูเราอยู่ก็เสียใจไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ว่าเราก็ยึดทุกอย่างเอาไว้ไม่ได้ ใครจะเอ่ยปากบอกเลิกก่อนชมว่ามันไม่สำคัญหรอก เอาเป็นว่ามันเป็นไปไม่ได้"
ขอทำงานหนักเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน ยืนยันยังไม่พร้อมเปิดใจรับรักใหม่ ก่อนขอโทษเรื่องใส่ตีนผีวิ่งหนีนักข่าว
"ก็ต้องกราบขอโทษพี่ๆ อีกครั้งหนึ่ง พอดีมันสุดวิสัย คือชมก็มีงานต่อด้วย โดนบีบด้วยเรื่องของเวลาและอะไรหลายๆ อย่าง ชมรู้ว่าทุกคนอยากรู้เรื่องอะไร คือรู้ว่ามันต้องยาวแน่ๆ แต่ถ้ามาขอโทษตอนนี้ก็คงช้าไปแล้วพ้วก พี่ๆ คงโกรธไปแล้ว แต่ก็อยากขอโทษ (ยกมือไหว้)จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก แล้วก็ชมอาจจะงงๆ นิดนึง"
"อีกอย่างชมยังไม่พร้อมเปิดใจใหม่ ชมทำงานได้ แล้วชมก็มีเพื่อนก็ดี ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันแต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นช่วงที่เราต่างคนต่างเซ้นซิทีฟ คือถ้าจะให้คุยเหมือนเดิมไม่ให้รู้สึกแบบเดิมมันคงยาก อาจจะต้องห่างกันแป๊บหนึ่ง คนรอบข้างก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเรา"
ส่วนเรื่องแข่งรถซึ่งเป็นกีฬาโปรดปรานที่ตนชอบไปเล่นบ่อยๆ นั้น ก็ยังทำอยู่เป็นปกติแม้อดีตหวานใจจะไม่ไปเชียร์ก็ตาม
"อย่างที่ชมบอก มันมีหลายอย่างที่มันจะเป็นองค์ประกอบไม่ใช่พอจบแล้วเราจะออกมาพูด ขอสรุปว่ามันเป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าเราอยากจะให้มันเป็นได้ที่สุด แต่ว่าเราก็พยายามแล้วและคงไม่ใช่แค่เรื่องปรับตัวอย่างเดียว รายละเอียดคนที่คบกันมา 8 ปีจะรู้ แต่ชมก็ยังเหลืออะไรดีๆ เยอะไม่เสียดายเวลา"
"ความจริงเราเริ่มคุยเรื่องนี้จริงจังก็ประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่วนแข่งรถก็ยังแข่งอยู่แต่พี่เขาจะตามไปเชียร์หรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ ส่วนเรื่องงานก็ไม่มีผลกระทบ ปีนี้ถือว่าเรื่องงานก็โอเคได้โอกาสดีๆ เยอะ แต่เรื่องนี้เพื่อนสนิทก็บอกว่าเป็นเรื่องเศร้าที่สุด ตอนนี้ก็ทำงานเก็บเงินซื้อบ้าน"