xs
xsm
sm
md
lg

Cars: คาราเต้ คิด ภาค 4 ล้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Cars ผลงานแอนิเมชันเรื่องที่ 7 ของสตูดิโอ Pixar อันโด่งดังที่ฝากผลงานมาแล้วมากมาย ทั้ง Toy Story (1995) A Bug's Life (1998) Toy Story 2 (1999) Monsters, Inc. (2001) Finding Nemo (2003) และ The Incredibles (2004) โดยหลังจากสตีฟ จ็อบส์ เจ้าพ่อแม็คอินทอชซื้อกิจการดังกล่าวมาจากผู้ก่อตั้งอย่างจอร์จ ลูคัส เมื่อปี 1986 ผลงานเรื่องนี้ก็ถือเป็นการฉลอง ปีที่ 20 ของ Pixar ไปในตัว

โดยผู้ที่รับหน้าที่กำกับของเรื่องนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากจอห์น แลสเซ็ตเตอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งจาก Toy Story ทั้ง 2 ภาค และ A Bug's Life ซึ่งหลังจากดูทั้งซี้เก่าอย่างแบรด เบิร์ดจาก The Incredibles และรุ่นน้องอย่างแอนดรู สแตนตันจาก Finding Nemo โชว์ฟอร์มกันไปเบาะๆ แล้ว ถึงเวลาที่เขาจะลงมาจากเก้าอี้ผู้บริหารด้านงานสร้างสรรค์สูงสุดของสตูดิโอมาปล่อยของกับเขาเสียที

ปัจจุบัน จอห์น แลสเซ็ตเตอร์ถือว่าใหญ่มากๆ สำหรับ Disney-Pixar เพราะรับหน้าที่ดูแลงานด้านการผลิตผลงานทั้งหมดของสตูดิโอทั้งสอง โดยเป็นผู้เปิดไฟเขียวอนุมัติโปรเจ็กท์ดังกล่าวของสตูดิโอทั้งหมด แน่ขนาดที่เจ้านายตัวจริงอย่างสตีฟ จ็อบส์ ที่ขึ้นชื่อด้านการก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายบริหารในบริษัทลูกเกือบจะทั้งหมดของเขา แต่ได้มอบหมายการตัดสินใจในการทำงานของ Pixar ทั้งหมดให้เป็นหน้าที่ของแลสเซ็ตเตอร์แต่เพียงผู้เดียว

ซึ่งผลงานเรื่องล่าสุดของเขาผู้นี้ควรจะมีให้บ้านเราได้ชมไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.แล้ว ถ้าไม่ติดปัญหาด้านการตลาดที่ว่าหนังการ์ตูนจะต้องฉายในช่วงปิดเทรมเท่านั้น อันนี้ก็ต้องเห็นใจทางค่ายหนังเขาเหมือนกัน แม้ว่าเวอร์ชันแผ่นผีจะมีวางขายกันทั่วเมืองไปทั้งหลายเดือนแล้ว และดีวีดีโซน 1 ก็จอจะวางตลาดในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วเช่นกัน
และก็เป็นธรรมเนียมของ Pixar ไปซะแล้วสำหรับการ์ตูนขนาดสั้นที่จะมีฉายเรียกน้ำย่อยแฟนหนังก่อนชมภาพยนตร์ขนาดยาว ซึ่งตอนล่าสุดที่เอามาฉายก่อน Cars นี้ถ้าใครได้ชมแล้วก็คงจะได้เห็นว่ามันเยี่ยมยอดขนาดไหน

One Man Band คือชื่อของผลงานเรื่องดังกล่าว ที่เกี่ยวกับการต่อสู้ของปาหี่ 2 คนที่ใช้ความสามารถในเชิงดนตรีเพื่อดึงดูดใจสาวน้อยที่เป็นผู้ฟังแค่คนเดียว ซึ่งการงัดเอากลเม็ดต่างๆ มาซื้อใจผู้ฟังสามารถทั้งเรียกเสียงฮาและความสนุกสนานไปได้พร้อมๆ แม้อาจจะไม่แยบยลเท่า Geri's Game หรือ For the Birds แต่ก็เป็นผลงานที่อลังการที่สุดเรื่องหนึ่งสำหรับหนังสั้นของ Pixar เลยก็ว่าได้ เสียดายที่พลาดรางวัลการ์ตูนขนาดสั้นยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ไปเมื่อช่วงต้นปี แต่แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วของแฟนหนังที่เข้าไปชมในโรงแล้ว

ในส่วนของตัวหนังเรื่องยาวนั้น แทบจะไม่ต้องถามถึงเรื่องคุณภาพงานของ Pixar กันแล้ว เพราะจากผลงานทุกเรื่องของสตูดิโอต่างได้รับเสียงแซ่ซ้องจากแฟนหนังมาแทบทั้งสิ้น คำถามเดียวที่น่าจะถามก็คือ มันเทียบกับเรื่องที่แล้วมาได้มากน้อยแค่ไหน
ในเรื่องของเทคนิกเรื่องนี้ไม่มีอะไรให้ติเลยจริงๆ ความสวยงามของภาพทำได้ตามมาตรฐานของ Pixar นั่นคือดีกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภาพการแข่งขันที่เร้าใจ ภาพประกอบฉากที่สวยงาม เรียกได้ว่าสาวกของ Pixar ไม่มีอะไรให้ผิดหวังในจุดนี้เลย (สำหรับผู้ชมที่อยู่ในโรง ความยอดเยี่ยมของการบันทึกเสียงทำให้ทุกครั้งที่รถแข่งผ่านหน้าจอทำให้เก้าอี้ของคุณสะเทือนได้เลยทีเดียว)

แต่สิ่งที่อาจจะดร็อปลงมาหน่อยก็คือการดำเนินเนื้อเรื่องที่ดูจะตามสูตรไปหน่อยในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนของเนื้อเรื่องที่โดดเด่นของผลงานที่ผ่านมานี้เองที่ทำให้ Pixar ยืนอยู่แถวหน้าในวงการได้ แต่ความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่องอย่าง ไลท์นิง แม็คควีนและด็อก ฮัดสัน ดูแล้วเป็นอะไรที่พอจะเดาได้ และยิ่งดูไปเรื่อยๆยิ่งทำให้นึกถึง Karate Kid หนังที่เกี่ยวกับครูคาราเต้ที่สอนเคล็ดลับวิชาให้กับเด็กหนุ่มอย่างช่วยไม่ได้

แม้จะเน้นตามสูตร แต่ก็มีการดำเนินเรื่องที่มีจังหวะจะโคนที่ลงตัว จนนำไปถึงฉากจบที่ทรงพลังไม่แพ้หนังผู้ใหญ่ดีๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องทำได้ขนลุกพอๆ กับฉากรถถังของ Life is Beautiful เลยทีเดียว

และที่ไม่เปลี่ยนเลยก็คือมุกตลกทั้งล้อเลียนทั้งเสียดสีที่เรียกรอยยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง (ขำสุดก็ตรงที่ขนาดแมลงก็ยังมีล้อ)

สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์สู้เรื่องอื่นๆ ของ Pixar ไม่ได้ ก็คือเรื่องราวที่มีแต่รถกับรถ ซึ่งโครงสร้างที่ดูแข็งทื่อนี้เองที่ไม่อาจจะไปเทียบกับฉากอันตระการตาในโลกของแมลงใน A Bug's Life หรือความสวยงานสุดบรรเจิดในโลกใต้บาดาลของ Finding Nemo ได้เลย
ซึ่งสิ่งที่ลดความน่าสนใจของ Cars ไปก็คือการยึดติดถึงความเป็นอเมริกันของรถในเรื่องมากเกินไป จนทำให้รถสปอร์ตสวยๆ จากยุโรปหมดสิทธิ์มาโชว์ลวดลายในผลงานชิ้นนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง Lamborghini , Lotus , Jaguar , ผลงานอันเลอเลิศของ ItalDesign หรือแม้แต่ Benz (ยังดีที่ Porsche 911 Carrera ได้รับเกียรติให้เป็นนางเอกของเรื่อง และมี Ferrari โหล่มาให้ได้ลุ้นเล็กๆ)

แต่กว่าที่จุดเล็กๆน้อยๆ นี้จะมารบกวนใจคนรักรถสวย ผลงานเรื่องนี้ก็ได้ใจแฟนๆ คุณหนู โดยเฉพาะเด็กผู้ชายกันไปค่อนเมืองแล้วแน่ๆ เพราะถึงแม้อาจจะไม่ใช่งานที่โดดเด้งออกมาจากผลงานอันยอดเยี่ยมทั้งหลายของ Pixar ด้วยกัน แต่ก็เป็นผลงานที่ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของสตูดิโอแห่งนี้ต่อไปได้เป็นอย่างดี

และคงจะทราบกันบ้างแล้วสำหรับผลงานเรื่องต่อไปในปี 2007 ของ Pixar อันได้แก่การ์ตูนชื่อเรียกยากอย่าง Ratatouille อันเป็นผลงานของ แบรด เบิร์ด เจ้าของเดียวกับ The Incredibles ที่โด่งดังเมื่อ 2 ปีก่อน ก่อนที่โปรแกรมถัดไปในปี 2008 จะเป็นการกลับมาของทอม แฮงค์สและทิม อัลเลน ในบทวู๊ดดีและบัซ ไลท์เยียร์ ใน Toy Story 3 ที่จอห์น แลสเซ็ตเตอร์จะกลับมาจับงานที่สร้างให้เขาเป็นตำนานนี้อีกครั้งหนึ่ง

เลยทำให้ย้อนไปนึกถึงสมัยที่เคยดู Toy Story ครั้งแรก (ที่ดูกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ) ยังรู้สึกเลยว่าถ้าเอาไปฉายสมัยที่ตัวเองยังชอบเล่นของเล่นจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับโลกของของเล่นที่มีชีวิตนี้แค่ไหน เลยอดดีใจกับเด็กๆ ยุคนี้ไม่ได้ ที่มีผลงานอย่าง Cars ที่เกี่ยวกับรถที่เด็กกว่า 90 % ชื่นชอบมาสร้างเป็นหนังให้ได้ดูกับรับปิดเทรม ที่นอกจากจะดูสนุกอย่างมากแล้ว ยังแฝงคุณค่าทางจริยธรรม ที่วงการศึกษารวมทั้งสื่อต่างๆ ในบ้านเรายังหาวิธีนำเสนอให้เข้าถึงการรับรู้ของเด็กได้อย่างจับใจแบบนี้ได้ยากเต็มที
กำลังโหลดความคิดเห็น