ญาติ, เพื่อนๆ และเหล่าแฟนๆ ที่รวมทั้งดาราฮอลลิวูด และนายกฯของออสเตรเลีย ต่างเข้ามาร่วมเป็นเกียรติในงานไว้อาลัยครั้งสุดท้ายแก่ "คร็อกคอไดล์ ฮันเตอร์" สตีฟ เออร์วิน ที่คร็อกโคเซียม อารีน่าในประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานจากเอพี
โดยพิธีดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ของออสเตรเลีย 3 ช่องและสถานีวิทยุอย่างน้อยหนึ่งช่อง โดยธงชาติของออสเตรเลียรอบๆ บริเวณบ้านเกิดของเออร์วินในเขตควีนสแลนด์และที่ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ต่างลดธงลงครึ่งเสา และมีการฉายพิธีการดังกล่าวทางจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์ให้สาธารณชนได้ร่วมชมกันด้วย
โดยในงานดังกล่าว จอห์น โฮเวิร์ด นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียและผู้คนกว่า 5 พันคนได้เข้ามาร่วมงานที่จัดขึ้นใน คร็อกโคเซียม อารีน่า ซึ่งเป็นสเตเดียมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในสวนสัตว์ป่าของเออร์วิน ที่เขาใช้จัดแสดงการให้อาหารแก่บรรดาจรเข้จนชินตา โดยในพิธีดังกล่าวโฮเวิร์ดได้กล่าวไว้อาลัยต่อเออร์วินว่า
"สตีฟสามารถเข้าถึงจิตใจของชาวออสเตรเลียและและผู้คนทั่วโลกนับล้านได้อย่างวิเศษสุด"
สตีฟ เออร์วิน ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัย 44 เมื่อวันที่ 4 ก.ย. หลังจากที่ถูกหางปลากระเบนแทงเข้าที่หัวใจ ในระหว่างที่เขากำลังถ่ายทำรายการโทรทัศน์แถบบริเวณเกรท บาร์ริเออร์ รีฟ โดยสมาชิกในครอบตรัวได้จัดพิธีศพแบบส่วนตัวที่ Australia Zoo อันเป็นสวนสัตว์ส่วนตัวของครอบครัวไปเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา
ในส่วนงานที่จัดขึ้นที่คร็อกโคเซียมในครั้งนี้ ยังถือเป็นการปรากฏตัวเป็นครั้งแรกหลังจากการเสียชีวิตของเออร์วินของ เทอร์รี เออร์วิน ภรรยาชาวอเมริกันของเขา และบินดีกับบ็อบทายาททั้งสอง โดยที่นั่งส่วนตัวของเออร์วินในสถานที่ดังกล่าวได้ถูกเว้นเอาไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา โดยผู้คนในงานทั้งหมดต่างแต่งชุดกากีเมื่อเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้ายแก่เขาอย่างพร้อมเพรียง
"ได้โปรดอย่าเศร้าโศกต่อสตีฟ เพราะเขาได้จากไปอย่างสงบแล้ว แต่จงโศกเศร้าให้กับบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ที่มันได้สูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกมันไป รวมทั้งตัวผมด้วย" บ็อบ เออร์วิน คุณพ่อของพิธีกรสุดดังกล่าวต่อสาธารณชน ขณะที่ลูกสาวอย่างบินดีก็กล่าวว่าคุณพ่อคือวีรบุรุษของเธอ
"คุณพ่อจะอยู่กับหนูทุกครั้งที่หนูต้องการ คุณพ่อจะเฝ้ารับฟังและทำให้หนูได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง แต่เหนือสิ่งอื่นใด คุณพ่อทำมันอย่างสนุกสนาน"
นอกจากจะมีพิธีการที่เคร่งขรึมแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายด้วย เมื่อมีการฉายฉากที่ตลกและขบขันจากรายการของเออร์วินเพื่อให้แขกในงานได้ชมกัน ซึ่งมีทั้งฉากเออร์วินลื่นตกจากเรือ, ถูกกิ้งก่ากัด หรือแม้แต่ลืมบท ที่เรียกเสียงฮาและเสียงชื่นชมจากผู้คนได้เหมือนเดิม
ในช่วงสุดท้ายของพิธีการ ได้มีการนำรถประจำตัวของเออร์วินที่บรรจุทั้งอุปกรณ์แคมปิงและเซิร์ฟบอร์ดที่เขาชื่นชอบ แล่นออกจากสเตเดียมดังกล่าวโดยมีพนักงานของ Australia Zoo ตั้งเป็นกองเกียรติยศ และเมื่อรถดังกล่าวเคลื่อนตัวออกจากสถานที่ดังกล่าวแล้ว เหล่าพนักงานทั้งหลายก็พร้อมใจกันตะโกนคำว่า "คริกกีย์" อันเป็นคำขวัญประจำตัวของเออร์วิน โดยโยนดอกไม้สีเหลืองโปรยไปตามทาง
ในงานดังกล่าวยังมีดาราฮอลลิวูดมาร่วมไว้อาลัยกับเออร์วินด้วย โดย คาเมรอน ดิแอซ ได้กล่าวถึงเขาในการถ่ายทอดทางจอวิดีโอว่า "ชาวอเมริกาต่างชื่นชอบเขา เด็กๆ อยากจะเป็นอย่างเขากันทั้งนั้น"
ส่วนดาราหนุ่มใหญ่อย่าง เควิน คอสเนอร์ ก็กล่าวว่า "เออร์วินไม่เคยแสดงความหวาดกลัวต่อสิ่งใด...เขาได้แสดงความเป็นตัวตนของเขาให้พวกเราเห็น แสดงให้เห็นถึงความห้าวหาญอันเป็นประจักษ์แก่สังคมของเราทุกวันนี้"
ขณะที่นักแสดงเพื่อนร่วมชาติอย่าง รัสเซล โครว์ ได้ให้คำระลึกผ่านจอวิดีโอจากนิวยอร์กว่า "มันเป็นสิ่งที่ปัจจุบันทันด่วนสำหรับเราทุกคน ที่เราได้เสียเพื่อนของเรา, แชมเปียนของเรา"
ท่ามกลางการสดุดีทั้งหลาย ฌอง-มิเชล คูสโต ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลซึ่งไม่ได้ไปร่วมงานดังกล่าว เผยว่าแม้เขาจะรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของเออร์วิน แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยเรื่องที่ทางการออสเตรเลียจะเดินหน้าในการผลิตรายการเกี่ยวกับธรรมชาติเพื่ออุทิศให้กับคร็อกคอไดล์ ฮันเตอร์ผู้จากไป
โดยคูสโตยืนยันว่าเขาเคารพความพยายามในการเผยแพร่ความรู้เรื่องสภาวะแวดล้อมของเออร์วิน แต่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของเออร์วินที่ชอบ "รบกวนธรรมชาติ, กระโดดไปมาบนตัวสัตว์, หยิบจับพวกมัน, อุ้มพวกมัน, และนำเสนอพวกมันในวิธีที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่เขาทำอยู่"
"ใช่ มันขายได้ และทำให้หลายคนหันมาสนใจกับธรรมชาติมากขึ้น แต่ผมคิดว่ามันกำลังจะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดต่อการเรียนรู้เรื่องธรรมชาติครั้งใหญ่ คุณแตะต้องธรรมชาติไม่ได้ คุณได้แค่เฝ้ามองดูมันเท่านั้น" คูสโตกล่าวระหว่างที่อยู่ในลอส แองเจลิส