“เฉินหลง” บุกไทยโปรโมท “Rob-B-Hood” บ่นเข็ดร่วมงานเด็ก

นักแสดงชื่อดังจากฮ่องกง “เฉินหลง” ออกปากเหนื่อยสุดๆ กับการแสดงร่วมกับเด็กในภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Rob-B-Hood วิ่งกระเตงฟัด” เจ้าตัวเปรยอาจจะเป็นเรื่องแรกและสุดท้าย ออกปากประทับใจนักแสดงวัยรุ่น "กู่เทียนเล่อ" ตรงต่อเวลาและเป็นนักแสดงที่ทุ่มเท พร้อมเสียดายกรณีชวน “จา พนม” มาเล่นหนังที่ฮอลลีวูดแต่พระเอกไทยคิวกลับไม่ว่าง

เดินทางมาที่ประเทศไทยอีกครั้งสำหรับนักแสดงแอ็กชั่นชื่อดัง “เฉินหลง” หรือ “แจ๊กกี้ ชาน” เพื่อโปรโมทหนังเรื่องใหม่ “Rob-B-Hood วิ่งกระเตงฟัด” ซึ่งเจ้าตัวผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลังและนำแสดง ออกปากอยากจะร่วมงานกับเด็กมานานแล้วพร้อมยอมรับว่าเป็นอะไรที่ยากมากๆ ถึงขั้นอาจจะเป็นการร่วมงานกันครั้งสุดท้ายเลยทีเดียว

“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากร่วมงานกับเด็ก คิดและตัดสินใจมาตั้งนานแล้ว แต่ก็คงจะเป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายที่จะร่วมงานกับเด็ก"

"เขาเปรียบเสมือนฮ่องเต้ตัวน้อยๆ ร้อนก็ต้องพัดให้ หนาวก็ต้องห่มผ้าต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ร่วมงานกับสัตว์ยังไม่เครียดเท่านี้เลย เข้าใจว่าโซนเอเชียมีหนังแนวนี้เยอะ แต่ไม่เป็นไรอย่างที่บอก หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็กชั่น แต่แฝงไปด้วยข้อคิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน ผลของการติดการพนัน ผลของการพยายามหาเงินเพื่อที่จะทำให้ตัวเองตามทันเทคโนโลยีของโลก หนังเรื่องนี้ในตอนแรกดูแล้วจะขำมีความสุข แต่ตอนท้ายเรื่องจะร้องไห้ เพราะพูดถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว”

กับกู่เทียนเล่อนั้น นักบู๊ชื่อดังเผยอย่างชื่นชมว่าเป็นคนตรงต่อเวลาและทุ่มเทกับงานมาก ส่วนแรงจูงใจในการทำ Rob-B-Hood วิ่งกระเตงฟัด ครั้งนี้เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
“ส่วนกู่เทียนเล่อเป็นคนตรงต่อเวลา ดาราวัยรุ่นคนอื่นชอบถามว่าเลิกงานกี่โมง แต่สำหรับกู่เทียนเล่อเขาไม่เคยถาม หลายๆ แอ็กชั่นบอกให้เขาทำเขาก็ทำ ผมประทับใจ”

“Rob-B-Hood จริงๆ ไม่มีแรงจูงใจอะไรเลย แค่หลายๆ ปีที่ผ่านมา ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างหลังจากที่เล่นเป็นตำรวจมาตลอด สำหรับบทบาทนี้เล่นเป็นโจร เป็นคนไม่ตั้งใจเรียน ติดการพนัน แล้วก็ลักพาตัวเด็ก จริงๆ ไม่มีใครให้เล่นบทนี้เลย แต่ผมอยากเล่น หลังจากที่เปิดบริษัทของตัวเอง JCE movie, Ltd หนังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สามแล้ว คืออยากรู้ว่าตัวผมเองทำอะไรได้แค่ไหน"

"อีกอย่างชีวิตนักแสดงคิวบู๊ค่อนข้างสั้นเป็นนักแสดงทั่วๆ ไปชีวิตค่อนข้างจะยาวกว่า ถ้าในโซนเอเชียก็ยังโอเคอยู่แฟนคลับก็จะเรียกแจ๊กกี้ ชาน แต่ในแถบยุโรป นอกจากเรียกชื่อแล้วก็จะมีท่าทางประกอบด้วย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นสัญลักษณ์แบบนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะสื่อ หวังว่าในอนาคตผมจะเป็นนักแสดงที่เล่นคิวบู๊ได้ ไม่ใช่นักแสดงคิวบู๊ที่มาเล่นแอ็คชั่น"

"จากหนัง 3 เรื่องที่ผ่านมา ผมพยายามให้บทบาทแตกต่างกันออกไป ให้เห็นความเปลี่ยนแปลง ส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าหนังแนวแอ็กชั่นทำเงิน คนที่ลงทุนหวังตรงนี้ หนังบริษัทที่บริษัทผมทำมา Who Am I, New Police Story : วิ่งสู้ฟัด เหินสู้ฟัด จนมาถึงเรื่องนี้ไม่มีใครลงทุนให้เลย พวกเขาอยากจะทำแต่หนังแอ็กชั่น”

อายุที่มากขึ้นอาจจะมีปัญหากับคิวบู๊เป็นเหตุให้ดาราแอ็กชั่นชื่อดังเปรยๆ อาจจะหันไปทำเบื้องหลังในไม่ช้านี้
“ผมก็ห่วงสุขภาพนะแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันต้องเล่น แต่ถ้าคนที่ติดตามงานผมมาจริงๆ จะเห็นว่า ช่วงที่ผ่านมาจะพยายามเปลี่ยนแปลงตลอดไม่แน่ถ้าถึงจุดอิ่มตัวก็อยากจะทำเบื้องหลัง เป็นโปรดิวเซอร์”

เคยพูดว่าทำหนังฮอลลีวูดแล้วไม่มีความสุข แสดงว่าหลังจากนี้จะหันมาทำหนังในโซนเอเชียมากขึ้นหรือเปล่า?
“จริงๆ แล้วฮอลลีวู้ดมีมุมมองของเขา ถ้าเขาอยากทำก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตลาดของฮอลลีวูดไม่เหมือนกับโซนเอเชีย ผมทำงานมาเยอะบางทีก็รู้สึกเหนื่อย ในโซนเอเชียก็ยังมีคนชอบผมอยู่เยอะ มีคนเป็นกำลังใจให้ แฟนคลับจากทั่วโลกคอยสนับสนุนอยู่ตลอด ส่งเงินส่งของขวัญมาให้ทุกวัน ผมก็เอาเงินนั้นไปสร้างโรงเรียน ปีที่แล้วสร้างไป 17 โรงเรียน”

ได้เห็นผลงานของพระเอกคิวบู๊ชื่อดังของไทย “จา พนม ยีรัมย์” หรือ “โทนี่ จา” ในหนัง “ต้มยำกุ้ง” เจ้าตัวถึงกับเอ่ยชวนไปเล่นหนังฮอลลีวูดด้วยแต่ก็โดนปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าคิวไม่ว่าง ทำเอาเฉินหลงเอ่ยปากเสียดายอยู่เหมือนกัน
"ประทับใจในตัวโทนี่ จามากในทุกๆ อย่าง เพราะนอกจากเขาจะแสดงคิวบู๊ได้ เขายังจะเป็นสตันท์แมนด้วย ผมได้ดูหนังเรื่องต้มยำกุ้ง ชอบก็เลยแนะนำให้กับคนในวงการฮอลลีวู้ด เขาก็อยากได้โทนี่ จามาร่วมงานด้วย แต่โทนี่จาติดคิวถ่ายที่เมืองไทย ไม่สามารถไปได้”