ว่ากันว่า หากมีการจับคู่กันของหนุ่มนักการเมืองกับสาวที่เป็นดารา นักร้อง นักแสดง นางงามที่มีชื่อเสียงแล้ว ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า หนึ่งในเหตุผลของการคบหรือจับคู่กันที่ว่ามักจะมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอในรูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นไปในลักษณะของการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ฝ่ายหนึ่งมีเงินอีกฝ่ายมีชื่อเสียงจับคู่กันเพื่อก้าวไปสู่การมีอำนาจ, ฝ่ายหนึ่งมีเงินมีอำนาจก็อยากจะมีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคม อยากมีของแบรนด์เนมเป็นที่นิยมเอาไว้อวด ไว้คุย ในขณะที่ฝ่ายที่มีชื่อเสียงก็อยากจะได้ความมีอำนาจมีเงินมาเป็นหลักประกันความมั่นคงของความสะดวกสบายให้กับชีวิตตนเอง ฯ
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด ล้วนเป็นที่น่าสังเกตว่าการจับคู่กันของคนสองสถานะนี้มักจะเข้าไปพัวพันกับข่าวที่ค่อนข้างจะออกไปในทางด้านลบให้เห็นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสาวงามที่มาจากเวทีการประกวดซึ่งในอดีตมักจะต้องมีข่าวเข้าไปพัวพันกับผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย ในรูปแบบของเมียเก็บ เมียเช่าบ้าง ฯ
กรณี ของ "ตู่ นันทิดา" ที่ไม่เคยเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์มานานก็มีอันต้องให้มีคนนึกถึงเธอขึ้นมาจนได้ เมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมา (4 ก.ย.) กับข่าวที่ศาลได้ตัดสินสั่งจำคุกนายกเล็กเมืองปากน้ำ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" สามีของเธอเป็นเวลานานถึง 4 ปี โดยไม่รอลงอาญาด้วยข้อหามีส่วนเรื่องในการโกงการเลือกตั้งส.ท. ปากน้ำ
งานนี้แม้จะมีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไปเพื่อต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่เชื่อแน่ว่าในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่คงจะมอบความไว้วางใจให้กับเขาไม่ได้อย่างเต็มที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับหนุ่มเอ๋เอง ก่อนที่จะมาลงเอยกับนักร้องน้ำเสียงคุณภาพคนนี้ ชื่อเสียงในวงการบันเทิงของเขาต้องบอกว่าไม่เบาด้วยการเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับนางแบบดังถึง 2 คน อย่าง "ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม" ที่ควงคู่กันไปดูการแข่งรถในสนามแข่งและสาวหุ่นสูงยาวเข่าดีอย่าง "เก๋ ชลดา เมฆราตรี" นั่นเอง
หรือจะย้อนไปหลายสิบปี ในส่วนพิธีกรหญิงชื่อดังค้างฟ้าสาวและสวยไม่ยอมสร่างเองก็มีเสียงเล่าลือกันอย่างหนาหูว่า เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอสามารถเปลี่ยนนามสกุลที่ขาใหญ่วงการหนังตั้งไปใช้นามสกุลของสามีที่เป็นทหารได้ก็เพราะเงินเก็บเฉียดยี่สิบล้านบาทของเธอที่ยกให้กับพ่อสามีในการนำไปตั้งพรรคการเมืองพรรคหนึ่งนั่นเอง
คู่ดารานักการเมืองอย่าง "นุสบา ปุณณกันต์" กับสามี "พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์" และ "ปู มัณฑนา โห่ศิริ" ที่ตกลงใช้ชีวิตคู่กับ "หาญ หิมะทองคำ" แม้จะไม่มีข่าวเสียหายในระดับรุนแรง ทว่าก็ยังมีเสียงเล่าเสียงลือถึงความไม่ค่อยจะพออกพอใจของคนที่เป็นพ่อ-แม่สามีต่อลูกสะใภ้ออกมาให้ได้ยินอยู่บ้าง ขณะที่ดาราหญิงทั้งคู่ต่างก็ยืนยันว่าเสียงที่ว่าเป็นเพียงแค่เสียงติฉินนินทาเท่านั้นจริงๆ
เมื่อพูดถึงตระกูลปุณณกันต์แล้ว จะไม่พูดถึง "กบ สุวนันท์" กับ "บรู๊ค ดนุพร" คงจะไม่ได้ งานนี้นอกจากสาวกบจะถูกเพ่งเล็งในข้อหาเดียวกับรุ่นพี่นุสบาในเรื่องความสัมพันธ์กับครอบครัวของฝ่ายชายแล้ว เรื่องที่ว่าคุณค่าของเธออยู่ที่การเป็นนางเอกดังที่จะมีประโยชน์อย่างมากๆ ในเวลาที่แฟนหนุ่มต้องออกมาหาเสียงเพียงเท่านี้เอง
ที่หนักจนถึงขนาดเล่นกันถึงชีวิตก็คือนักร้องลูกทุ่ง "ปิ๋ม ซีโฟร์" หรือ "ตรีชฎา ตรีอุทัย" อดีตภรรยาของนายเสาวภาคย์ นิสัยชน อายุ 44 ปี อดีตประธานสาขาพรรคประชาธิปัติย์ซึ่งถูกทางฝ่ายหญิงฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และศาลก็ตัดสินจำคุก 10 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนนักร้องชื่อดังที่มีทายาทของนักการเมืองคนนี้อยู่ 1 คน ก็แยกขาดจากกันอย่างชัดเจนและเข็ดขยาดกับรักครั้งนี้เป็นที่สุด
คล้ายๆ กับ "ปิ๋ม ซีโฟร์" ก็คือดาราสาว "เอ๋ อัจฉรา ทองเทพ" ที่เคยอยู่กินกับนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี "ชาดา ไทยเศรษฐ" ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาบงการฆ่าเลขา ส.ส. พรรคไทยรักไทย ปัจจุบันทั้งคู่ได้หย่าร้างกันแล้วเรียบร้อย โดยดาราสาวอดีตนางเอกจักรๆ วงศ์ๆ เรื่อง "ปลาบู่ทอง" ที่ตอนนี้อยู่กับลูกสาวสองคนค่อนข้างจะประสบปัญหาชีวิตและปัญหาทางสุขภาพเพราะป่วยเป็นโรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus - ภูมิต้านทานในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงไป) เจ้าตัวบอกว่าหากมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามาเธอก็อยากหวนกลับมาในวงการบันเทิงอีกครั้ง
ด้านนักการเมืองชื่อดัง "เอ๋ พรเทพ เตชะไพบูลย์" กับ "กบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์" อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ แม้โดยรวมทั่วไปจะดูดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีเสียงซุบซิบนินทาออกมาให้ได้ยินเหมือนกันว่า ในบางครั้งผู้เป็นสามีเองก็มีอาการตกใจไปกับการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อเครื่องประดับจำพวกเครื่องเพชรของซินเดอเรลลาคนนี้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามฝ่ายหญิงก็แจงต่อข่าวดังกล่าวว่าเป็นเสียงนินทาของพวกอิจฉาตาร้อนเท่านั้น
มาที่รุ่นลูกๆ หลานๆ กันบ้าง
ย้อนไปสัก 5 - 6 ปีที่ผ่านมาโด่งดังที่สุดคงจะต้องยกให้กับ 3 พี่น้อง "อยู่บำรุง"
แม้ว่าบรรดาเพื่อนๆ และคนสนิทของเขาจะยืนยันว่าทั้งสามมีนิสัยที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ทว่าจากข่าวที่ออกมาบ่อยๆ ในเรื่องของการเป็นขาใหญ่นักท่องราตรีประมาณว่าเข้าที่ไหนมีเรื่องที่นั่นทำให้ภาพพจน์ของทั้งสามค่อนข้างจะดูไม่ดีในสายตาของคนส่วนใหญ่ และยิ่งหนึ่งในสามพี่น้องอย่าง "โต้ง อาจหาญ อยู่บำรุง" ต้องมาเป็นข่าวกับดาราหญิง "จุฬาลักษณ์" ที่ระยะนั้นกำลังถูกวิจารณ์ในเรื่องของการแต่งตัวและบทบาทการแสดงในด้านลบอยู่ระดับหนึ่ง นั่นเองที่ทำให้ภาพของทั้งสองยิ่งติดลบมากขึ้นยิ่งไปอีก
กรณีของดาราสาว "ปูเป้ รามาวดี" รายนี้แม้ตัวของสามีอย่างหนุ่ม "วรวีย์ นาคฉัตรีย์" ที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 3 ปีจะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเมืองให้กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่โดยตรง ทว่าภาพของพ่อสามี "ปริญญา นาคฉัตรีย์" อดีต กกต.รุ่นหนาที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานมากที่สุดต้องเดินคอตกเข้าคุกเข้าตารางท่ามกลางความสะใจของคนจำนวนไม่น้อยก็ทำให้หลายคนนึกถึงเธอขึ้นมาทันที
อีก 2 - 3 คู่ที่ต้องดูกันต่อไปว่าจะลงเอยอย่างไร เริ่มจากคู่ของสาว "อุ้ม ลักขณา วัธนวงศ์สิริ" ที่หันมาคบกับ "เพชร ทศพร บุญหลง" หลานชายของนักการเมืองชื่อดัง "เดช บุญหลง" หลังสลัดรักมาจากหนุ่มเอ็กซ์ "เอ็กซ์ ปิยะ วิมุกตายน" ได้ไม่นาน ถัดมาเป็นหนึ่งใน 4 นักร้องสาวกลุ่ม "เกิร์ลลีเบอร์รี" กับลูกชาย "ป๋าเหนาะ" ที่ลงทุนควงกันมาเชียร์ "เสนาะ เทียนทอง" ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตร
และสุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้เลยก็ในรายของนักแสดงหญิง "หยาดทิพย์ ราชปาล" ซึ่งในอดีตเจ้าตัวนั้นมีข่าวว่าคบหาอยู่กับ "กึ้ง เฉลิมชัย" ทว่าไม่นานชื่อของหนุ่มกึ้งก็ค่อยๆ เงียบหายไปโดยมี "โอ๊ค พานทองแท้" บุตรชายของรักษาการณ์นายกฯ ที่โบกมือลานางเอกสาว "แอน อลิชา" เข้ามาแทนที่
งานนี้นอกจากในเรื่องของความมีชื่อเสียงของทั้งสองแล้ว ในส่วนของสถานการณ์ของตัวบิดาฝ่ายชายที่กำลังง่อนแง่น นับวันจะถูกคนในสังคมหลายต่อหลายกลุ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประจานถึงความไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองที่ทำให้หลายคนรอดูอยู่ว่าอนาคตคู่นี้จะลงเอยกันอย่างไร?