เป็นปีที่ถือได้ว่ามาแรงทีเดียวสำหรับดารานักแสดงหนุ่มสุดหล่อ "เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ขวัญใจของ "หน่อย บุษกร"
เพราะนอกจากเรตติ้งละครเรื่อง "อุ้มรัก" จะพุ่งกระฉูดส่งผลให้เจ้าตัวมีงานเข้ามามากมายแล้ว หนุ่มเคนยังมีชื่อติดโผหนึ่งใน 50 หนุ่มที่น่ากอดจากนิตยสาร "สุดสัปดาห์" อีกต่างหาก
และจากการติดโผดังกล่าวนั้นเองที่ได้มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่การเมืองของบ้านเรากำลังร้อนแรงเช่นนี้ เมื่อเจ้าตัวได้ตอบคำถามที่ถามว่า...หากคุณมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคุณจะทำอะไรเป็นลำดับแรก? ด้วยคำตอบว่า "ลาออก"
รายละเอียดเป็นเช่นไร? พระเอกสุดหล่อคนนี้มีมุมมองต่อสถานการณ์การเมืองเช่นไร? ต้องลองฟังจากปากเจ้าตัว
- ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้าหากได้เป็นนายกฯ แล้วจะลาออกทำไมถึงคิดแบบนั้น?
ผมว่าในความรู้สึกของผมถ้ามีโอกาสได้เป็นนะเพราะว่าเราคงไปตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ถ้าเกิดผมได้เป็นนายกจริงๆ แล้วในสถานการณ์ตอนนี้ ผมคงลาออก กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีแต่ความวุ่นวาย คนในวงการการเมืองไม่ค่อยมีความสามัคคีกัน เท่าที่ผมมองเห็นนะ วุ่นวายดูแล้วคงจะปวดหัวน่าดูถ้าต้องเข้าไปอยู่ตรงจุดนั้น ผมว่าผมเป็นนักแสดงดีกว่า ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
คนในชาติเหมือนจะแบ่งแยกกันเป็นสองฝ่าย เพราะผมไม่ได้มีความรู้มากพอที่จะไปบริหารประเทศได้ ไม่ใช่สิ่งที่ถนัดกับการเป็นนักการเมือง ตอนนั้นที่ตอบไปเป็นคำถามสนุกๆ เราเลยตอบไปอย่างนั้น ตามความรู้สึก ผมว่าเป็นนายกฯ มันเหนื่อยนะ หนึ่งความรับผิดชอบหน้าที่มันเยอะ คนที่จะเป็นระดับผู้นำประเทศอาจจะต้องกุมความลับบางส่วนของรัฐบาลไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชนหรืออะไรก็แล้วแต่ อีกอย่างคือต้องมีความเสียสละไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ต้องถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ผมว่าอันนี้สำคัญนะ ผมเชื่อว่าตัวเองคงทำไม่ได้ขนาดนั้น
- นายกฯ ในอุดมคติ?
ตรงนี้ผมไม่ขอพูดหรือฟันธงไปเลยดีกว่าว่าจะเป็นใคร ชื่ออะไร หรือพรรคไหน คงไม่เหมาะสม ขอคิดอยู่ในใจ แต่ถ้าถามว่าอยากให้ผู้นำประเทศเป็นแบบไหนก็คงอยากให้มีความซื่อสัตย์สุจริต บริหารบ้านเมืองด้วยความโปร่งใส เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พร้อมกับการพัฒนาประเทศทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
- กรณีกลุ่มดาราและคนในวงการบันเทิงที่พยายามออกมาบอกว่าอย่าทะเลาะกันเลย ตรงนี้รู้สึกอย่างไร?
ผมว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป โอเค แต่ละความคิดก็มีสิทธิ์ที่จะพูด ผมก็แค่รับฟัง ดาราก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ผมว่ามีอิทธิพลต่อกลุ่มเยาวชนหรือคนดูนะครับ เพราะถ้าเราทำและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์พวกเขาจะได้ทำตาม แล้วอย่างคนในวงการบันเทิงออกมาว่าอยากให้ประเทศชาติเกิดความสมานฉันท์ ผมว่าก็เป็นเรื่องที่ดีและเราในฐานะคนของประชาชนก็ควรทำ
การออกมาเคลื่อนไหวในวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ได้สร้างความวุ่นวายหรือทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของเรา แต่ในทางกลับกัน มันมีประโยชน์ผมว่าทำไปเถอะครับ ไม่มีใครว่า แต่ถ้าคนอื่นต้องเดือดร้อนกับสิ่งที่เราทำไปก็คงต้องคิดดูก่อน ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ออกตัวอะไรมากนอกจากทำความดีถวายในหลวง และอยากให้ทุกคนรักใคร่ปรองดองกันเพื่อให้ในหลวงท่านสบายครับ เพราะท่านเหนื่อยมาเยอะแล้ว
- แฟนสาว "หน่อย บุษกร" เคยประกาศตนชัดเจนว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลและออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รักษาการนายกฯ ด้วย ตอนนั้นได้มีส่วนร่วมอะไรมั้ย?
ตอนนั้นผมไม่ได้ไปนะครับแต่ก็ทราบว่าเขาไป เพราะผมติดถ่ายละครอยู่ รู้ว่าเขาไปก็ไม่ได้ห้ามหรือว่าขัดแย้ง เพราะก่อนที่จะไปคุณหน่อยก็บอก มีคุยกันบ้างเรื่องการเมืองช่วงเวลาที่ว่างจริงๆ ไม่มีอะไรให้คิดหนักสมอง เขาก็ชวนแต่พอดีติดงานเลยไปด้วยไม่ได้
คุณหน่อยเขาไปผมจะห่วงเขามากกว่า บางทีเขาไปผมไม่ได้ไปด้วยแล้วเดี๋ยวเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นมา ที่สำคัญเขาเป็นผู้หญิงด้วยอาจจะต้องวิ่งหรือไร ผมไม่รู้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนก็เยอะแยะ กลัวว่าจะได้รับอันตราย ถ้ามีผมไปด้วยอย่างน้อยก็คอยเป็นบอดี้การ์ดให้เขาได้
- การเมืองที่ร้อนแบบนี้มีผลกระทบต่ออาชีพดารามั้ย?
คงไม่มีหรอกครับ เพราะลักษณะการทำงานมันคนละส่วน แต่ด้วยความที่ประเทศชาติวุ่นวายขนาดนี้ วันๆ มีแต่ข่าวทะเลาะขัดแย้งมันก็ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยใจเหมือนกันนะ ผมเชื่อว่าทุกคนคงอยากให้สังคมดีอยู่แล้วตัวผมก็เช่นกัน ได้แต่หวังครับอยากให้ดีขึ้นเร็วๆ
- มองว่าสังคมไทยกับคำว่าประชาธิปไตยยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า?
ปัจจุบันคงใช้ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วมั้งครับ อาจจะหายากหรือเปล่าในโลกนี้ คนไทยอย่างที่บอกทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าเราเป็นใครด้วยเพราะว่าบางครั้งมันเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟ พูดอะไรไปอาจกระทบต่อความรู้สึกคนอื่น ซึ่งปัจจุบันผมว่าการเปิดกว้างให้คนแสดงความคิดเห็นมันเยอะขึ้นนะ แต่เชื่อว่ามันคงยังไม่เต็มที่จริงๆ
เพราะจริงๆ แล้วถ้าคนในชาติต้องแตกแยกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ซึ่งรู้สึกเหมือนว่าปัจจุบันจะแตกออกเป็นหลายกลุ่มเหลือเกิน อีกฝ่ายหนึ่งคิดอย่างนั้น อีกฝ่ายหนึ่งคิดอย่างนี้ คือความคิดเห็นมันไม่ตรงกันแต่ตรงนี้มันไม่เป็นไรเพราะทุกคนมีความคิด มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตนอยู่แล้วในฐานะคนไทยคนหนึ่ง แต่ไม่น่าจะถึงขั้นต้องมาลงไม้ลงมือกัน
จริงแล้วทุกคนก็อยากให้มันไม่ต้องมีปัญหา ถ้ามันยุติไปได้มันก็ดี แต่ผลสุดท้ายไม่ว่าเรื่องจะออกมายังไง มีการเลือกตั้งใหม่หรืออะไรก็แล้วแต่ผมอยากให้ทุกฝ่ายมองประชาชนของประเทศชาติเป็นหลัก อย่างไรซะเราก็คนไทยด้วยกันควรจะรักกันไว้ให้มาก
                    

