xs
xsm
sm
md
lg

Snakes on a Plane : ความรื่นรมย์จากกองปฏิกูล

เผยแพร่:   โดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี


ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร Snakes on a Plane ถือเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จกับงานแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์มากที่สุดเรื่องหนึ่งของฮอลลีวูดในรอบหลายปีมานี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในแง่ที่ว่า มันถูกคนพูดถึงอย่างต่อเนื่องก่อนหนังจะฉายจริงอยู่ราวๆ 1 ปี ก่อให้เกิดชุมชนออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมแผลงๆ อีกจิปาถะ กล่าวกันว่านับจาก The Blair Witch Project ในปี 1999 - ยังไม่มีหนังเรื่องไหนที่สร้างกระแสในอินเตอร์เน็ตได้รุนแรงขนาดนี้

แต่ถึงอย่างนั้น การถูกพูดถึง ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่มาการรันตีรายได้อยู่ดี (ตอนนี้หนังทำรายได้ไปแค่ 30 ล้านเหรียญเท่านั้น) จุดบอดของงานนี้คือการที่ Snakes on a Plane วางตัวเองไว้ต่ำเกินไป การประกาศตัวว่าเป็นหนังห่วยตั้งแต่แรกนั้น เป็นการกีดกันแฟนหนังส่วนหนึ่งไปด้วยเหมือนกัน

ถ้าขึ้นต้นด้วยคำถามที่ว่า Snakes on a Plane เป็นหนังห่วยเหมือนอย่างที่ตัวมันพยายามเป็นหรือเปล่า ตัวผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน นอกจากการอ้อมค้อมเฉไฉไปว่า - แล้วแต่จะเอามาตรฐานไหนมาวัด มันอาจเป็นหนังแย่ก็ได้ หรือเป็นหนังที่ดีก็ได้ด้วย

สารภาพกันตรงๆ คือ หนังไม่ได้ประเทืองปัญญาใดๆ เลย การเห็นงูเลี้อยฉกคนก็คงไม่ได้ทำให้รอยหยักในสมองของเราเพิ่มจำนวนขึ้นสักเท่าไหร่ (นอกเสียจากใครบางคนสามารถหาสารัตถะได้จากสิ่งเหล่านี้) ถ้า United 93 เป็นหนังว่าด้วยหายนะบนเครื่องบินที่ถึงพร้อมทุกอย่าง Snakes on a Plane น่าจะอยู่ในฟากตรงข้าม

แต่ก็นั่นเอง หนังคงไม่จำเป็นมอบคติสอนใจให้กับคนดูทุกครั้งไป จะว่าไปฮอลลีวูดก็ไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญของปัจจัยดังกล่าวอยู่แล้ว Snakes on a Plane จึงอาจพ้นข้อกล่าวหาในจุดนี้ไปได้

มองข้ามรูปลักษณ์ที่ชวนอาเจียนออกไป Snakes on a Plane เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้สนุกจริงๆ และไม่ปล่อยให้คนดูเกิดอาการง่วงเหงาหาวนอนแม้แต่นาทีเดียว คนดูคาดหวังอะไร หนังก็พร้อมจะประเคนสิ่งนั้นให้ดูในเกือบจะทันที

ถ้าพูดถึงชื่อเรื่อง “งูบนเครื่องบิน” ลองถามตัวเองว่า ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ น่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ผมเล่นเกมนี้กับเพื่อนที่ยังไม่ได้ดูหนังประมาณ 3 คน ทุกคนพรั่งพรูคำตอบงี่เง่าปัญญาอ่อนออกมาสารพัด และแน่นอน...ทุกอย่างที่ว่ามานั้น ปรากฏอยู่ในหนังเรื่อง Snakes on a Plane ทั้งหมด

หนังเซ็ตตัวละครที่ขึ้นมาบนเครื่องบินหายนะลำนี้ให้มีทุกเพศทุกวัย และเกินกว่าครึ่ง...คนดูคงภาวนาให้งูฉกตายไปตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกตัว เพราะความวุ่นวายก่อนการมาถึงของงูนั้น เข้าทำนองฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมารวมตัวจริงๆ

ด้วยความที่พล็อตเรื่องอุดมไปด้วยความเป็นไปได้ต่ำ สิ่งที่บทหนังนำมาอุดรูรั่วคือ การพยายามทำให้มันสมจริงน้อยที่สุด (เป็น Reverse Thinking ที่ได้ผล) Snakes on a Plane เลยเป็นหนังเกรดบีประเภทผู้ร้ายเป็นอาชญากรตัวเอ้ที่โคตรเลวแบบหาความดีไม่เจอ แถมยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความชิบหายทั้งปวง เพียงเพราะต้องการฆ่าปิดปากพยานแค่คนเดียว

สิ่งสุดท้ายที่คนอื่นจะคิด แต่เจ้าผู้ร้ายรายนี้เกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาคือ การปล่อยงูพิษจำนวนหลายสิบตัวไปบนเครื่องบินที่นำตัวพยานคนสำคัญไปขึ้นศาล และไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ก็สามารถอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุได้

งูพิษเพชฌฆาตนั้นเป็นหลายสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก (เอากับมันสิ) และที่มันดุร้ายเพราะลังดอกไม้ในห้องสินค้าถูกฉีดฟีโรโมนไว้ (สารเคมีที่สัตว์สร้างขึ้นมาดึงดูดเพศตรงข้าม)

ด้วยความที่ตัวละครมีล้นเหลือ ผู้กำกับ เดวิด อาร์ เอลลิส เลยสนุกสนานกับการสังหารตัวละครด้วยกลวิธีพิเรนทร์ๆ เท่าที่จะสรรหามาได้ เป็นต้นว่าความคิดตื้นๆ อย่างการให้เหยื่อเข้าห้องน้ำ และโดนงูจู่โจมไปที่นุ้งนิ้ง หรือการให้งูงับไปที่ลิ้นของเหยื่อ...นึกแล้วยังขนลุก

อารมณ์ขันเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Snakes on a Plane ไม่ได้ดูแห้งแล้งจนเกินไป ผมคิดว่านี่อาจเป็นองค์ประกอบสำคัญด้วยซ้ำที่ทำให้หนังรอดพ้นจากการเป็นหนังสัตว์ล่าคนห่วยๆ สักเรื่อง ทีมเขียนบท (อันประกอบด้วย จอห์น เฮฟเฟอร์แนน, เดวิด ดาเลสซานโดร, เซบาสเตียน กูเตียเรซ) เผยให้เห็นพรสวรรค์ในการหาช่องหยอดมุกตลกได้เรื่อยๆ ถึงบางส่วนจะดูบ้าบอเลยเถิดไปบ้างก็ตาม

ในส่วนนี้เป็นไปได้เหมือนกันที่หลายคนอาจรู้สึกว่า หนังไม่เอาอ่าวเลย คือนอกจากจะหาสาระใดๆ ไม่ได้แล้ว มันยังเต็มไปด้วยอะไรที่บ้องตื้นอีกต่างหาก ตรงนี้ผมว่ามันอยู่ตรงรสนิยมและการเปิดรับเสียมากกว่าจะเป็นข้อด้อยที่มาจากตัวหนัง

แซมมวล แอล แจ็กสัน ดูสนุกกับบทที่เขาได้รับมาก นักแสดงระดับเขาแบกหนังจนอยู่มือแล้ว ผมอดหัวเราะไม่ได้ทุกครั้งที่ตัวละครนักสืบฟลินน์ของเขาบ่นกับตัวเองว่า “มีอะไรอีกแล้ววะ?” เพราะเอือมกับที่ปัญหาไม่จบไม่สิ้นเสียที

และแน่นอนอยู่แล้ว วรรคทองของแซม แจ็กสัน อยู่ตรง “Enough is enough! I have had it with these motherf**king snakes on this motherf**king plane!” - - เออ...พอก็พอ

ผมสนุกกับ Snakes on a Plane มากกว่าหนังซัมเมอร์หลายเรื่องที่ผ่านตาไปเสียอีก มันตอบโจทย์ตัวเองได้ตรง - ตื่นเต้น สนุก และน่าขยะแขยง ทำออกมาโดยไม่แคร์ว่าใครจะก่นด่ากันอย่างไร
มันเหมือนเด็กเลวๆ คนหนึ่งที่ดูเลวสมอต้นเสมอปลายดี คือไม่เลวไปกว่านี้ และจะให้ทำดีไปกว่านี้ก็คงไม่ได้

เสียดายอยู่หน่อยเดียว ตรงที่หนังทำให้คนดูสมหวังในสิ่งที่อยากดูมาตลอด แต่กลับไม่ให้เห็นจุดจบของผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด น่าจะมีฉากหมองูตายเพราะงูสักหน่อย

แต่มันก็อย่างนี้แหละ โลกไม่ค่อยยุติธรรมเอาเสียเลย ตัวอย่างมีให้เห็นกันอยู่ คนชั่วทำไมมันตายช้าและแคล้วคลาดไปได้ทุกทีก็ไม่รู้

กำลังโหลดความคิดเห็น