xs
xsm
sm
md
lg

"บุ๋ม" ยัน เรียลลิตี้เบ่งลูกไม่อนาจาร รับประกันไม่โจ๋งครึ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากอุ้มท้องทำงานมานานกว่า 8 เดือนในที่สุด "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" คุณแม่จอมบ้างานก็ได้ฤกษ์เข้าห้องคลอดลูกสาว น้อง "อันดามัน" ไปเมื่อคืน(19/ส.ค./49) ที่ผ่านมา ท่ามกลางความสนใจของกองทัพนักข่าวที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของบุ๋มตลอดเวลา เพราะงานนี้เจ้าตัวเค้าไม่ใช่แค่คลอดลูกธรรมดา หากแต่มีการทำเรียลลิตี้ขณะคลอดลูกอีกต่างหาก

หลังจากผ่านพ้นนาทีความเป็นแม่มาหมาดๆ บุ๋มกับ "วีรพงศ์ พิพิธสุขสันต์" ก็ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า...

บุ๋ม : รอจะคลอดเองตั้งแต่ 5 ทุ่มจนถึง 7 โมงเช้า น้ำคร่ำแตกตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง หลังจากนั้นรอปากมดลูกเปิด รอจนถึง 7 โมงเช้าเปิดแค่ 3 เซนฯ ต้องเปิดทั้งหมด 10 เซนฯ ฉีดยาเร่งคลอดก็แล้วแต่ไม่ได้ผล ก็เลยตัดสินใจผ่าคลอดเพราะน้ำคร่ำแตกมานานแล้ว จริงๆ ตั้งใจจะคลอดเองตั้งแต่ตั้งท้องน้องแล้ว อยากจะสัมผัสบรรยากาศการเป็นแม่มากๆ แต่กลับกลายเป็นว่าหลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย เป็นคุณพ่อเขาที่เห็นบรรยากาศในห้องคลอดมากกว่า

วี : รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพ่อ วินาทีที่เห็นหน้าลูกมันบรรยายไม่ถูกและทำอะไรไม่ถูกด้วยเหมือนกัน แต่รู้สึกดีมากๆ และรู้สึกสมกับที่เรารอมานานเกือบปี ตอนที่ได้ยินเสียงร้องของเขาตอนแรกรู้สึกดีมากๆ แล้วคุณหมอบอกว่าน้องแข็งแรงดียิ่งโล่งใจ ตอนคลอดผมก็อยู่ข้างๆเตียง คอยจับมือคอยลูบหลังเขาตลอด เพราะเขาเจ็บท้องทั้งคืน

บุ๋ม : บุ๋มมาเห็นอีกทีตอนที่เขากำลังเย็บแผลอยู่ เห็นอีกทีเหมือนไม่ใช่ลูกเรา(หัวเราะ) เพราะผมเยอะมากตอนบุ๋มเกิดผมไม่มีเลย หนัก 2.94 ตอนเห็นหน้าแวบแรกน้ำตาคลอเบ้าเลย น่ารักกว่าในอัลตร้าซาวน์เยอะเลย พ่อกับแม่เห่อพอๆ กัน ได้ยินเสียงเขาแอะๆ ก็ตกใจกันแล้ว

บุ๋มเจ็บท้องทั้งคืนร้องเสียงดังทั้งคืน จับราวเหล็กเตียงจนกลัวของโรงพยาบาลจะหัก ตอนเจ็บท้องรู้สึกเหมือนหนังมันจะฉีกออกจากกัน

พอมีลูกคนแรกวีก็วางแผนตั้งเป้ามีลูกต่ออีกถึง 5 คน...
บุ๋ม : บุ๋มตั้งชื่อจริงชื่ออันดามัน ชื่อเล่นยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเรียกว่าอันดาเฉยๆ ส่วนลูกคนที่สองขอแผลคนนี้หายก่อนดีมั้ยค่ะ(หัวเราะ)

วี : ผมคิดว่าอาจจะพักสักปีแล้วค่อยดูอีกที อยากมี 5 คน บอกเขาตั้งแต่ช่วงแต่งงานแล้ว ถ้าทำแฝดได้จะเป็นหนึ่งสองสอง(หัวเราะ)

ส่วนเรียลลิตี้การคลอดลูกของบุ๋มซึ่งกำลังเป็นที่ฮือฮาเพราะหลายๆ คนหวั่นว่าจะเกิดภาพอนาจารเพราะมีการเข้าไปถ่ายทำขณะคลอดด้วยนั้น บุ๋มรับประกันว่าไม่มีโจ๋งครึ่ม แต่จะออกแนววิทยาศาสตร์มากกว่า

บุ๋ม : เขาเก็บภาพบุ๋มตั้งแต่บุ๋มฝากครรภ์ รวมถึงกระบวนการต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ รวมถึงการตรวจร่างกายของคุณหมอ รวมทั้งภาพอัลตร้าซาวน์ของเจ้าตัวน้อยตั้งแต่เริ่มแรก และจะมีส่วนของภาพกราฟฟิกที่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นความรู้ ตอนที่ตัดสินใจทำเพราะคิดว่าต้องให้ความรู้ได้อย่างแน่นอน เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี มันไม่ใช่เป็นภาพที่โจ๋งครึ่ม แต่จะเป็นภาพบรรยากาศแนววิทยาศาสตร์มากกว่า จะมีอารมณ์ของความเป็นพ่อเป็นแม่ผสมเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย เหมือนดูละครเรื่องนึงที่มีภาพประกอบเข้ามาให้ความรู้ด้วย ซึ่งบุ๋มว่ามันน่าสนใจ

ถึงจะพึ่งผ่านการคลอดลูกมาหมาดๆ แต่บุ๋มก็ยังดูสดใสร่าเริง แม้ว่าในร่างกายจะตรวจพบเชื้อมะเร็งก็ตาม
บุ๋ม : ตอนนั้นยังตรวจไม่ได้เพราะตั้งท้องอยู่ คุณหมอบอกว่ามะเร็งก็จะมีขั้น1-2-3 ใช่มั้ยคะ ก่อนหน้าที่จะเป็นมะเร็งก็จะมีอีกขั้นคือเป็นเชื้อก่อนที่จะเป็นมะเร็ง แต่ถ้าไม่สามารถดูแลตัวเองเชื้อตัวนี้ก็จะสามารถพัฒนาไปได้ แต่เนื่องจากว่าบุ๋มท้องตอนที่พบพอดี คุณหมอก็เลยบอกให้รอคลอดก่อนค่อยทำการรักษาได้ ค่อยมาดูว่าเชื้อลามไปถึงไหน

วันที่รู้ข่าวรู้สึกช็อก โทร.บอกวีเลย แต่ตอนนั้นไม่อยากบอกให้ใครรู้ อยากเก็บเป็นความลับ และเราเองก็ไม่อยากตื่นตูมมากจนเกินไป หมอบอกว่าเชื้อตัวนี้จะมากหรือน้อยลงขึ้นอยู่กับจิตใจของเราด้วย ว่าเราเข้มแข็งและดูแลสุขภาพดีหรือเปล่า แต่บุ๋มกลัวจะมีอันตรายกับลูก กลัวจะมีลูกอีกไม่ได้กลัวหลายอย่าง เพราะญาติของบุ๋มหลายคนก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง หลังจากนี้ก็ต้องปรึกษาคุณหมออีกทีว่าทำอะไรได้บ้าง

จะมีลูกได้อีกมั้ย ยังบอกไม่ได้เพราะบางคนรอบข้างที่ร่างกายแข็งแรงเขาก็หาย เชื้อหลุดออกไปเอง แต่บางคนก็ต้องตัดมดลูกทิ้ง แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวลสมัยนี้มีวิวัฒนาการหลายอย่างที่จะรักษาได้ หลังจากคลอดอย่างน้อย 6 เดือนถึงจะทำการรักษาได้ บุ๋มอยากมีลูกหลายๆ คน นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่บุ๋มอยากถ่ายรูปตอนท้องเก็บไว้และอยากทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตอนท้องเก็บไว้เพราะในแต่ละวันที่ผ่านมามันมีค่ามากสำหรับเรา

ด้านวีก็กล่าวว่ารู้สึกเสียใจแต่ก็จะดูแลบุ๋มอย่างเต็มที่...
วี : เสียใจที่ตรวจพบเชื้อแต่ส่วนนึงก็ดีใจที่ตรวจพบเร็วจะได้หาทางรักษา คงต้องดูแลบุ๋มมากกว่านี้ คุณหมอบอกว่ามีโอกาสหายสูงเหมือนกัน เพราะยังไม่ถึงขั้นมะเร็ง เราก็ต้องรักษากันต่อไป ยังไงชีวิตของบุ๋มก็ต้องมาก่อน ส่วนจะมีลูกได้อีกหรือเปล่าคงเป็นเรื่องรองลงมาแล้ว





กำลังโหลดความคิดเห็น