วงการเพลงป็อปเมืองไทยยุคปัจจุบัน ในช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมามีนักร้องมากมายดาษดื่นที่ออกงานมาทั้งในฐานะนักร้องเดียวและวงดนตรี แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครโดดเด่นเป็นจำหลักของยุคสมัยเป็นซูเปอร์สตาร์ กลายเป็นจำหลักของยุคสมัยได้
ส่วนมากก็อยู่ในระดับบีบวก ยังไม่มีก้าวทะลุล้ำถึงการเป็นนักร้องเกรดเอได้ หมายถึงการเป็นนักร้องเสียงทอง (Diva) ที่คนฟังหมายมั่นปั้นใจรอฟังงานด้วยใจจดใจจ่อด้วยความเชื่อถือในมาตรฐานและคุณภาพของเสียงร้อง ดนตรี และเนื้อเพลง
25 ปีเต็มเข้าวัยเบจเพส ปาล์มมี่ - อีฟ ปานเจริญ ก็มีงานในอัลบั้มชุดที่ 3 ‘บิวตี้ฟูล ไรด์’ (Beautiful Ride) ออกมา ซึ่งในช่วงเวลา 5 ปี เธอออกงานเพลงมา 3 อัลบั้มถือว่ากำลังสวยและไม่ถี่ยิบจนเกินไป อัลบั้มชุดแรก ‘ปาล์มมี่’ (Palmy) ถือเป็นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในแง่ของเพลงฮิตและยอดขาย มาถึงอัลบั้มชุดที่ 2 ‘สเตย์’ (Stay) ซึ่งถือเป็นการปราบเซียน ก็ยังสามารถประคองตัวไปได้ไม่ถึงกับเป็นนักร้องที่ดังแบบชุดเดียวจบ
เกือบ 3 ปี กว่า ปาล์มมี่มีงานชุดที่ 3 ออกมา สาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทีมที่ปลุกปั้นตัวเธอมาก็คือ ชาตรี คงสุวรรณ กับรุ่งโรจน์ ผลหว้า แห่งค่ายอาร์พีจีได้ปิดค่ายถอนยวงออกจากจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มาตั้งค่ายเพลงใหม่ที่เป็นอิสระในชื่อ คราฟท์แมน แต่ปาล์มมี่ไม่ออกมาร่วมหัวจมท้ายด้วย
เพราะฉะนั้นอัลบั้มชุด ‘บิวตี้ฟูล ไรด์’ (Beautiful Ride) จึงเปรียบเสมือนการยืนบนทางแพร่งของปาล์มมี่เองว่าจะเลือกทำงานอย่างไร เพราะอย่างน้อยเธอก็พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่า เป็นนักร้องที่ร้องเพลงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมีพลังเสียงที่หนักแน่น (วัดตามมาตรฐานตามวิธีการร้องเพลงป็อปสมัยใหม่ ซึ่งรับอิทธิพลเดินตามรอยทางรูปแบบการร้องของนักร้องเพลงพ็อพตะวันตก) รวมถึงได้โชว์ความสามารถในการเขียนเพลงได้ด้วย
การขาดทีมทำเพลงซึ่งเข้าใจในบุคลิกและธรรมชาติเดิมในตัวของเธอ ไม่ได้ทำให้ปาล์มมี่เสียศูนย์ เมื่อจีเอ็มเอ็มแกรมมี่เลือกทีมทำเพลงใหม่ให้มาช่วยทำอัลบั้มชุด ‘บิวตี้ฟูล ไรด์’ ด้วยกันถึง 2 ทีม คือ 4 เรียล มิวสิก โปรดักชั่น ที่มีเรืองกิจ ยงปิยะกุล เป็นโปรดิวเซอร์หลัก กับแมงโก ทีม ที่มีพูนศักดิ์ จตุระบุล จากวงบิ๊กแอสนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์หลัก โดยแบ่งกันทำเพลงทีมละ 5 เพลง
การแต่งตัวของปาล์มมี่ก็ยังเป็นในแนวนีโอ-ยิปซี มีบรรยากาศของปกอัลบั้มอิงอยู่กับธรรมชาตินิยม ภาพรวมของบทเพลงในงานชุดนี้ของปาล์มมี่ก็ยังเป็น อัลเทอร์เนทีฟ-ป็อปร็อกอยู่เฉกเช่นเดิม ดั่ง 2 อัลบั้มก่อนที่ปูแนวทางเอาไว้ ถือเป็นการสานต่ออย่างไม่ยอมหลุดจากแนวความคิดเดิมที่เคยเป็นมา แต่ตัวเพลงและวิธีการร้องจะฟังง่ายขึ้น ไม่มีการร้องหลบโหนเสียงและคอรัสที่วุ่นวายยุ่งเหยิงจนเฝือหูมากนัก
ทั้ง 10 บทเพลงในอัลบั้มชุดนี้ ถือว่าเป็นความลงตัวอย่างสูงในความเข้าใจในบุคลิกและทางการร้องเพลงของปาล์มมี่ โดยยังยึดแนวทางจากความสำเร็จในอัลบั้มแรกเป็นฐานความคิดอยู่อย่างเต็มที่ โดยเนื้อหาก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักที่มีมุมมองสะท้อนจากความรู้สึกส่วนตัวภายในที่ระบายความรู้สึกให้พรั่งพรูออกมา สามารถบอกได้เลยว่า เพลงทั้งหมดมีศักยภาพในการขึ้นเป็นเพลงฮิตได้โดยถ้วนทั่ว
‘ความเจ็บปวด’ ถูกตัดเป็นเพลงโปรโมท เป็นฝีมือการเขียนเนื้อร้องของ ขจรเดช พรมรักษา คนเขียนเพลงหลักให้กับวงบิ๊กแอส, บอดี้สแลม, อีโบล่า และอีกมากมาย เพราะปัจจุบันเขาถือเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทยในการเขียนเพลงรักในสไตล์ป็อปร็อกที่ถูกหูคนฟังวัยรุ่นในยุคนี้มากที่สุด ปาล์มมี่ร้องแบบเค้นอารมณ์ปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าร้าวลึกทว่าเข้มแข็งอยู่ข้างในอย่างเข้าถึง ซึ่งไม่น่าประหลาดใจหากเป็นเพลงยอดนิยมของคนฟัง ยิ่งได้มิวสิกวิดีโอที่เล่นโดยกฤษฎา สุโกศล แคลปป์ หรือน้อย วงพรูมาเล่นในมิวสิกฯ ด้วยก็ยิ่งขับเน้นความรู้สึกผ่านภาพได้มากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ปาล์มมี่ไม่ทิ้งก็คือการร้องเพลงแบบนักร้องนำวงเดอะ แครนเบอร์รี่ส์ ที่มีลักษณะการร้องหลบเสียง โหนเอื้อนขึ้นนาสิก ครางครวญเปิดอารมณ์อย่าง โดโลเรส โอ’ไรออร์แดน ในบทเพลง ‘ร้องไห้ง่ายง่ายกับเรื่องเดิมเดิม’ การวางองค์ประกอบของดนตรีในเพลงดีมาก ร้องกับกีตาร์อย่างแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนปิดท้ายส่งอารมณ์แบบเข้มข้น
‘กุญแจที่หายไป’ เรียบเรียงดนตรีโดยใช้ดับเบิล เบส, เชลโล่ เข้ามาเสริมช่องว่างของโครงสร้างจังหวะที่ใช้ดรัมแมชชีนอย่างลงตัว
บทเพลงอื่นๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐานที่ทำได้ดีในบทเพลงแบบปาล์มมี่ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้ดั่งเดิม ต้องบอกว่า ทีมทำเพลงเข้าใจและตีความในการทำเพลงให้ปาล์มมี่ได้แตก
แต่จะให้ดีกว่านี้ สิ่งที่อยากเห็นและอยากฟังจากปาล์มมี่ก็คือ การที่เธอน่าจะเข้ามาเขียนเพลงเองบ้างในบางส่วนแม้ไม่ทั้งหมดก็ตาม เพื่อแสดงตัวตนที่แจ่มชัดออกมาให้มากกว่านี้
‘บิวตี้ฟูล ไรด์’ เป็นงานที่ดี และมีความหวังกับงานในอัลบั้มต่อๆ ไปของปาล์มมี่ว่า เธอต้องยังมีดีที่จะขยายขอบเขตในการทำงานของตัวเองในฐานะ นักร้อง / นักแต่งเพลง เพราะศักยภาพของเธอน่าไปถึงได้ หากถึงเวลานั้นเธอก็จะยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งจนถึงขั้นโก อินเตอร์ก็ว่าได้
..........
พอล เฮง
paulheng2006@hotmail.com