ซีรีส์ชุด Entourage เป็นความพยายามอีกครั้งของช่อง HBO ที่จะผลิตงานดังๆ แบบ Sex and the City ออกมาอีก เนื้อหาของมันจึงวนเวียนอยู่กับชีวิตร้อนๆ ของคนเมือง เซ็กซ์ ความสัมพันธ์ และธุรกิจที่มีเรื่องชิงไหวชิงพริบเข้ามาเกี่ยวข้อง
ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่า Entourage ไม่สามารถเป็น Sex and the City ภาคผู้ชาย ได้อย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง ปัญหาใหญ่ๆ มาจากตัวซีรีส์เอง ที่วิธีการเล่าเรื่องไม่ได้แคร์คนดูเท่า, Entourage เล่าเรื่องเร็ว มุกตลกเจ็บๆ นั้นไม่มีการเผื่อเวลาให้หัวเราะกันเลย (จงใจปล่อยผ่านเลย ใครตามทันก็โชคดีไป) ที่สำคัญไปกว่านั้น มันยังไม่อ้อยอิ่งเวลาไว้สำหรับการย้อมใจคนดูด้วยฉากดราม่าชวนประทับใจ
พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงจะไม่ใช่ Sex and the City แต่ Entourage ก็เป็นซีรีส์ที่ดูเพลิน เป็นตัวของตัวเองแบบไม่แยแสใคร และที่สำคัญมันฮาอย่างร้ายกาจ
แน่นอน Entourage พูดถึงเรื่องของผู้ชาย ตัวละครหลักราว 4-5 ตัวของซีรีส์เป็นผู้ชายที่อยู่ในวงการบันเทิง ศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ วินเซนต์ เชส (เอเดรียน เกรนิเยร์) ดาราหนุ่มรูปหล่อที่มีแววรุ่งและได้รับการขนานนามว่า จอห์นนี เดปป์ คนต่อไป
บรรดาคณะผู้ติดตามทั้งหลาย (หรือ Entourage ตามชื่อเรื่อง) ประกอบไปด้วยเอริก (เควิน คอนเนลลี) เพื่อนรักสมัยไฮสกูลที่กลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว, จอห์นนี ดราม่า (เควิน ดิลลอน) พี่ชายของวินเซนต์ ที่พยายามจะเป็นดาราเหมือนกัน หลังจากที่เคยเข้าวงการมาเมื่อ 10 ปีก่อนแล้วร่วง, เทอร์เทิล (เจอร์รี เฟอร์รารา) ไอ้เพื่อนอ้วนตัวแสบที่ทำหน้าที่เป็นสารถี และ แอรี (เจอเรมี พีเวน) เอเยนต์ของวินเซนต์ที่เขี้ยวลากดินสุดๆ และปากคอนั้นร้ายกาจเกินกว่าจะหาคำใดมาบรรยาย (ตอนที่สาวเอเชียขับรถปาดหน้า แอรีตะโกนไปว่า “ที่เทียนอันเหมินเขาขับรถกันอย่างนี้เหรอ…บิช!”)
แอรีเป็นตัวแสบที่ด่าใครเป็นต้องลงท้ายด้วย “บิช” (Bitch) ทุกครั้ง เขาสถาปนาตัวเอง (อย่างน้อยก็ต่อหน้าวินเซนต์) ว่าเขาคือเอเยนต์ที่เก่งกาจที่สุด เหตุผลที่เขาต้องทำตัวน่ารังเกียจขนาดนี้ นั้นมาจากการต้องเอาตัวรอดในธุรกิจที่แข่งขันกันสูง
ไม้เบื่อไม้เมาของแอรี คือ เอริก – ไม้กันหมาของวินเซนต์ที่เห็นแย้งกับเอเยนต์ไปเสียทุกเรื่อง เอริกต้องการให้วินเซนต์เล่นหนังดี แต่แอรีต้องการให้ดาราของเขาเล่นหนังทำเงิน
แกนเรื่องหลักๆ นั้นอยู่ที่รายละเอียดปลีกย่อยของการเป็นซูเปอร์สตาร์ในฮอลลีวูด วินเซนต์ต้องเจอกับอะไรบ้าง (ตั้งแต่เอเยนต์ยันประชาสัมพันธ์ส่วนตัว) ดัก เอลลิน ผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ชุดนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของเขาเอง ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากชีวิตของมาร์กี้ มาร์ก (หรือมาร์ก วอห์ลเบิร์ก) อดีตแร๊พเพอร์หนุ่มที่ผันตัวเองมาเป็นดารา
จริงอยู่ที่ถึงแม้จะมีเรื่องปวดหัวเข้ามาแวะเวียนไม่ได้ขาด แต่คนที่ต้องรับหน้าที่จัดการกับปัญหาเหล่านั้นไม่ใช่ตัวดาราโดยตรง แต่เป็น “คณะผู้ติดตาม” ทั้งหลาย ซึ่งคนดูอาจจะนึกสงสัยในตอนแรกว่า “พวกมันเหล่านี้ทำงานอะไรกัน” พอดูไปเรื่อยๆ เลยพอเข้าใจว่า ถ้าไม่มีคนเหล่านี้ ดาราอาจจะเหนื่อยกว่าเดิมสัก 10 เท่า
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์ชุดนี้ดูได้เพลินๆ ประการถัดมา คือมุกอำวงการบันเทิงทั้งหลาย ตั้งแต่การเชิญดารามาเล่นเป็นตัวเองจริงๆ หรือกัดโน่นนิดนี่หน่อยไปเรื่อยเปื่อย (ตอนหนึ่งมีการอำว่า มีดาราบางคนใน Ocean’s Eleven ใช้เงินกว่าล้านเหรียญฯ ไปกว้านซื้อตั๋วหนังในวันแรกที่เข้าฉาย เพราะอยากให้หนังเปิดตัวด้วยเลขสวยๆ)
อย่างไรก็ดี ความสนุกที่อยู่นอกเหนือแกนเรื่องและฉากหลัก เห็นจะหนีไม่พ้นการแฉพฤติกรรมเลวๆ ของผู้ชายในลักษณะที่เจืออารมณ์ขันร้ายๆ อยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าสาวๆ ใน Sex and the City ก๋ากั่นกันแค่ไหน ก็ยังไม่ดูกวนอวัยวะเบื้องต่ำเท่าหนุ่มๆ กลุ่มนี้
ต้องสาธยายก่อนว่า นอกจากพวกเขาจะ “ขี้เอา” กันแล้ว พวกหนุ่มๆ ยังบอกลาความสัมพันธ์อันยาวนานทั้งปวง สาวๆ ในเรื่องถ้าไม่ใช่ตัวละครหลักจริงๆ ก็จะปรากฏตัวแค่ครั้งเดียว (ในฐานะคู่นอน) การสป้าร์กแบบ one night stand เกิดขึ้นจนชินชาในชีวิตที่หาเงินได้ง่ายอย่างนี้
Entourage คล้ายจะปฏิบัติกับตัวละครหญิงอย่างไม่เป็นธรรม (มีมุกล้อเลียนนักร้องสาวคนหนึ่งที่ประกาศตัวว่าเธอจะรักษาเวอร์จิ้นไว้จนกว่าจะแต่งงาน - แต่ไม่มีใครเชื่อเธอเลย) แต่มองอย่างเป็นกลางที่สุด ผู้หญิงในหนังเองก็ดูจะไม่แคร์หรือแม้แต่แยแสด้วยซ้ำว่า ผู้ชายจะทรีตกับเธออย่างไร นัยหนึ่งคือ เธอมีสิทธิ “เลือก” เองว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้ - โดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรด้วย
แฟนสาวของเอริกบอกกับเขา หลังจากทะเลาะกันว่า “เรามามีเซ็กซ์กันเถอะ ถือว่าเป็นเซ็กซ์ก่อนบอกเลิกก็แล้วกัน”, ดาราสาววัยรุ่น ซารา ฟอสเตอร์ (มาเล่นเป็นตัวเอง) เธอเคยถูกวินเซนต์ทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่พอมาเจอกันอีกครั้ง เธอก็พร้อมจะกระโจนเข้าหาเขาอีกรอบแบบไม่คิดอะไร
ไลฟ์สไตล์ที่นอกเหนือจากงานที่ต้องทำ คือการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมสระในคฤหาสน์ สาวๆ นั้นอาจจะหาง่ายกว่าการซื้อเบียร์ยี่ห้อโปรดเสียอีก พอกันกับยาเสพติดที่มีอยู่ทุกซอกทุกมุมของบ้าน ชนิดที่ว่าอยากได้ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องลำบาก
ผู้หญิงมีสิทธิเกลียดคนไม่รับผิดชอบ ไม่คิดถึงอนาคต และไม่รักษาน้ำใจเพศตรงข้ามแบบนี้ได้ไม่ยาก แต่หนุ่มๆ ใน Entourage ไม่สนใจอยู่แล้ว ผมดูจบไปซีซั่นแรก ยังไม่เห็นวี่แววว่าพวกเขาจะสำนึกในนิสัยแย่ๆ ของตนเอง
บางทีสังคมที่พวกเขาอยู่มันบีบให้เขาเป็นแบบนั้น และถ้าพวกเขาจะอ้างว่า You are Where You Live ผมว่ามันก็พอฟังขึ้น
อย่างนั้นก็เถอะ มีอยู่ตอนหนึ่งที่ตัวละครหนุ่มโดนตอกจนหน้าหงายไปแบบไม่ตั้งใจ พวกเขาเช่าสาวจ้ำบ๊ะทรงโตมาจากบาร์เปลื้องผ้ามานั่งดูหนังขาว-ดำเรื่องหนึ่ง
หลังจากดูจบ หนุ่มๆ ส่ายหน้าบอกว่า ดูไม่รู้เรื่องและอยากลุกจากที่นั่งใจแทบขาด แต่แล้วจู่ๆ สาวอกโตคนหนึ่งก็บอกว่า “ฉันชอบนะ ดูแล้วนึกถึงฌอง-ลุก โกดาร์เลย”
ถ้าใครจะว่าตัวละครหญิงในหนังเรื่องนี้ไร้ค่า - ผมขอเถียงเลย