เฮลั่นกันทั้งสตูดิโอเลยทีเดียวสำหรับบรรดากองเชียร์ที่เข้าไปให้กำลังใจต่อ “น้องเดียว ด.ช.พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์” เด็กมหัศจรรย์-เจ้าหนูยอดอัจฉริยะ วัย 5 ขวบที่สามารถพิชิตการตอบคำถามได้ครบ 200 หน้า ในรายการ “เกมทศกัณฐ์เด็ก” คว้าเอาเงินรางวัลไปกว่า 4 ล้านบาท
โดยบรรยากาศภายในสตูดิโอของ บ.เวิร์คพอยท์เมื่อวันวานที่ผ่านมา(9)นั้นค่อนข้างจะคึกคักทีเดียว เมื่อเหล่าแฟนคลับของ "น้องเดียว" นายพฤหัส-นางศิริพร เกลี้ยงจันทร์ พ่อ-แม่ และน้องสาว “ดิวดิ๊ว” ได้เข้าไปร่วมเป็นกำลังใจอย่างคับคั่ง เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่จะได้รู้กันว่าเด็กความจำดีคนนี้จะใช้ความสามารถที่มีอยู่ในการตอบคำถามได้ครบ 200 หน้าหรือไม่? โดยมีเงินสด 1 ล้าน 1 แสนบาท บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินของหมู่บ้านพฤกษามูลค่า 2.5 ล้านบาท ทัวร์ยุโรป 7 วัน 3 ประเทศ (ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี) เป็นของรางวัล
ก่อนเริ่มต้นการบันทึกรายการ น้องเดียวนั้นมีอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มกันที่ใบหน้าที่ 198 เป็นใบหน้าของ “มด” นักร้องวัยรุ่นคู่ดูโอวง "โฟร์-มด" ซึ่งเจ้าตัวไม่ต้องลังเลอย่างไรสำหรับการตอบคำถาม โดยหลังจากที่เฉลยคำตอบแล้วสองสาว "โฟร์ - มด" ที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ได้ขึ้นมาหอมแก้มของน้องเดียวพร้อมกับบอกว่าเป็นแฟนคลับและติดตามเชียร์มานาน ทำเอาเจ้าตัวถึงกับหน้าแดงกล่ำ แต่แล้วเหล่ากองเชียร์ทั้งหลายก็ต้องมาลุ้นระทึกกับอาการลังเลและคิดหนักจนหน้าจ๋อยของน้องเดียวกับใบหน้าที่ 199 ซึ่งเป็นภาพฝาแฝดของ "บิณฑ์ - เอกพัน บันลือฤทธิ์" โดยที่ทั้งสองก็ได้มายืนอยู่บนเวทีด้วย
ใช้เวลาพอสมควรเจ้าหนูวัย 5 ขวบก็ตอบแบบไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าใครกันแน่คือเอกพันขณะที่เจ้าตัวกลับอธิบายอย่างฉะฉานถึงการสังเกตความแตกต่าง โดยบอกว่าดูจากคาง ซึ่งไทด์นั้นคางบุ๋มส่วนท็อปนั้นหน้าดำ อย่างไรก็ตามภายหลังการเฉลยของพิธีกร "ปัญญา นิรันดร์กุล" ว่าถูกต้องก็ทำเอาน้องเดียวมีสีหน้าที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางเสียงเฮของกองเชียร์ ขณะที่นางศิริพรมารดาน้องเดียวนั้นถึงกับเอามือปิดหน้าร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ
ก่อนจะตอบคำถามใบหน้าที่ 200 น้องเดียวได้ขอขึ้นไปขอกำลังใจจากผู้เป็นมารดาก่อน ทั้งสองได้โผเข้ากอดและผลัดกันหอมแก้มอยู่พักใหญ่ และแล้วนาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ซึ่งแม้น้องเดียวจะมีสีหน้าที่ค่อนข้างจ๋อย ทว่าก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร โดยทันทีที่พิธีกรเฉลยว่าถูกต้องแล้วครับ น้องเดียวถึงกับดีใจสุดขีด กระโดดตัวลอย ขณะที่นางศิริพรได้วิ่งลงจากอัฒจันทร์ร่ำไห้เข้าโผกอดลูกชายด้วยความดีใจ รวมถึงญาติพี่น้องกองเชียร์ต่างกรูลงมาที่เวทีเพื่อร่วมแสดงความยินดี
ภายหลังจากการรับตำแหน่งแชมป์ น้องเดียวได้เปิดเผยว่าดีใจมากๆ ส่วนรางวัลจะยกให้แม่ทั้งหมดเพื่อเป็นของขวัญวันแม่ ส่วนผู้เป็นมารดานางศิริพร บอกว่าโล่งอกมาก ดีใจที่ลูกทำได้ตามความตั้งใจและพยายาม รวมถึงขอขอบคุณไปยังทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจให้ ขณะที่เสี่ยตา ปัญญาบอกว่าตื่นเต้นและเสียวไส้มากๆ ก่อนจะเอ่ยชื่นชมน้องเดียวว่าเป็นเด็กที่เก่ง ตนและทีมงานดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้เด็กได้มีเวทีในการแสดงความสามารถของตนเองออกมา (สำหรับรายการเกมทศกัณฐ์เทปนี้ มีกำหนดออกอากาศในวันที่ 12-13 ส.ค.)
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความคิดเห็นไปยังคนในแวดวงของวงการทีวีภายหลังต่อการคว้าแชมป์ของน้องเดียว ด.ช.พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์ ที่สามารถตอบทายใบหน้าได้ถึง 200 ใบหน้านั้น หลายคนต่างแสดงความคิดเห็นชื่นชมเด็กน้อยคนนี้ว่ามีไหวพริบในการจำที่ดีมาก จะเรียกว่าเป็นเด็กอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ ขณะที่บางส่วนบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใจแต่อย่างไร เหตุเพราะยิ่งเข้าใกล้หน้าที่ 200 มากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าทางรายการเองดูเหมือนจะกำหนดเอาไว้แล้วว่าอย่างไรเสียน้องเดียวก็ต้องตอบได้หน้าที่ 200 อย่างแน่นอน
"มันก็เป็นข้อสังเกตน่ะนะ คือตั้งแต่น้องเขาได้ 100 หน้าแล้วก็พอมีการประกาศมาว่าถ้าทำได้ 200 หน้าจะได้ย่างนั้นอย่างนี้ ดูเหมือนว่าผู้ผลิตเขาจะมีโจทย์หรือสคริปต์ไว้แล้วว่าเรื่องมันจะจบที่ตรงไหน" โปรดิวเซอร์รายการเกมโชว์คนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
"ไม่ได้ว่าน้องเขาไม่เก่งนะ น้องเดียวเก่ง แล้วก็ไหวพริบดีมาก ดูจากการพูดการจาอย่างฉะฉานก็รู้แล้ว แต่ผมว่าทางรายการเองก็คงมีส่วนพอสมควรทีเดียวแหละที่จะเทรนน้องหรือช่วยสนับสนุนฟอร์มรูปแบบให้น้องเขากลายเป็นเด็กอัจฉริยะขึ้นมา ซึ่งโดยรูปแบบของรายการมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เช่นให้ท่องจำ ให้ดูหน้าก่อนที่จะมีการบันทึกเทปแต่เราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วโจทย์หรือการบ้านตรงนี้ที่ให้น้องเดียวไปทำนั้นมันยากขนาดไหน มันเยอะขนาดไหน มันจะเป็นอย่างที่ในเว็บไซต์ที่เขาวิจารณ์กันว่ามันมีการเอื้อกัน ช่วยกันสุดๆ หรือเปล่า ไม่มีใครรู้ แต่น้องเขาก็เก่งนะที่เวลาเข้าสนามสอบจริงๆ การได้ไปยืนอยู่บนเวทีจริงๆ เขาสามารถควบคุมตัวเองและกองเชียร์ได้"
"แล้วอีกอย่างลองสังเกตว่าตั้งแต่ผ่านหน้าที่ร้อย มาร้อยกว่า ร้อยห้าสิบ ร้อยแปดสิบ ร้อยเก้าสิบ ประกอบกับมีการเซ็นสัญญาน้องเดียว ไปโฆษณา มีการออกหนังสือ มีข่าวว่าจะให้เล่นหนัง เล่นละคร หรือการที่ระยะหลังๆ มันเหมือนกับเป็นโชว์เป็นธุรกิจไปแล้วน่ะ เช่นเอาฟิล์ม รัฐภูมิเข้ามา เอาตลกหรืออย่างคุณแม่ของคุณปัญญาเข้ามา วันสุดท้ายที่อัดเทปนี่ก็มี โฟร์ - มด เข้ามา"
"คือมันเหมือนการตลาดไปแล้ว มันเหมือนกับเขียนบทไปแล้วไงว่าได้แน่นอน มันมีการให้ความคาดหวังกับเด็กที่สูงมาก ลองคิดดูแล้วกันว่าถ้าถึงขนาดนี้แล้ว เกิดตอนจบแบบที่เป็นน้องเขาผิดหวังขึ้นมามันจะเป็นอย่างไร? แต่ผมชื่นชมน้องเขานะ เก่ง เพียงแต่ว่าถ้ามันจบลงแค่นี้แล้วมันก็น่าเสียดาย ทุกรายการเด็กนั่นแหละ ถ้าเอาเด็กมาท่องเป็นนกแก้ว นกขุนทอง ตอบผิดก็พยายามบอกให้ตอบใหม่ให้ถูกเพียงเพื่อจะเอาใจเด็ก เอาเงินสปอนเซอร์มาให้ โดยที่เด็กไม่ได้เรียนรู้ถึงความผิดหวังหรืออะไรอย่างอื่นเลยมันก็ไม่เกิดประโยชน์"
"แต่อย่างน้องเดียวนี่เห็นได้ชัดว่าเก่งจริง ไหวพริบดี ช่างสังเกต รู้จักหลักในการว่าจะจำตรงไหนอย่างไร ตรงนี้ถ้ามันจะมาจากการที่น้องเขาเป็นเด็กอัจฉริยะจริงๆ หรือมีการสอนมาดี มันก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น"