xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.เผย หนัง "11 กันยา" เยียวยามากกว่าซ้ำเติม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"โอลิเวอร์ สโตน" ผู้กำกับจากภาพยนตร์สุดอื้อฉาวแต่เปี่ยมคุณภาพอย่าง Platoon และ JFK ออกมาเผยว่าผลงานชิ้นล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2001 จะเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาผู้คนที่มีความทรงจำที่เลวร้ายของเหตุการณ์ดังกล่าวมากกว่าจะเป็นการจุดชนวนความขัดแย้ง พร้อมเตรียมบริจาครายได้ 10 เปอร์เซ็นต์ในการออกฉาย 5 วันแรกเข้ามูลนิธิการกุศลอีกด้วย ตามรายงานจากรอยเตอร์

World Trade Center ภาพยนตร์ที่มีกำหนดฉายในวันที่ 9 ส.ค. เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในตึกแฝดที่กำลังจะถล่มลงในไม่กี่นาที

โดยตัวหนังจะไม่เน้นไปที่ความตายหรือการทำลายล้าง แต่จะเน้นไปที่ความหวังและการอยู่รอด ซึ่ง โอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับที่เคยผ่านสมรภูมิในสงครามเวียดนามมาแล้ว อยากจะให้แฟนหนังชาวอเมริกันหันกลับไปมองถึงการตอบสนองที่พวกเขาและสหรัฐมีต่อการจู่โจมในครั้งนี้

"เราพยายามที่จะบอกว่า 'กลับไปมองวันนั้นอีกครั้งดีๆ' ลบล้างอคติให้สิ้น แล้วหันกลับไปพิจารณามันใหม่ ผมคิดว่า สิ่งที่ปรากฎออกมาหลังจากการพินิจพิเคราะห์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากวันนั้นอย่างถี่ถ้วนแล้ว บางทีมันอาจจะช่วยแปรเปลี่ยนความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ เคียดแค้น และความเข้าใจผิดทั้งปวง ที่ผลข้างเคียงของมันก่อให้เกิดสงคราม หนี้สินของสหรัฐฯที่เพิ่มพูน เกิดสภาวะความหวาดกลัวไปทุกหย่อมหญ้า และเป็นที่มาของการล่มสลายทางสภาพสังคมทั้งหมด" สโตนอธิบายกับทางรอยเตอร์

โดยผลงานเรื่องนี้ได้นักแสดงระดับรางวัลออสการ์อย่าง นิโคลัส เคจ และ ไมเคิล เปนญา มาสวมบทบาทเป็น จอห์น แม็คลาฟลิน และ วิล ฆิเมนโน สองเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งตัวไปยังตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ หลังจากที่ได้รับแจ้งข่าวว่าหนึ่งในตึกแฝดถล่มลงมาหลังจากถูกเครื่องบินพุ่งเข้าชน ก่อนที่ทั้งสองจะไม่อาจหาทางออกมาจากตึกที่กำลังจะถล่มเป็นแห่งที่สองได้ทัน

ขณะที่ข่าวการช่วยเหลือพวกเขายังไม่คืบหน้า สองภรรยาที่รับบทโดย แม็กกี จิลเลนฮาล และ มาเรีย เบลโล ก็กำลังสิ้นหวังกับข่าวที่ทำให้คิดได้ว่าพวกเธอจะไม่มีวันได้เห็นหน้าพวกเขาอีกแล้ว

ข่าวการสร้างหนังดังกล่าว มีเสียงสะท้อนมาจากครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์หลายคนว่าเป็นเรื่องราวที่ปวดร้าวเกินไปที่จะรับชม และด้วยความละเอียดอ่อนดังกล่าว ทางผู้อำนวยการสร้างจึงไม่มีแผนที่จะใช้สื่อกลางแจ้งในการโปรโมตภาพยนตร์ในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์แม้แต่ชิ้นเดียว รวมทั้งจะนำรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์จากการเปิดตัว 5 วันแรกเข้ากองทุนการกุศลที่ตั้งขึ้นสำหรับเหตุการณ์ 11 ก.ย. โดยเฉพาะ

สเตซีย์ เชียร์ ผู้ร่วมอำนวยการสร้างของโปรเจ็กท์สุดสะเทือนใจชิ้นนี้เผยว่า มีทั้งเสียงคัดค้านและเสียงสนับสนุนที่น่าเชื่อถือต่อผลงานชิ้นนี้อย่างสูสีทีเดียว

"มันมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในหมู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ 11 ก.ย. ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่แสดงออกถึงอารมณ์อันละเอียดอ่อนและเหตุผลอันน่าเชื่อถือที่ไม่เหลื่อมล้ำกันเลย"

"ส่วนที่เห็นด้วยจะบอกว่า 'เอาความจริงมาเปิดเผยให้หมด แสดงให้เห็นว่ามันโหดร้ายแค่ไหน ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง' ส่วนกลุ่มที่แย้งก็ถามมาว่า 'ถ้าลูกๆ ของคุณถูกรถชนตายคาถนน คุณอยากให้ภาพเหล่านั้นโชว์ในข่าว 6 โมงเช้าไหมล่ะ?' ซึ่งมันเป็นความเห็นที่เต็มไปด้วยหลักการด้วยกันทั้งคู่ น่าเสียดายที่มันมาขัดแย้งกันเองในทางปฏิบัติ"

ขณะที่ผู้กำกับกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของตำรวจสองนายในเรื่องนี้ ตรงกันข้ามกับวิธีการเล่าเรื่องที่เขาใช้ในภาพยนตร์ระดับรางวัลออสการ์ที่สร้างชื่อให้เขาอย่าง Platoon ที่แสดงให้เห็นถึงนายทหารสองคนที่สภาวะในการเผชิญสงครามจริงๆ จะทำให้เกิดความขัดแย้งทางมโนสำนึกที่มีต่อสงคราม เพราะในเรื่องนี้ นายตำรวจทั้งสองที่ปฏิบัติงานในวันนั้นต่างภูมิใจกับหน้าที่ที่ตนได้รับอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทางจอห์น แม็คลาฟลินและวิล ฆิเมนโน สองวีรบุรุษตำรวจผู้รอดพ้นมหันตภัยดังกล่าว ได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับการสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้ด้วย

"ผมอยากจะทำมันได้อย่างถูกต้อง" เคจ หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องกล่าวต่อสื่อในระหว่างการโปรโมตผลงานล่าสุด "ผมไม่อยากจะทำให้จอห์น แม็คลาฟลินต้องผิดหวัง ไม่อยากจะทำให้ วิล ฆิเมโน ต้องผิดหวัง รวมทั้งทีมผู้ช่วยเหลือ ครอบครัวผู้สูญเสียและโอลิเวอร์ สโตนด้วย"

กัส แดนิส ประธานของกลุ่ม Port Authority Police Benevolent Association กล่าวต่อหนังสือพิมพ์เดลีนิวส์ว่าผู้คนที่ได้ชมมันส่วนใหญ่ต่างชื่อชมในผลงานดังกล่าว โดยเฉพาะฉากตอนที่ตึกถล่มแล้วทำให้ฝุ่นกลบไปทั้งเมืองที่ดูสมจริงอย่างมาก
นิโคลัส เคจและไมเคิล เปนญา
จอห์น แม็คลาฟลินและวิล ฆิเมนโน
โอลิเวอร์ สโตน กับงานสร้างกระแสตามถนัดชิ้นล่าสุด
ภาพผู้คนจากตึกเหนือที่รอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง
เศษซากแห่งหายนะ
กำลังโหลดความคิดเห็น