ขึ้นแป้นผู้จัดไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ "แอนดริว เกร็กสัน" พระเอกหนุ่มรูปหล่อที่ผันตัวมาเป็นผู้จัด โดยประเดิมละคร “สะดุดรัก” เป็นเรื่องแรก ซึ่งกำลังจะออนแอร์ต้นเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งที่ละครยังถ่ายไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ งานนี้ก็เลยเมาท์แหลกว่าเป็นลูกรักคนใหม่
ข่าวว่าแอนดริวใช้งบประมาณในการทำละครเรื่องนี้ค่อนข้างสูง เพราะใช้เวลาในการถ่ายทำนานเกือบปี แต่ช่อง 3 ก็ใจดีขยายงบให้เต็มที่ อย่างไรก็ตามก็ยังหวั่นว่าจะมีปัญหากับผู้จัดรายอื่น จนต้องมีการจับแอนดริวเซ็นสัญญาเพื่อให้รูดซิปเรื่องงบประมาณในการทำละคร
“ก็รู้สึกดีครับที่ละครได้ออกอากาศเร็ว แต่จริงๆ แล้วน่าจะเร็วกว่านี้นะ เพราะเราเตรียมงานกันเป็นปีแล้ว ใช้เวลาถ่ายทำ 7 – 8 เดือนก็ถือว่าใช้เวลานานเหมือนกัน พอได้ออกอากาศก็รู้สึกดีใจครับ ถามว่าตอนนี้พร้อมมากแค่ไหน ก็เรียกได้ว่าพอสมควร คงต้องถ่ายไปออกไป ตอนนี้ถ่ายได้ครึ่งเรื่องแล้ว คงต้องเร่งตัดต่อคาดว่าจะมีทั้งหมดประมาณ 14 – 16 ตอน”
ด้วยเหตุที่ละครได้ออนแอร์เร็วขนาดนี้ แอนดริวก็เลยถูกมองว่าเป็นลูกรักคนใหม่ของช่อง 3
“ถ้าไม่ได้มองในมุมผม มุมผู้จัดคนอื่นเขาก็มีละครที่ยังถ่ายไม่เสร็จได้ออนแอร์เหมือนกัน แต่ที่ผมได้ออกเพราะผู้ใหญ่ถามผมว่า พร้อมไหมจะได้ออก ผมก็เลยบอกออกพรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ ปากเก่ง(หัวเราะ) ก็เลยได้ออก เขาเป็นเจ้านายของเรา เขาถามเราว่าพร้อมไหม เราก็พูดไม่ออกว่าไม่พร้อมครับพี่”
ลงทุนเข้าไปคลุกในห้องตัดต่อทั้งวันทั้งคืน...
“ผมอยากจะช่วยดูทุกขั้นตอน อย่างขั้นตอนตัดต่อถึงจะมีคนที่ทำหน้าที่ตัดอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากจะเข้าไปเลือกภาพเอง อยากให้เรื่องออกมาแบบไหนก็บอกเขา มันเป็นสิ่งที่เราเริ่มทำมาตั้งแต่ต้น ก็อยากจะทำให้มันจบ ผมมั่นใจว่าผมทำเต็มที่แล้ว อะไรที่ไม่พอใจผมจะแก้ไขตลอด ตอนที่เล่นละครก็จะเอาใหม่เอาอีก ทำจนกว่าจะได้แค่นั้นแหละ ผมทำเต็มที่ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์คือความไม่พอใจซึ่งเป็นนิสัยของเราเอง”
“การเป็นผู้จัดให้อะไรกับผมหลายอย่าง แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้จัด มันเหมือนว่าเราคิดจะทำโปรเจ็กท์หนึ่งขึ้นมา มันเป็นงานเป็นกิจการของเรา ถ้าเราไม่ทำก็ไม่รู้ใครจะทำ แต่ยิ่งทำยิ่งสนุก ยิ่งเหนื่อยยิ่งยากยิ่งดี เพราะถ้าทำง่ายๆ กระจอกๆ แบบนั้นใครก็ทำได้ แต่ถ้าเราทำยากแล้วทำได้ก็ยิ่งดี เราสามารถผ่านงานหนักๆ มาได้มันก็โอเค”
งานนี้หนุ่มแอนดริวขอลุยคนเดียวแบบไม่ปรึกษาใคร เพราะต้องการพิสูจน์ฝีมือ เนื่องจากมีคนสบประมาทว่า ละครเรื่องนี้ยังไงก็ไม่เกิด
“เอาจริงๆ เลยนะ ผมไม่ได้ปรึกษาใครเลย ลุยคนเดียวเลย ไม่ได้มั่นใจเลย แต่คิดว่าจะกลัวอะไร อยากได้วิชามันก็ต้องมีโดนกันบ้างแหละ ลุยเองเลย เจออะไรก็เจอ โดนอะไรก็โดน ก็เข้าใจนะว่ามีคนจับตามอง บางคนก็บอกว่าน่าจะดี บางคนก็สบประมาททำไม่ได้หรอก ทำไม่เกิดหรอก แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร ผมก็เข้าใจมันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่คิดอะไรมาก คิดแต่ว่าเราต้องทำงานออกมาให้ดีที่สุด ผมไม่รู้สึกกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่กดดันภายในใจจิตใจเรามากกว่า”
ยอมรับงบบานปลายเพราะใช้เวลาในการถ่ายทำนาน....
“ลงทุนเยอะเหมือนกัน แต่บอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ มีการเซ็นสัญญาห้ามไม่ให้ผมพูดเรื่องนี้ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนใช้เงินไม่เปลืองนะ แต่ด้วยงานมันใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายมันก็บานตามไปด้วย ก็เรียกว่าเกินไปเยอะเหมือนกัน สำหรับละครเรื่องนี้ผมคาดหวังอยากให้สนุกและคนดูชอบก็โอเค ถามว่ามั่นใจไหม ถ้าถามผม ผมไม่กล้าพูด แต่เท่าที่ฟังจากคนรอบข้าง ได้ยินจากคนรอบข้าง เขาบอกว่า ค่อนข้างมันใจ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง ถ้าบอกว่าเปรี้ยงแน่ก็ไม่ได้ เพราะหลายๆ อย่างที่คาดการณ์ไว้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป”