คู่ชีวิต "ดร.อภิวัฒน์" เผยฉากสุดท้ายสามีสุดเข้มแข็ง

คู่ชีวิตดร.อภิวัฒน์ พิธีกรชื่อดังรายการ "คนค้นฅน" สุดเข้มแข็ง ลั่นจะร้องไห้แต่น้อย เผยสามีเข้มแข็งกระทั่งหมดลมหายใจ ด้านลูกสาวลูกชายเข้มแข็งไม่แพ้แม่ ฝากบอกพ่อไม่ต้องห่วงจะดูแลตัวเองอย่างดี...

จากไปอย่างไม่มีวันกลับสำหรับคนทีวีคุณภาพคนหนึ่งของวงการ “ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร” (วรฑา วัฒนะชยังกูร) หนึ่งในผู้บริหารค่ายเจเอสแอลฯ และพิธีกรรายการ "คนคันฅน" ในช่วงเช้าของวันนี้(27) ณ โรงพยาบาลศิริราชหลังนอนต่อสู้กับอาการป่วยจากโรคมะเร็งมานานร่วม 2 เดือน

ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา “นางอทิตา วัฒนางกูร” คู่ชีวิตของ ดร.อภิวัฒน์ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการพร้อมด้วยลูกชาย (เพชร ภาคิน) และลูกสาว (แพรว กวิตา) เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนสามีสิ้นใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โดยทั้งหมดต่างยอมรับว่าแม้จะมีการทำใจไว้บ้างแล้วแต่ก็รู้สึกใจหายเพราะเพิ่งฉลองวันเกิดให้กับสาทีไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เผยสามีเข้มแข็งมากๆ

“หัวค่ำก่อนที่พี่เต้ยจะเสีย พี่เต้ยเริ่มหายใจแย่ลง พี่เต้ยเหนื่อย แต่ตอนกลางวันยังทานอาหารได้เหมือนคนปกติ ทานข้าวกับปลาเป็นเรื่องเป็นราว ตอนบ่ายก็ทานอาหารเสริม ซึ่งก็คือนม พี่เต้ยก็ยังทานได้อยู่ แต่พอตอนเย็นเริ่มมีอาการหายใจไม่ทัน หมอเลยให้ดมออกซิเจนเป็นท่อครอบจมูกเอาไว้ แต่ดมได้นิดเดียวพี่เต้ยก็บอกไม่เอาแล้ว ไม่ชอบ ก็เอาออก"

"แล้วตอน 3 ทุ่ม พี่สะใภ้ของพี่เต้ยก็มาเยี่ยมเขาก็ยังคุยเล่นกันอยู่เลย พี่เต้ยยังบอกว่าให้กลับบ้านเถอะ ผมรักพี่นะ คุยธรรมดามากๆ แต่ดูพี่เต้ยเหนื่อยมาก พอตอนเที่ยงคืนพยาบาลก็มาขยายหลอดลมให้ เพราะดูพี่เต้ยเนี่ยไม่ค่อยไหวแล้ว ตอนรุ่งเช้าตอน 6 โมงเช้า คุณพ่อคุณแม่พี่เต้ยก็มา ซึ่งก็มาเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว"

"คุณหมอก็เข้ามาวัดความดัน ปรากฎว่าความดันตกซึ่งก็หมายถึงใกล้แล้ว พี่ก็เลยโทรตามทุกๆ คน ที่พี่เต้ยสนิท ตามลูกๆ เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบ พี่เต้ยจากไปตอน 7 โมง 46 นาที จากไปอย่างสงบ พี่เต้ยอดทนมาก พี่เต้ยเข้มแข็งเสมอ เราสองคนจะคุยกันตลอดและมีการเตรียมใจกันไว้แล้ว”

“จริงๆ อาการแบบนี้ความดันต้องตก แต่ที่ผ่านมาพี่เต้ยไม่ตกเลย คือ 110 - 70 ตลอด ความดันปกติมาก แค่นี้หมอเขาก็งงแล้ว อย่างเวลาคุยกับหมอพี่เต้ยยังคุยกับหมอรู้เรื่อง เวลาหมอมายังเป็นคนยกเก้าอี้ให้หมอนั่ง เขาเป็นสุภาพบุรุษ มันคือตัวพี่เต้ยเลย เขาจะเป็นคนชอบดูแลเทกแคร์เสมอ...(เสียงสั่นเครือ)”

วินาทีก่อนจะไปได้พูดอะไรกันบ้างมั้ย?
“ไม่ได้พูดอะไร แต่พี่เขาก็ไม่ได้ทุรนทุราย พี่เต้ยไปด้วยอาการสงบจริงๆ มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนเหมือนเดิม ไม่ได้คิดว่าพี่เต้ยจะไป อาการคิดแค่ว่าพี่เต้ยเหนื่อยมากเท่านั้นเองในช่วงตอนกลางคืน

"ก่อนหน้านี้คือพี่เต้ยเกิดวันที่ 23 มิถุนายนก็เพิ่งจะมีจัดงานเป่าเค้กจัดงานวันเกิดกันที่นี่(ห้อง1603 ศิริราชพยาบาล) และเราได้นิทนต์พระมาถวายสังฆทานที่นี่ด้วย แล้วลูกๆ ก็เอากีต้าร์ตัวโปรดของพี่เต้ยมาเล่นให้ฟังบางทีก็มีลูกๆ ของเพื่อนเอากีต้าร์เอากลองมีตีมาร้องเพลงให้ฟัง ซึ่งพี่เต้ยก็มีความสุข และแฮปปี้มาก พี่เต้ยพูดมาโดยตลอดว่าพี่พร้อมที่จะจากไปได้นะ เพราะพี่ได้ทำคุณงามความดีมาในชีวิตมาโดยตลอดแล้ว และถ้าพี่เต้ยหายพี่เต้ยเขาอยากจะบวชเพื่อทำนุบำรุงศาสนาเป็นคนดีของสังคม"

ในส่วนของพิธีศพ ในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.00 น. ณ ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นระยะเวลา 7 วันหลังจากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วันโดยนางอทิตากล่าวว่าอยากให้แขกที่มาร่วมงานงดพวงหรีดด้วยการให้เงินร่วมทำบุญกับมูลนิธิของศิริราชมากกว่าเพราะเชื่อว่าสามีจะได้บุญเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมทั้งเปิดใจว่าดร.อภิวัฒน์เป็นสามีที่ประเสริฐที่สุด ยืนยันจะไม่ร้องไห้เยอะเพราะลากันมานานแล้ว

“พี่เต้ยเป็นสามีที่ดีมากเป็นสามีที่ประเสริฐมาก ยอมรับว่าพี่เป็นคนทำอะไรไม่เป็น แล้วพี่เต้ยจะเป็นคนทำให้ทุกอย่าง พี่เต้ยก็จะซักผ้าให้ภรรยา กับข้าวกับปลาก็ทำดูแลหมด ลากันมานานแล้วเพราะฉะนั้นจะไม่ร้องเยอะ เราเตรียมใจกันไว้แล้ว พี่นั่งบนโซฟา แล้วพี่เต้ยแกนอนหนุนตัก (โซฟาในโรงพยาบาล) แล้วเขาก็พูดขึ้นว่าพี่รักน้องนะ ถ้าเรามีโอกาสที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอีกก็จะตั้งมั่นทำความดี”

“อยากทำบุญครั้งสุดท้ายให้พี่เต้ย ด้วยการที่ว่าของดพวงหรีดจะขอเป็นเงินมาทำบุญเพื่อจะมอบให้ศิริราชมูลนิธิ อยากจะตั้งเป็นกองทุนขึ้นมาในนามพี่เต้ย และมอบให้ศิริราชมูลนิธิ เพราะ 2 เดือนที่เราอยุ่ที่นี่ เราได้รุ้ว่าเวลาที่พี่เขาได้เลือด หรือได้รับเครื่องมือดีๆ หรือการรักษาดีๆ มันก็มาจากคนที่เขามาบริจาคก็เลยอยากทำตรงนี้ตอบแทนคืนบ้าง อยากให้พี่เต้ยได้ทำบุญครั้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนที่พี่เต้ยไม่สบายนั่งรถเข็น พี่เต้ยก็ได้ไปบริจาคให้ศิริราชมูลนิธิเหมือนกัน โดยให้ลูกเข็นรถพาไป คิดว่าพี่เต้ยจะได้รับบุญครั้งสุดท้ายนี้ด้วย”

ด้าน “น้องแพรว กวิตา” ลูกสาวอายุ 19 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย เผยสั้นๆ ถึงพ่อว่า...
“อยากให้พ่ออยู่นานๆ บอกพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ เพราะแพรวโตแล้วดูแลตัวเองได้แล้ว พ่อไม่ต้องห่วง”

สำหรับผลงานชิ้นสุดท้ายในรายการคนค้นฅนของดร.อภิวัฒน์ นั้นออกอากาศเมื่อวันที่25 เมษายน ชื่อตอน "บทเรียน" ส่วนผลงานล่าสุดงานเขียนหนังสือชื่อ “มองชีวิตผ่านมะเร็ง” ซึ่งพิมพ์ครั้งที่ 5 โดยจะมีการเพิ่มเติมบันทึกคำส่งท้ายที่ดร.อภิวัฒน์เขียนไว้ว่า “ผมไม่ได้ยินดีที่จะตาย แต่พร้อมจะตาย” ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้อ่านจำนวนมาก
..........
ประวัติส่วนตัว
ดร.วรฑา วัฒนะชยังกูร
อายุ 49ปี
เกิด 13 มิ.ย.2500
ถึงแก่กรรม 27 มิ.ย. 2549 เวลา07.46น.
บิดา เรืออากาศตรี อาชีพ วัฒนางกูร
มารดา นาวาอากาศเอกหญิง พูนศรี ทองปรีชา
มีน้องชาย 1 คน นาวาอากาศตรีอัษฎาวุธ วัฒนางกูร (กัปตันสายการบินไทย)
สมรัสกับ นางอทิตา วัฒนะชยังกูร (เดิมชื่อ กมลนาท สุมาวงศ์)
บุตร 2 คน นางสาวกวิตา (แพรว) วัฒนะชยังกูร อายุ 19 ปี
นายภาคิน (เพ็ชร) วัฒนะชยังกูร อายุ 17 ปี

ประวัติการศึกษา
พ.ศ.2521 ครุศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ็มหาวิทยาลัย
พ.ศ.2523 Master of Education (Edducational Management and Supervision) Loyola Collage ,Baltimore,Maryland,USA
พ.ศ.2527 Doctor of Education Education Administration)
Oklahoma State University,Stillwater,Oklahoma,USA

ประวัติการทำงาน
พ.ศ.2527 อาจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พ.ศ.2528 หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พ.ศ.2532 ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พ.ศ.2537-2549 รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจเอสแอล จำกัด

งานพิธีกรรายการโทรทัศน์
พ.ศ.2546-2549 พิธีกรรายการ “คน ค้น ฅน” ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์
พ.ศ.2542-2543 พิธีกรรายการ “ถูกใจใช่เลย” ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
พ.ศ.2532-2542 พิธีกรรายการ “จันทร์กะพริบ” ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
พ.ศ.2543 พิธีกรรายการ “Gent Request” ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
พ.ศ.2536-2548 พิธีกรรายการสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ อาทิ ไฟฟ้าน่ารู้คู่บ้าน คนรักหนัง เพื่อนหนังสือ คู่มือสื่อสาร ร้อยพันปัญหาโรคผิวหนัง เปิดโลกเอกสาร ฯลฯ
พ.ศ.2540 พิธีกรรายการ “Business Variety” ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
.....
มะเร็งคร่าพิธีกรเหล็ก "คนค้นฅน"