หากมีการจัดอันดับนักบรรยายกีฬาฟุตบอลของบ้านเราโดยวัดเอาจากคุณภาพของการทำงานเป็นเกณฑ์ เชื่อแน่ว่าชื่อของนักพากย์อย่าง "เอกราช เก่งทุกทาง" จะต้องได้รับการพูดถึงในระดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
จากที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของคนกีฬากับการทำหน้าที่ทางเคเบิ้ลทีวี มาระยะหลังนี้เองจากการที่ได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ร่วมกับ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" บอกเล่าเรื่องราวข่าวคราวในแวดวงกีฬาผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ดูเหมือนว่าความเป็นธรรมชาติของเขาจะได้ใจคนดูทีวีไปเยอะทีเดียว
นอกจากเรื่องของกีฬาแล้ว เชื่อเหลือเกินว่าน้อยคนที่จะได้สัมผัสในแง่มุมชีวิตในมุมอื่นๆ ของเขาโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของความรัก (อาจจะมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ กับการแอบหยอดผู้ดำเนินรายการหญิงที่ทำหน้าที่ร่วมกัน)
ช่วงฟุตบอลโลกเช่นนี้เห็นการทำหน้าที่บรรยายเกมของเจ้าตัวบ่อยๆ ทางหน้าจอหลายคนอาจจะมีอาการเบื่อ วันนี้เราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศดูกันว่าความรักในใจของผู้ชายคนนี้จะเป็นเช่นไรบ้างดีกว่า?
"ความรัก" ในมุมมองของผู้ชายที่ชื่อ "เอกราช เก่งทุกทาง" เป็นอย่างไร?
"พูดไม่ออกเลย ความรักมันควรอยู่ในความเป็นจริง แล้วก็อยู่ในความรู้สึกร่วมของทั้งคู่คือความรักที่ล้มเหลวเนี่ยในความรู้สึกคิดว่ามันมาจากฝืนความเป็นจริง ประเภทที่ว่าซื้ออนาคตวันหนึ่งเราจะเปลี่ยนเขาได้ พยายามที่จะเก็บอะไรไว้ในใจ"
"มันเหมือนระเบิดเวลาความรักสำหรับพี่ถ้าจะให้เป็นความรักที่ดีมันต้องเป็นความรักที่มีโลกใบนึงอยู่ตรงกลาง บางทีต่างคนต่างมาแล้วมันก็เหมือนต่างคนต่างมีโลกของตัวเอง ถ้าจะให้มีความสุขมันต้องมีเวลาร่วมกันมาแชร์กัน"
เคยผิดหวังในรักบ้างไหม?
"มันก็เคยมีบางกับความรักที่ไม่ประสบผลสำเร็จ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็ต้องมีสิความรัก แต่มีใครอยู่หรือเปล่าไม่บอกหรอก พี่อยู่กับความเป็นจริงมันใช่หรือไม่ใช่มันพูดลำบาก คือตอนนี้พี่อยู่คนเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราปฎิเสธความรัก มันเป็นแรงขับอย่างนึงที่จะทำให้เราทำอย่างอื่น"
"ใครจะเข้าถึงตัวนี้ง่ายเลย คือจะมองความรักไม่ได้เป็นนามธรรม มันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ แล้วก็คือคน 2 คนที่มาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องคุยกันรู้เรื่อง ความรักมันเหมือนลอยๆ ว่าไหมมันคือความรัก แต่ในความเป็นจริงแล้วคือมันต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ใช่คบกันแค่ผิวเผิน"
"เวลาคบใครสักคนมันก็ต้องมองถึงอนาคต คือรักไปลอยๆ คงไม่ไหวมันต้องมีอนาคต แล้วอนาคตจะเกิดมันก็ต้องมีความรู้สึกร่วมของคน 2 คน ก็มีคนที่ดูไปเรื่อยๆ มองถึงอนาคตว่ามันจะอยู่ด้วยกันได้ไหม แต่ไม่อยากบอกว่าเป็นใครอย่างไงเพราะคนเรามันก็อยากมีอะไรที่เป็นส่วนตัวบ้างในบางมุม"
แล้วจะรู้ได้ไงว่าคนไหนที่ใช่?
"เมื่อไหร่ที่จะบอกได้ว่าคนนี้ใช่หรือไม่ใช่สำหรับเราคงต้องดูที่นิสัยใจคอ ความรู้สึกนึกคิดอะไรพวกนี้ อย่างที่บอกว่าอย่าไปฝืนมันคิดกันคนละแบบ มองโลกกันคนละมุม ถ้าไปใช้ชีวิตด้วยกันแล้วมันจะอึดอัด มันจะไม่มีความสุขในชีวิตคู่แน่นอน ถ้าอยู่กับคนที่มองอะไรคล้ายๆ กัน มีคาแร็กเตอร์ใกล้เคียงมันน่าจะไปด้วยกันได้ดีกว่า มันต้องมีจุดร่วมกันอยู่"
"ชอบผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่ใช่อีเหละเขะขะ คือต้องเป็นคนที่จริงจังในชีวิตบ้าง แล้วก็เป็นคนที่เห็นคุณค่ากับชีวิตในแต่ละวัน อนาคตข้างหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงวางไม่ได้ ไม่ได้วางอะไรก็ไม่รู้ว่าชีวิตต่อไปจะเจออะไรเปิดกว้างเอาไว้ ถ้าเจอใครถูกใจเหมาะสมกับเราก็จะรู้เอง"
ดูใจจอเป็นคนขี้เล่น หยอดพิธีกรสาวๆ ไปทั่วไม่กลัวคนมองเจ้าชู้หรือ?
"ที่จริงแล้วพี่เป็นคนจริงจัง ไม่ใช่คนที่สนุกสนานอะไรมากมาย ออกจะขี้เหงาด้วยซ้ำไป เห็นหน้าจออาจจะสนุกสนานหยอดคนอื่นไปทั่วคนอาจจะมองว่าเจ้าชู้ คือมันก็ต้องทำความรู้จักกัน อย่างนั้นจะรู้ได้ไงว่าแต่ละคนมีนิสัยเป็นอย่างไงมันก็ต้องลองคบกัน"
"วิธีจีบผู้หญิงจีบผู้หญิงเป็นซะที่ไหนละ แค่คุยกันเข้าไปทำความรู้จักสักพักตัวตนมันก็จะออกแล้ว ถ้าคือใช่มันก็ใช่คือตัวเราจะเผยธาตุแท้ตั้งแต่วันแรกเลย ไม่ต้องไปทำฟอร์มอะไรก็เป็นของเราอย่างนี้แหละเขาจะได้รู้ ไม่ใช่มาฟอร์มใส่กันมันก็จะเสียเวลาไปเปล่าๆ"
อกหัก?
"เรื่องอกหักก็ต้องเคยอยู่แล้ว อย่างพี่ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปหาใครได้ง่ายๆ อยู่แล้วรูปร่างหน้าตาไม่ได้หล่อเหลา คนที่เข้ามาคบด้วยต้องมองที่ลึกลงไปกว่านั้นที่เป็นตัวตนจริงๆ ต้องมองจากนิสัยใจคอ อย่างเวลาอกหักมันคงไม่มีเวลาอย่างสมัยเด็กๆ มันก็คงตามประสาเด็ก แต่ตอนนี้มันก็คงไม่ได้อะไรเท่าไหร่มันไม่ได้ไปฝืนถ้าดูแล้วไม่เหมาะกับเราอยู่กันเราไม่มีความสุข ก็ไม่อยากคิดมาอะไรเราไม่ใช่เด็กๆ ก็ต้องมองถึงอนาคต"
มองเรื่องการมีครอบครัว(อีก)มั้ย?
"พี่ก็เคยมีครอบครัวมาแต่ก็แยกออกมา 4 ปีแล้วที่มาอยู่คนเดียวถึงได้ระวังไง บางทีเรื่องรูปร่างหน้าตามันก็เป็นเรื่องฉาบฉวยมันก็เป็นธรรมชาติของคนเวลาเข้าไปหาใครอาจจะมองตรงนี้ก่อน แต่สิ่งสำคัญมันก็คืออยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า สิ่งที่อยู่ข้างในสำคัญกว่าเรื่องนิสัยใจคอต้องประกอบกันด้วย"
"ตอนนี้มันก็เหงาคือด้วยชีวิตด้วยงาน มันก็ควรจะมีใครเข้ามาดูแลพูดตามตรง ทำคนเดียวมันก็เหนื่อยมากมีอะไรก็กินคนเดียวหมด ช่วงบอลโลกมันจะยุ่งก็ไม่ไหวต้องทำเองเรื่องจุกจิก ถ้ามีคนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระมันก็จะดี แต่มันก็ต้องเลือกเหมือนกันถ้ามีใครเข้ามาในชีวิตมันต้องมีความสุข ต้องดูให้ดีว่าจริงใจแค่ไหนไม่นานมันก็รู้"