แค่เรื่องของความรักผู้ชายกับผู้ชาย "พจน์ อานนท์" ไม่สนข้อครหาทำหน้งเกย์ทำลายภาพพจน์ตำรวจไทย เดินหน้าถ่าย "เพื่อน...กูรักมึงโว้ย" ต่อ ยืนยันไม่ทำให้ใครเสียหายและไม่ระบุว่าใครเป็นใคร ก่อนแนะนำสังคมไทยต้องเปิดกว้างมากกว่านี้
แค่เริ่มต้นฮือฮาซะแล้วสำหรับหนังรักร่วมเพศ “เพื่อน...กูรักมึงโว้ย” ของผู้กำกับฝีปากกล้า “พจน์ อานนท์” ซึ่งนำเสนอเนื้อหาความรักระหว่างผู้พิทักษ์สันติราษฎ์กับโจรหนุ่มกระทั่งกลายเป็นข่าวขึ้นมาอันเนื่องมาจากช่วงเวลาดังกล่าวมีข่าวอื้อฉาวของนายตำรวจในลักษณะเดียวกันกระทั่งมีข่าวตามออกมาว่าทางกรมตำรวจให้ยุติการถ่ายทำ อย่างไรก็ตามแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงความเหมาะสม ทว่าในส่วนของผู้กำกับก็ยืนยันที่เดินหน้าถ่ายทำหนังเรื่องนี้ต่อไป
ก่อนแนะนำสังคมไทยต้องเปิดกว้างมากกว่านี้
“มันเป็นเรื่องราวของตำรวจหนุ่มกับมือปืนที่มาเจอกัน แล้วเกิดความเห็นอกเห็นใจกัน จนกระทั่งมันเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ที่สองคนมีให้กัน เราไม่ได้เจาะจงหรือบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับนายร้อยตำรวจอย่างที่เป็นข่าว มันเป็นชีวิตจริงของกลุ่มคน ที่ความรักสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกอาชีพโดยไม่มีการแบ่งเพศ”
“สังคมไทยต้องยอมรับส่วนนี้ มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นและมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่มันเป็นสิ่งที่คนในสังคมยังไม่ให้การยอมรับมากกว่า จนทำให้คนกลุ่มนี้ต้องปิดบังตัวเองไม่กล้าเปิดเผย ซึ่งจะต่างกับเมืองนอกที่เขาค่อนข้างเปิดกว้างพอสมควรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่ด้วยวัฒนธรรมของคนไทยมันคงต้องใช้เวลาหน่อยในการที่จะทำใจยอมรับได้”
ขอแจง ข่าวลือ โดนกรม “ตำรวจ”รวมตัวคัดค้านเนื้อหาหนังไม่เหมาะสม ทำตำรวจเสียหาย ตนยังไม่ทราบเรื่องแต่มั่นใจหนังไม่ทำร้ายใคร และไม่ได้มีฉากเลิฟซีนเดือดอย่างที่เป็นข่าว
“ผมยังไม่ทราบครับ ไม่เห็นมีอะไรหรือมีหนังสือมาถึงผมเลย ข่าวเขียนกันไปเองมากกว่า เพราะอย่างที่บอกหนังผมมันเป็นแนวโรแมนติกดราม่า มันเป็นหนังความรัก ที่สำคัญมันคือความจริงที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ในเรื่องต้องมีฉากเลิฟซีนแน่นอน แต่ไม่ได้สื่อถึงเรื่องเพศสิ่งที่เราพยายามนำเสนอคือความสวยงามของเรา ไม่ได้มีการกอดจูบ ฟัดกันขนาดนั้น เลยไม่รู้ว่าใครจะมาประท้วงอะไรผม”
“ที่สำคัญเรื่องนี้ผมใช้นักแสดงใหม่ทั้งหมด ไม่ได้เอาตำรวจมาเล่น เราไม่ได้เน้นขนาดนั้น ไม่ได้จี้ว่าไอ้นี่เป็นตำรวจๆ สิ่งที่เราต้องการนำเสนอคือเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเท่านั้น เดี๋ยวก็มีข่าวอีกว่าผมไม่ใช้นักแสดงมืออาชีพเพราะกลัวเป็นข่าวอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ที่ไม่ใช้นักแสดงมืออาชีพต้องการความสดใหม่”
เมื่อถามถึงความล่อแหลมของเนื้อหาหนังที่ไม่เข้าตาอาจทำให้ “เจ๊เบียบ ระเบียบรัตน์”ส.ว. ขอนแก่นต้องลุกขึ้นมาร่วมต่อต้านอีกคนเนื่องจากขัดต่อวัฒนธรรมของไทย เจ้าตัวพร้อมชี้แจงหากมีกรณีดังกล่าว
“จะมีเหรอ (หัวเราะ) คือท่านส.ว.นี่ผมเข้าใจนะหลายอย่างที่ท่านเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ออกมาต่อต้าน แต่อย่างหนังของผมไม่ได้เกี่ยวกับผู้หญิงนี่ครับ ไม่ได้พูดหรือทำอะไรที่ดูถูกผูหญิงหรือนำพฤติกรรมผู้หญิงมาประจาน เพราะนั้นไม่มีเหตุผลที่ผมจะกลัวโดนแบน”