มาบันทึกเทปเป็นแขกรับเชิญในรายการ "เดอะ ไอคอน" ของ "ดู๋ สัญญา คุณากร" นอกจากพระเอกตลอดกาลของไทย "สมบัติ เมทนี" จะพูดถึงเรื่องราวของการเรียน การเมืองแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ดูจะเป็นสีสันอย่างมากก็คือการที่เจ้าตัวได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ในการแสดงของตนโดยเปิดเผยอย่ายอมรับว่าเคยมีบ้างเหมือนกันระหว่างที่เล่นฉากเลิฟซีนแล้วเกิดอารมณ์ปรารถนาตามประสาชายชาตรีขึ้นมาจริงๆ...
“ยอมรับว่าเคยเกิดอารมณ์แต่ระงับได้ เรื่องมันมีอยู่ว่า...จะเล่าให้ฟังว่าทำไมทำได้ ตอนเล่นหนังเรื่องเล็บอินทรีย์ อาได้เล่นหนังกับดาวโป๊คนหนึ่งซึ่งเก่งฉกาจมากคนนี้ เขาเป็นดาวโป๊รุ่นเดียวกับคุณปรียา รุ่งเรือง เขาจะใส่เสื้อซีทรูขับรถมาที่กองถ่ายเลยนะคือเตรียมตัวมาพร้อมถ่ายเลย เห็นหมดเลยนะ แต่มีกางเกงในใส่ไว้ พอเห็นแล้วอาก็ โอโหตุ๊ย(ชื่อเล่นดาวโป๊) เล่นแบบนี้เลยเหรอ เขาก็ว่ามันเย็นสบายดีพี่"
"ทีนี้ตัวเรากิ่มรู้สึกแล้ว อึ๊มแล้ว ทีนี้ตุ๊ยเขาเป็นคนค่อนข้างโผงผางปากไว พูดตรง อย่างมีผู้ชายที่เคยเล่นกับเขามีบทต้องเล่นเอาตัวไปนาบขา แล้วตุ๊ยเขาจะเห็นความผิดปกติของผู้ชายชัดตุ๊ยเขาจะพูดว่า...แหมประสาทอ่อนจริง แค่นี้ก็รู้สึกแล้ว..."
ด้วยความที่กลัวถูกแซวนั่นเองเป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องรีบหาวิธีการ "สยบ"
"ตอนนั้นอากลัวมาก กลัวเจอคำนี้ อาก็เลยเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ ทำอะไรรู้มั้ย ดึงขนหน้าแข้งตัวเอง ไม่ลงโว้ย ไม่ลง ทำไงดี เสียงข้างนอกก็มาแล้ว...พี่แอ๊ดเสร็จยัง...เราก็ เดี๋ยวๆๆ...เสียงข้างนอกก็ว่า...สงสัยรู้จะเล่นบทรักขี้เลยแตก...เราก็นั่งด่าตัวเองโธ่เอ๊ยระงับอารมณ์แค่นี้ก็ไม่ได้ สงสัยไม่ไหวแล้วมั้งเรา เสียงข้างนอกก็ยังดังอยู่...พี่แอ๊ดเสร็จยัง พร้อมแล้วนะ..."
"สักพักถึงสงบ ทีนี้โอเคเลย หลังจากนั้นต่อให้เห็นแค่ไหนก็ไม่รู้สึก อีกอย่างคืออาเห็นดาวยั่วมาเยอะ อกแต่ละคน..สวย แต่พอตอนหลังมาเห็นจะๆ ก็ไม่รู้สึกแล้ว ระงับเลยแหละ เลยไม่มีปัญหาแบบครั้งแรกเกิดขึ้นอีก"
เป็นประสบการณ์เลิฟซีนชวนเสียวและหน้าแตกครั้งแรก-ครั้งเดียวในอดีตของรุ่นใหญ่ ซึ่งเมื่อลองเลียบๆ เคียงๆ ถามเรื่องในทำนองนี้ไปยังดาราชายรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ต่างยืนยันเหมือนกันว่าอารมณ์และลีลาทุกอย่างนั้นเป็นไปตามบทบาทที่กำหนดไว้เท่านั้น
เริ่มกันตั้งแต่หนุ่ม "เคน ธีรเดช" ขวัญใจของ "หน่อย บุษกร" ที่บอกว่า...
"คือจริงๆ ผมว่าเลิฟซีนมันจะเป็นอย่างไรเนี่ยมันขึ้นอยู่กับบทมากกว่าที่จะกำหนดว่า เราต้องเล่นหวือหวา น่ารัก เซ็กซี่ อย่างในเรื่องอุ้มรักเนี่ยมันดูแบบว่าออกมาน่ารักมากกว่าหวือหวา เราก็เล่นให้มันเป็นไปทำนองนั้นได้ ถามว่าแบบเซ็กซี่เล่นได้มั้ย เล่นได้นะ สำหรับผมไม่มีเทคนิกนะ แต่เวลาเล่นก็จะไม่นอกบท และก็ฟังผู้กำกับบอกว่ามันใช้ได้หรือยัง พอแล้วหรือว่ายังไม่ได้ คือเขาจะชี้นำเราได้ว่ามันจะมากจะน้อยอย่างไร แล้วก็ต้องเข้าใจบทว่าที่เล่นนั่นน่ะมันตรงกับที่บทเขียนไว้หรือเปล่า เพราะอย่างบางคนเราต้องรู้ว่าเขาเล่นได้หรือไม่ได้แค่ไหน"
ถามว่าเข้าฉากแบบนี้แล้วเคยเกิดอารมณ์กระเจิงหรือไม่ หนุ่มเคนหัวเราะเขินๆ บอกว่าไม่เลยเพราะรู้สึกว่าเป็นงานตลอด
"(หัวเราะ)...แหมมันมีแบบนั้นด้วยหรือพี่ คือผมไม่เป็นนะ ผมเล่นแล้วไม่เคยมีอารมณ์นะ..(หัวเราะ) มันคิดว่าเป็นงานตลอดไง แล้วส่วนใหญ่คนที่เล่นด้วยก็คือเพื่อนๆ กัน สำหรับผมมันเหมือนเราทำให้เขาเชื่อใจเรา ผมไม่พยายามไปทำเกรงใจเขา เพราะไม่อยากให้ฝ่ายหญิงเขาเข้าใจว่าเรารังเกียจเขา เราจะนิ่งๆ มากกว่า พยายามไม่ทำให้เขาไม่สบายใจ ผ่อนคลายด้วยอารมณ์ขัน อย่าไปซีเรียสกับมันมาก ในความรู้สึกมันก็คืองานน่ะครับ ไม่มีเกินนะ...(หัวเราะ)"
"อย่างเรื่องจับผม จับมือ จับแขน ทะนุถนอมมันดูไม่น่าเกลียดเราก็ทำได้ ไม่ต้องถามใคร แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปจูบปากเขาเลยมันก็ไม่ได้ใช่มั้ย คือมันน่าเกลียดไปก็อย่าทำ อะไรที่มันเกินขีดมันก็ไม่น่าจะให้เกิด อย่างที่บอกแหละครับ ถ้ามันเป็นการสัมผัสที่สุภาพไม่ลวนลามเขาจนเกินไปก็เล่นได้เลย”
ตอนเล่นฉากกุ๊กกิ๊กส่วนใหญ่คิดอะไร?
"มันก็คิดแต่ในบทนะ ผมมีพี่สาวด้วยมั้งเลยรู้ว่าแค่ไหนมันเกินไป"
นักแสดงรุ่นใหม่อีกคนอย่างนาย "โน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ" ที่พลิ้วไหวเหลือเกินกับการเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกับสาว "ป๊อก ปิยธิดา" ในละครเรื่อง "โม่งแดง" บอกว่าวิธีการไม่ให้ภาพของการเข้าฉากเลิฟซีนดูเกินเลยก็คือการพยายามคุยกับคู่ที่จะแสดงด้วยก่อนเพื่อกำหนดขอบเขตของการเล่น พร้อมกับยืนยันว่าสำหรับตนแล้วส่วนใหญ่ไม่มีนอกบทอย่างแน่นอน
"ไม่ถึงขนาดนอกบทนะ แต่ยอมรับว่าเล่นฉากกุ๊กก๊กมันต้องอินก่อนอันดับแรก อินให้มันเข้ากับเรื่องแล้วรู้จักกับตัวละครตัวนั้นก่อนว่า เออ..เขารักกันประมาณไหน รักมากหรือรักน้อย เรื่องหลุดหรือนอกบทไม่ค่อยมี แต่ก็มีบ้างเขินๆ ก็มีบ้างที่หัวเราะ ก็ใช้วิธีการเล่นกันก่อนนอกจอ ไม่มีปัญหานะ"
"ส่วนใหญ่ไม่เกินนะเพราะว่ามันคือการแสดง อย่างที่เล่นกับพี่ป๊อกในโม่งแดงก็ถือว่าเยอะนะ แค่กะให้ถูกว่ารักกันมากแค่ไหนผมว่าก็พอแล้วนะ แล้วก็เล่นไปตามนั้นที่เข้าใจ บอกตัวเองว่ารักผู้หญิงคนที่เล่นด้วยอย่างไรก็ว่าไป"
ด้านหนุ่ม "แอนดี้ วัชระ" คนนี้แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าเลิฟซีนคนหนึ่งของวงการโดยเฉพาะการโชว์ลีลาฉากหวิวสยิวกับสาว "เฮเลน นิมา" ใน "ชู้" ที่ทำเอาหลายคนเกิดอาการเคลิบเคลิ้ม แต่เรื่องจริงที่เจ้าตัวยืนยันก็คือตนไม่เคยมีความคิดที่จะเล่นนอกบทเลย
"ไม่มีนะ ไม่ใช่ว่าคุยหรอก คือเวลาเล่นมันรู้ไงว่าเออ..เรากำลังแอ็กติ้ง จำว่ามาร์กจุดไว้อย่างไร เสร็จจากตรงนี้จะต้องต่อด้วยอะไรมันต้องมีสมาธิค่อนข้างเยอะ คือบอกใครก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อนะว่าเราไม่คิดอะไร บางคนเคยมาเล่านะว่ามีเหมือนกันที่เคลิ้มไปกับบทด้วยเลย แต่ผมไม่นะ คุมได้ เราสามารถใช้เทคนิกการเคลื่อนที่ช่วยได้ ไม่จำเป็นต้องเล่นแบบแนบเนื้อมันซะทุกฉาก"
วิธีการควบคุมสะกัดกั้นอารมณ์นั้นหนุ่มแอนดี้บอกว่าไม่ยากเลยก็เพียงแค่มีสมาธิก็เพียงพอแล้ว ส่วนเทคนิกในการเข้าฉากเลิฟซีนให้เนียนเจ้าตัวบอกว่าต้องมีการคุยกับฝ่ายหญิงก่อนและปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ อีกฝ่ายรุกมาก็รุกกลับ?
"มันอยู่ที่สมาธิแหละอย่างที่ผมบอก มันต้องสมาธิสูงจริงๆ อย่าปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย (แสดงว่าเวลามีข่าวว่านอกบทมันมีจริงใช่มั้ยสำหรับดาราคนอื่นๆ) มีน่ะมีอยู่แล้ว บางคนหลุดไปเรื่อยมาเล่าให้ผมฟังก็มีเพราะคนที่เข้าฉากกับเราบางคนเขาก็เก่งมาก เราต้องคุมตัวเรา"
"ไม่ยากนะ มันไม่มากขนาดว่าต้องหลายเทก คือทำใจให้มันสบายๆ เหมือนเวลาอยู่กับแฟนน่ะ ทำตัวอย่างไรก็อย่างนั้น เดี๋ยวเขารุกมาเราก็รุกกลับเท่านั้นเอง ธรรมชาติมันจะสอนเองนะผมว่าเวลาเล่นฉากพวกนี้เราต้องให้มันเทกน้อยที่สุด ส่วนมากไม่เกิน 2 เทกเต็มที่ คือถ้ามันมากกว่านี้อารมณ์มันไม่ได้แล้วล่ะ เทกเดียวผ่านดีกว่า"
"ส่วนเรื่องว่าทำไมเล่นเนียนนี่ผมจะคุยกับนางเอกที่ผมจะเล่นด้วยก่อนนะว่าจะให้มันออกมาแบบไหน พี่กอดตรงนี้แล้วหอมตรงไหนต่อ คุยกันเพื่อให้มันพลาดน้อยที่สุด สิ่งที่จะช่วยได้อีกอย่างคือสีหน้าและน้ำเสียงในฉากพวกนี้ก็สำคัญ ช่วยได้นะ อย่างเวลาที่มันจะถึงขั้นมีความสุขสุดๆ เราก็ต้องทำเสียงเหนื่อยให้มันถี่ๆ เทคนิกพวกนี้เรารู้ไว้บ้างมันจะเซฟกับตัวผู้หญิงครับ"
เช่นเดียวกับเจ้าพ่อเลิฟซีนอีกคนของวงการเจ้าของฉายาลิ้นสว่านจากหนังเรื่อง "ไกรทอง" "เมฆ วินัย" ที่บอกถึงเทคนิกในการเล่นเลิฟซีนว่าที่สำคัญที่สุดก็คือการตั้งสมาธิ
"ตอนที่เล่นในเรื่องบางระจัน(คู่กับตั๊ก บงกช)เนี่ยมันสมบทบาทนะ คือเขาไปรบมาแล้วกลับมาก็เจอเมียมันก็สมเหตุสมผล ด้วยความสมจริงสมจังมันก็ไม่มีอะไรน่าเกลียด ไม่มีเทคนิกนะครับ เอาสมาธินิ่งๆ เป็นหลัก ตามบทเลย บทให้แค่ไหนก็แค่นั้น ปล่อยไปตามบท ที่สำคัญต้องดูด้วยว่านางเอกเรื่องนั้นเป็นใคร แค่ไหนที่เขาเล่นได้"
"เล่นเลิฟซีนมากสุดก็ 2 - 3 เทกไม่เกินจากนี้แน่นอน ที่ไม่ได้ก็ไม่ใช่เพราะพี่นะ มันเป็นเรื่องของมุมกล้องบ้าง ฉากบ้าง คือมันไม่ควรเล่นหลายเทกนะเพราะมันจะไม่อิน แข็ง ทื่อ จะเกร็งไปเลย ตั้งใจให้เทกแรกผ่านไปเลยดีกว่าเรื่องอารมณ์มันปรับลำบาก ถ้ารั่วแล้วกลับมาไม่ได้แล้ว"
เคยตกเป็นข่าวถึงการเล่นนอกบทที่ดูจริงจังอยู่เป็นประจำชนิดที่ว่าผู้กำกับสั่งคัทแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังไม่หยุด กับข้อครหานี้หนุ่มเมฆบอกว่า...
"แหมสั่งคัทปุ๊บจะให้มันเอาปากออกจากกันปั๊บมันไม่ใช่นะ ตามเรื่องมันก็ค่อยๆ เอาออกเราจะผลักออกไปเลยได้อย่างไร เขียนไปเองมากกว่า จริงๆ ผมไม่เคยคิดนอกบทนะ ตามบทมาอย่างไรไปอย่างนั้นเลย คิดตลอดว่ามันคือหน้าที่ไม่ใช่ชีวิตจริง"
