xs
xsm
sm
md
lg

‘เด็กเลี้ยงแกะ’ สมศักดิ์ศรี 20 ปี อัสนี-วสันต์ โชติกุล (จบ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ความคาดหวังที่มีต่อการออกงานมาในแต่อัลบั้มของ อัสนี-วสันต์ โชติกุล ย่อมมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งวัดจากวันวัยและสถานะของคนดนตรีที่เป็นรุ่นใหญ่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคอเพลงที่ต้องการงานในแบบมาตรฐานที่เคยสร้างทำมาในอัลบั้ม ‘บ้าหอบฟาง’ ซึ่งหลายๆ คนจัดวางให้เป็นงานชิ้นเยี่ยมหรือมาสเตอร์พีซของดูโอพี่น้องโชติกุล ต่างถวิลหาอยากได้งานที่มีความเพียว ความสดหนักแน่น โดยไม่มีอิงกับบทเพลงที่เป็นสูตรตามกระแสตลาด โดยเฉพาะบัลลาดร็อกในแบบจิ๊กโก๋อกหัก

เพราะฉะนั้น ผลงานในอดีตทำให้บังเกิดอคติขึ้นโดยไม่ตั้งใจในการเสพฟังงานของสองพี่น้อง อัสนี-วสันต์ไม่มากก็น้อย โดยหลงลืมไปว่า ดนตรีและบทเพลงเป็นเรื่องของความชอบ รสนิยมส่วนตัว รวมถึงประสบการณ์ ภูมิหลังในการเสพงานของแต่ละคน

20 ปีผ่านไป อัสนี-วสันต์ โชติกุล ได้ยืนในพื้นที่อันแตกต่างและภาระที่เป็นเงื่อนไขค้ำคออยู่ จะให้หวนกลับไปคิดเหมือนในยุคเริ่มต้น หรือยุคแสวงหาในนาม วงอีสซึ่น หรือช่วงทำงานกับวงบัตเตอร์ฟลายก็ย่อมเป็นไปได้ยาก

โดยเฉพาะงานในแบบพาณิชย์ศิลป์ที่ต้องพึ่งพาอำนาจของการตลาดด้วยส่วนหนึ่ง

อย่างที่รู้ๆ กัน หลังจากอัลบั้ม ‘บ้าหอบฟาง’ พวกเขาก็ค้นพบแนวทางของในการทำเพลงในแบบตลาดชอบโดยไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง และเป็นสูตรกึ่งสำเร็จรูปในการทำงานเพลงและดนตรีมาตั้งแต่อัลบั้ม ‘ผักชีโรยหน้า’ จนถึง ‘จินตนาการ’ รวมทั้งหมด 7 อัลบั้ม คนฟังเพลงก็ยังคาดหวังว่า จะได้ฟังงานชิ้นเยี่ยมที่ทะลุข้ามผ่านไปจากอัลบั้ม ‘บ้าหอบฟาง’ เสียที เบื่องานเพลงที่การตลาดมีส่วนชี้นำเต็มทีแล้ว

งานชุดล่าสุด ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ จึงเป็นเป้าหมายที่รอคอย และเป็นวาระครบ 20 ปีของการทำงานในนามอัสนี-วสันต์ จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ

แม้ภาพรวมโดยทั่วไป งานชุดนี้ก็ไม่พ้นแนวทางเดิมๆ ที่เคยเป็นมาในการทำงานเพลงร็อกแบบอัสนี-วสันต์ ซึ่งมุ่งเน้นการฟังเพื่อความบันเทิง และสร้างตำนานจิ๊กโก๋อกหักเพิ่มขึ้นมาอีกอัลบั้มหนึ่ง แต่หากมองในมิติที่ลึกลงไปแล้ว งานเพลงและดนตรีในอัลบั้มนี้ถือเป็นการท็อปฟอร์มของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่สูญเสียการเอาใจแฟนเพลงในกลุ่มวงกว้างที่ชอบฟังเพลงฮิต

คราวที่แล้วได้เขียนถึงบทเพลง ‘30 กุมภา 2549’ ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงที่แสดงให้เห็นกระบวนการคิดเชิงซ้อนที่ผนวกเอาจินตนาการมาเล่นสนุกกับคนฟังผ่านเสียงกีตาร์ในแบบสโลว์แฮนด์

บทเพลงในงานชุดนี้ หากฟังแบบบันเทิงเริงรมย์ทั้งหมด ก็ได้เท่านั้นกลับไป เพราะมีหลายบทเพลงที่สามารถตีความในการซ่อนนัยให้ตีความได้ทั้งในแง่มุมของเพลงรัก เพลงการเมือง และปรัชญา ซึ่งไม่ใช่ความฟุ้งซ่านแต่สามารถจับได้ถึงความจงใจอยู่พอสมควร

แค่ชื่อเพลงที่นำมาใช้เป็นชื่ออัลบั้มด้วยคือ ’เด็กเลี้ยงแกะ’ ซึ่งก็รู้ได้ว่านี่แหละแนวทางของอัสนี-วสันต์ ที่ชอบเอาคำศัพท์ซึ่งผูกโยงกับเรื่องต่างๆ มาทำเป็นเพลงรักอกหักที่ฟังได้แบบสนุกๆ ซึ่งหากคิดไปให้ลึกก็จงใจสะท้อนสภาวะของบ้านเมืองที่เป็นอยู่ ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองที่ชอบโกหก พูดวันนี้อีกวันก็ลืมจนติดเป็นนิสัยเด็กเลี้ยงแกะ ที่นำมาจากนิทานอีสป เป็นการซ่อนเงื่อนในบทเพลงอย่างมีชั้นเชิง

การตอกย้ำว่า อัสนี-วสันต์ต้องการเปรียบเปรยและซ่อนนัยทางการเมืองก็คือการวางเพลงที่ 4 ‘ดิน น้ำ ลม ไฟ’ ซึ่งเป็นบทเพลงที่มีเนื้อหาอิงไปทางปรัชญาของการตั้งคำถามกับการมีชีวิตอยู่ มาผูกร้อยกับเพลงที่ 5 ‘เจ็บแต่ดี’ ซึ่งเป็นเพลงรักในแบบบัลลาดร็อคจิ๊กโก๋อกหักที่ขยี้หัวใจคอเพลง

แต่หากลองตีความเนื้อร้องใน 2 เพลงนี้สามารถเชื่อมรอยและสามารถนึกถึงหน้าคนที่เป็นนักการเมืองในระดับผู้นำประเทศได้ทันที โดยเฉพาะบทเพลง ‘ดิน น้ำ ลม ไฟ’ ที่เขียนโดย จักราวุธ แสวงผล มีท่อนร้องว่า

‘ทรัพย์เอย สินเอย เงินเอย และทองเอย สรรเสริญ เยินยอ ไม่ใช่เคมีที่รวมแล้วเรียกว่าคน’

‘คนเอ๋ยคน หนอคน เหนื่อยบ้างไหม ที่คอยไขว่คว้าอะไรเกินคน...พอเอ๋ยพอ ไม่พอ ปรารถนาอะไรก็ไม่รู้ ที่มันเกินพอ...’

แล้วมาสมานอารมณ์ต่อกับท่อนฮุคในบทเพลง ‘เจ็บแต่ดี’ ซึ่งเขียนเนื้อร้องโดย นิติพงษ์ ห่อนาค ที่มีอยู่ว่า

‘เจ็บแต่ดี จะได้รู้ไว้ ว่าตัวเองไม่ได้มีคุณและค่าใด การชนะมาทุกอย่าง ย้ำให้ใจนั้นยิ่งกร่าง ให้เสียคน...’

มาอรรถาธิบายอย่างนี้คงไม่สามารถเข้าใจกันได้ง่ายๆ แต่ลองไปหยิบบทเพลง 2 เพลงนี้ฟังติดต่อกันดู ก็จะนึกภาพของบุคคลที่กำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาจากประชาชนอยู่

เมื่อมาตอกย้ำด้วยความจงใจของบทเพลงของเต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ที่ถูกนำมาทำใหม่ ‘ยิ่งสูงยิ่งหนาว’ ก็ยิ่งร้อยรัดเรื่องราวขมวดเป็นเอกภาพได้เป็นอย่างดี เมื่อมาถมทับเข้าอีกทีด้วยบทเพลง ‘สำเนียงประชาธิปไตย’ ซึ่งเป็นบทเพลงรณรงค์คนรุ่นใหม่ให้ออกมาเลือกตั้ง 6 ก.พ. 2548 ก็แสดงให้เห็นถึงความจงใจที่ซ่อนอยู่อย่างเห็นเด่นชัด

ยังไม่หมดเมื่อฟังบทเพลง ‘ยืนหยัด ยืนยง’ ที่ทำขึ้นเพื่อประกอบละคร ‘ลอดลายมังกร’ มาใส่ผนวกรวมในอัลบั้มนี้ด้วย เป็นเพลงที่มีเนื้อหาที่พูดถึงคุณความดี และคุณธรรมที่ต้องดำรงอยู่ แม้จะเป็นคนเก่ง มีชีวิตที่ร่ำรวยมากก็ตาม

เมื่อมาตีความแค่ 5 เพลงนี้ผูกโยงกับตัวละครในทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ก็ทำให้เห็นว่าเป็นการจัดวางอย่างจงใจ แม้มีการซ่อนเร้นด้วยศิลปะของบทเพลงรักและปรัชญาก็ตาม

การวางเนื้อหาหลักของบทเพลงส่วนใหญ่ แม้ยังเป็นเพลงรักถึง 1 ใน 3 ของบทเพลงทั้ง 14 บทเพลง แต่ก็มีบทเพลง ‘สู้สุดใจ’ ที่เป็นบทเพลงให้กำลังใจคนไทย และเพิ่มมูลค่าทางการตลาดเป็นเพลงโฆษณารถกระบะยี่ห้อหนึ่งไปในตัวด้วย

งานดนตรีในอัลบั้มนี้ค่อนข้างที่จะเนี้ยบ เพราะทีมดนตรีที่ลงตัว การได้มือกีตาร์ พิเชษฐ์ เครือวัลย์ แห่งวงฟาเรนไฮต์มาช่วยเสริมทัพ ได้มือเบสจากวงแท็กซี่ อาคม นุชนิล มือกลองอดีตวงโลโซ กิตติศักดิ์ โคตรคำ และมือคีย์บอร์ด อนุรักษ์ แซ่ลี้ ที่คร่ำหวอดในฐานะคนเบื้องหลังมายาวนาน เพราะฉะนั้นทั้งร็อคสุดกู่กระแทกเหยียบสองกระเดื่อง กีตาร์ไวเป็นจักรผัน เบสเดินกระแทกใจ จนถึงบัลลาดหวานโศก สามารถตอบโจทย์ตอบอารมณ์เพลงได้หมดจด

อัลบั้ม ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ ถือเป็นงานเพลงที่ลงตัว แม้จะไม่มีการขยับตัวสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้งอกเงยเพิ่มขึ้น แต่โดยความเป็นตัวตนของอัสนี-วสันต์ โชติกุล พวกเขาทำงานได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้จะยืนอยู่บนเส้นทางที่กางขาไว้ 2 แพร่งคือ เอาใจคอเพลงตลาด และเอาใจคอเพลงที่ต้องการความลุ่มลึกมากกว่าบทเพลงร็อกทั่วไป อัลบั้มนี้ก็ทำได้ดี แม้จะเห็นลักษณะที่ประนีประนอมอยู่สูงก็ตามไม่หลุดอกไปสุดขั้ว ทำงานแบบไม่แคร์ตลาด ซึ่งคงไม่ถูกใจคนที่คาดหวังไว้สูงว่า รวยแล้ว ควรทำงานในเชิงชั้นศิลปะดนตรีที่เข้มข้นมากกว่านี้ก็ตาม

‘เด็กเลี้ยงแกะ’ เป็นย่างก้าวที่บอกนัยอะไรบางอย่างของพวกเขาในงานชุดหน้าก็เป็นไปได้ อาจจะเป็นการทิ้งทวนเพื่อขยับไปสู่อีกก้าวของคนดนตรีรุ่นใหญ่ต่อไป…
.....
Music Guide
one more for the road / Toots Thielemans

การเป็นคนเป่าเม้าธ์ออร์แกนหรืออาร์โมนิกาหรือหีบเพลงปาก ใช่ว่าจะเป็นตัวประกอบเสมอไป การทำงานกับศิลปินชั้นเยี่ยมอย่างมีเอกลักษณ์ในชิ้นดนตรีที่ตัวเองเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมายาวนาน ย่อมที่จะขึ้นมาเป็นพระเอกได้

บทเพลงที่เขียนโดยฮาโรลด์ อาร์เลน มือเขียนเพลงอมตะ ถูกนำมาตีความใหม่และบรรเลงในแนวคอนเทมโพรารี่ แจ๊ซ และสวิง ฟังเสียงอันพลิ้วหวาน ลีลาการโซโล่และด้นสดในเสียงหีบเพลงปากที่เหนือชั้นของ Toots Thielemans จะสะกดให้รู้จักกับความงามในเสียงของเครื่องดนตรีชิ้นนี้
.....
Fotografia Os anos dourados de / Tom Jobim
บิดาแห่งบอสซ โนวา อย่างอันโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม ย่อมส่งผลมาถึงคนรุ่นหลังที่สามารถเก็บเกี่ยวงานชั้นยอดมาหากินได้จนถึงปัจจุบัน อัลบั้มซีดีแผ่นคู่ชุดนี้ ก็เป็นการเดินทบทวนอดีตแต่หนหลังเส้นทางความเป็นมาของดนตรีบอสซาโนวาที่สามารถขึ้นเป็นดนตรีอันเป็นที่นิยมของคนฟังทั่วโลก งานเพลง 28 เพลงที่ทำให้เห็นทิศทางอันเสนาะหู ไพเราะเคลิบเคลิ้มของต้นแบบดนตรีบอสซาโนวา
.....
Timeless / Sergio mendes
ดนตรีบราซิลกำลังมา ศิลปินรุ่นใหญ่ในสายแซมบา, บอสซาโนวา และละตินพ็อพจากบราซิลคนนี้จึงถูกดึงตัวมาสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดเพลงอเมริกา เขาถูกดึงมาร่วมทำงานกับบรรดาศิลปินฮิพ-ฮอพในอเมริกา โดยมี will.i.am แห่ง Black Eyed peas เป็นโต้โผใหญ่ ถือเป็นการข้ามสายวัฒนธรรมดนตรีที่สอดคล้องกลมกลืน และสามารถไปด้วยกันได้ดี ฟังเพลินๆ รื่นอารมณ์แต่ไม่มีความน่าตื่นเต้น เพราะถือเป็นการสร้างสรรค์ที่มีมาตรฐานและกรอบรสนิยมของเพลงฮิตในแบบเออร์บันที่ค่อนข้างเฟือหูในยุคปัจจุบัน
.....
Animals Dance / Mickael The Turtle and many more…
ความสนุกไม่เคยปราณีใคร ดนตรีเต้นรำในงานปาร์ตี้ไม่มีวันจางหายไปจากชีวิตของผู้คน คราวนี้เป็นการนำเอาตัวการ์ตูนอันโด่งดังของฝรั่งเศสมาร้องเพลงคลับแด๊นซ์แบบยุโรปมัน ให้ขยับขาแข้งขยึกขยัก หรือฟังแบบสนุกสนาน เพลินๆ หูก็ได้ เรียกว่าเป็นงานเพลงเต้นรำที่เด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดีแบบไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว เพียงแต่มาดีดดิ้นกันฮาเฮ




กำลังโหลดความคิดเห็น