ได้รับฉายา "เด็กแสบ" ของวงการบันเทิงไปแล้วสำหรับ "เบียร์ สรณัฐ มัสยวานิช" ล่าสุดไปทำซ่าไกลถึงหัวหินจนโดนรุมทุบรถเก๋งคันหรูพังยับเยิน แล้วขับรถหนีเอาตัวรอดไปกับแฟนสาว "นาด้า นฎาประไพ บุญนันท์" แบบจิตกระเจิง ก่อนชิงโทรหาตำรวจเพื่อเข้ามอบตัวพร้อมปฎิเสธไม่ได้เมา
พฤติกรรมสุดซ่าครั้งนี้เกิดขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ เมื่อเวลาตี 1 ของวันที่ 27 พ.ค. นี้เอง เหตุมาจากดาราหนุ่มกับแฟนสาวจอดรถขวางทางเข้า-ออกของโรมแรมแห่งหนึ่งที่อ.หัวหิน รปภ.ของโรงแรมจึงเคาะกระจกให้ดาราหนุ่มช่วยขับไปจอดข้างทางเนื่องจากทำให้รถแถวนั้นติดขัดเป็นอย่างมากแต่หนุ่มเบียร์ไม่ยอมทำตาม มิหนำซ้ำยังลงจากรถมาพูดจาด้วยอารมณ์โกรธใส่หน้ารปภ.คนดังกล่าวว่า "กูจอดตรงนี้จะทำไม มึงรู้หรือเปล่าพ่อกูเป็นใคร" แล้วดาราหนุ่มก็พาแฟนสาวไปเดินเที่ยวตลาดนัดที่อยู่ข้างๆโรงแรมอย่างหน้าตาเฉย
หลังจากเดินเที่ยวจนสบายอารมณ์หนุ่มเบียร์ยังพาลใส่รปภ.คู่กรณีไม่เลิกโดยตะโกนถามว่า "แค่จอดรถ 15 นาทีมึงมีปัญหานักรึไง" แล้วดาราหนุ่มก็อวดศักดาด้วยการชักปืนสั้นออกมาขู่ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นปืนปลอมแต่ด้วยความกลัวรปภ.คู่กรณีจึกชกดาราหนุ่มเพื่อป้องกันตัว จึงเกิดชุลมุนแลกหมัดกันนัว ขณะนั้นแฟนสาวของหนุ่มเบียร์ก็ออกมาห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล
เหตุการณ์บานปลายหนักเมื่อรปภ.วิทยุเรียกเพื่อนให้มาช่วย นายเบียร์เห็นท่าไม่ดีจึงจงใจจะขับรถหนีแต่มีดาบตำรวจนายหนึ่งกระโดดเสี่ยงตายเพื่อให้ดาราหนุ่มหยุดรถและออกมาตกลงกันดีๆ แต่ดาราหนุ่มเลือดร้อนกลับเร่งเครื่องชนรถจักรยานยนต์ล้มพังระเนระนาด แถมเฉี่ยวชนรถปิกอัพของพ่อค้าแถวนั้นได้รับความเสียหายอีกทำให้เจ้าของรถที่ถูกชนและรปภ.ต่างวิ่งกรูกันเข้ากระหน่ำตีรถเก๋งของดาราหนุ่มจนกระจกแตกก่อนที่ดาราหนุ่มจะขับฝ่าหนีออกไปได้ โดยไปหลบอยู่ที่คอนโดของตนเองซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 800 เมตรก่อนเจ้าตัวจะโทรเรียกตำรวจให้มารับตัวเพื่อไปเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีทั้งหมด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปรับหนุ่มเบียร์เป็นเงิน 500 บาท ข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายก่อนปล่อยตัวไป สร้างความมึนงงให้กับเจ้าของรถที่เสียหายเนื่องจากตำรวจไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ หรือดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานแก่หนุ่มเบียร์แต่อย่างใด ทั้งๆที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่าดาราหนุ่มนั้นอยู่ในอาการเมาสุราด้วย
หลังเกิดเรื่อง เมื่อดาราหนุ่มขาวีนได้สติก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่าตนรู้สึกท้อแท้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสียใจกับข่าวที่ออกมาที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนก่อเรื่องขึ้นเองทั้งหมด ซึ่งอันที่จริงแล้วตนไม่ได้เมาและไม่ได้มีปากเสียงกันถึงขั้นชกต่อย ซ้ำยังบอกด้วยว่ากลุ่มชาวบ้านที่ฮือเข้ามาเหมือนกับจะพยายามฆ่ากันให้ได้เลย ทำให้แฟนสาวของตนขวัญเสียไม่หาย ร้องไห้ตลอดทางที่เดินทางกลับ ดาราหนุ่มบอกเหตุการณ์คราวนี้ทำให้ตนต้องรีบหาเวลาไปบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์อีกด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนุ่มเบียร์มีเรื่องมีราวจนเป็นคดีขึ้นโรงพักอย่างนี้ ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อนครั้งที่เขายังไม่บรรลุนิติภาวะเสียด้วยซ้ำ ก็เคยขึ้นหน้าหน่ง ด้วยข้อหามีกัญชาไว้ครอบครองมาแล้วก่อนจะได้ประกันตัวด้วยเงินจำนวน 30,000 บาท
เหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน ม.ค. 47 หนุ่มเบียร์กับเพื่อนชายได้ขับรถเก๋งเปิดประทุนในยามวิกาลไปแถวนางเลิ้ง ก่อนจะโดนด่านตำรวจเรียกตรวจ ทันใดนั้นก็มีถุงกระดาษสีน้ำตาลถูกโยนออกมาจากรถของดาราหนุ่ม ตรวจพบว่าเป็นกัญชาแห้งหนัก 10 กรัมแต่ดาราหนุ่มกับเพื่อนก็ให้การปฏิเสธว่ากัญชานั้นไม่ใช่ของพวกตน
แม้ว่าตำรวจจะตรวจไม่พบรอยนิ้วมือของทั้งคู่ที่ถุงกระดาษต้นเหตุและขี้บุหรี่ที่ตกอยู่ในรถของดาราหนุ่มจะไม่มีกัญชาผสมอยู่ ถึงกระนั้นด้วยวัยแค่ 18 ปี ชื่อ "เบียร์ สรณัฐ มัสยวานิช" น้องชายต่างมารดาของคาสโนว่า "ฟลุ้ค เกริกพล" ก็ดังกระฉ่อนไปในทางเสียหายด้วยการที่เขาต้องเคยตกเป็นผู้ต้องหาครอบครองและเสพกัญชาไปเรียบร้อย
ผ่านไปไม่ถึงปี ก็มีข่าวว่าหนุ่มเบียร์ยั๊วะทีมงานของงาน "ฟรีด้อม เอ็กซ์ตรีม" ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อโปรโมตหนัง "พันธุ์เอ็กซ์สุดคู่สุดขั้ว" ของค่ายแกรมมี่ที่เบียร์ร่วมแสดงด้วย จนถึงขั้นจะกระโดดชกปากกันมาแล้ว ด้วยชนวนเหตุแค่หนุ่มเบียร์ต้องแข่งยิงเพ้นท์บอลกับฝ่ายตรงข้าม ทว่าออกสตาร์ทได้ไม่กี่นาทีหนุ่มเบียร์ก็โดนคู่แข่งยิงไปหลายนัด ทำเอาเจ้าตัวไม่พอใจ เดินไปต่อว่าฝ่ายตรงข้าม และเดินตรงไปหาทีมงานพร้อมกับถอดเสื้อทำท่าว่าจะต่อยปากทีมงาน จนแฟนสาวในขณะนั้นคือ "ออย ชนิตา" ต้องกระโดดห้ามทัพไว้
ถือเป็นเรื่องครึกโครมไม่น้อยเพราะภายในงานเต็มไปด้วยดารา นักร้องและนักข่าวมากมาย แต่หนุ่มเบียร์ก็ยังแสดงอาการก้าวร้าวออกมาได้อย่างไม่สำนึก แถมยังออกมาแก้ข่าวนี้อย่างไม่ลดราวาศอกว่า...
"มันเกินไปไม่มีอะไรจะเขียนกันแล้วหรือไง ผมไม่ได้ไปต่อยทีมงานซะหน่อย..." เจ้าตัวกล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียว
"แต่ที่ผมถอดเสื้อก็เพราะว่าผมต้องการจะให้เค้าดูแผลที่ผมโดนยิง ผมต้องการให้เค้าเห็นว่านี่ผมห้อเลือดไปทั้งตัว ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ในเมื่อผมมาเพื่อช่วยงาน เงินค่าตัวก็ไม่ได้…นี่ผมเป็นนักแสดงนะ ผมเป็นศิลปิน ไม่ใช่สตันท์แมน จะให้มาเจ็บตัวอย่างนี้ได้ไง มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องมาเจ็บตัว"
"...ผมก็เลยออกมาคุยกับทีมงานว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเค้าไม่มีเซฟให้ผม ก็แค่นั้นเอง ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปต่อยเค้า แล้วก็ไม่ได้ไปโวยวายใส่ฝ่ายตรงกันข้ามที่ยิงมาโดน ผมไม่ใช่พวกขี้แพ้ชวนตี แต่มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ยอมเจ็บตัว"
"ที่ผ่านมาผมทุ่มเทกับงานหนังเรื่องนี้มาตลอด เค้าขอคิวผมเมื่อไหร่ผมให้หมด ไม่เคยมีปัญหา แต่พอมีเรื่องแบบนี้มันรู้สึกแย่ ถ้ามาแล้วเจ็บตัวจะมาทำไม สู้อยู่เป็นไฮโซเชิดๆไม่ดีกว่าเหรอ"
หลังจากนั้น ข่าวคราวของหนุ่มเบียร์ก็หายไปพักใหญ่ จน ก.ย. ปี 48 ก็ก่อเรื่องจนขึ้นโรงพักอีกรอบ เมื่อเขาขับรถยนต์ชนท้ายรถแท็กซี่ 4 คันรวดแถวซอยนานาแล้วขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป ก่อนที่เจ้าตัวจะแอบเข้าพบพนักงานสอบสวนและยินยอมชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดกับคู่กรณี โดยไม่ได้มีการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ตามที่คู่กรณีตั้งข้อสังเกตว่าดาราหนุ่มอาจจะเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวก็ได้ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าจากการสังเกตไม่พบว่าหนุ่มเบียร์มีอาการเมาสุราแต่อย่างใด!?
รอดจากคดี "เมาแล้วขับ" ไปแบบหวุดหวิด ช่วงปลายปี 48 ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากกระแสสังคมว่าไปมีส่วนพัวพันกับกรณีที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" ถูกซ้อมเนื่องจากมีเหตุเคืองกันเรื่องแฟนสาวของหนุ่มเบียร์ "นาด้า" ซึ่งมีข่าวว่าถูกนายเต๋าหิ้วเข้าโรงแรม จนเลยเถิดว่าแฟนสาวของเขาเป็นต้นเหตุทำให้ "เต๋า-นัท" บ้านแตกในที่สุด
สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้หนุ่มเบียร์ออกมาแจงว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกรณีวิวาทที่เกิดขึ้นและไม่รู้จักนายเต๋าเป็นการส่วนตัว...
"เรื่องพี่เต๋าโดนซ้อม...จริงเหรอ คนแม่..มั่วมากเลย เต๋า สมชายโดนซ้อมใครจะไปทำเค้าได้ ผมไม่เคยรู้จัก ผมไม่เคยคุยกับเค้าเลย ตอนแรกที่ได้ยินข่าวรู้สึกโกรธมากๆ เลย…ผมก็ไม่เข้าใจว่าเวลาผมมีข่าวแต่ละเรื่องทำไมมีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้นเลย ตอนทำมิวสิกวีดีโอตอนทำเรื่องดีๆ ไม่เห็นมีใครมาทำข่าวเลย"
"...คุณแม่ก็บอกว่าเราต้องยอมรับนะว่าหน้าเราเหมือนคนหาเรื่องรึเปล่า อยู่เฉยๆ หน้าคงกวนตีน...ผมพยายามใจเย็นลงให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วทำงานเยอะด้วย"
วีรกรรมทำแสบซ่าเซี้ยวของหนุ่มเลือดร้อนคนนี้ มิใช่มีเพียงแค่เรื่องต่อยตีหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเท่านั้น แต่หนุ่มเบียร์ยังใจกล้าโชว์หวือจูบปากแฟนสาว"นาด้า" กลางแคทวอล์กแฟชั่นโชว์ในงานหนึ่งท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่ตกตะลึงกับภาพดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวกล่าวอย่างอารมณ์ดีถึงเรื่องนี้ว่า...
"ก็ให้ทุกคนรู้ว่าเรายังคบกันอยู่นะ ยังรักกันดี...ก็ไม่เป็นไงมันเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนก็ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีใครเห็น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องมีเรื่องแบบนี้ ก็เขินนิดหน่อยแต่ต้องตามเค้าไป"
"ที่บ้านก็คงโอเค.คงไม่ว่าอะไรเพราะรู้จักกันอยู่แล้ว คบกันมาปีกว่าแล้ว..."
หลายฝ่ายคาดว่าข่าวการชกยาม ชักปืนปลอม ซิ่งพังรถชาวบ้าน ไปจนกระทั่งหวิดทำร้ายเจ้าพนักงานนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของหนุ่มเบียร์ เพราะดูจากอดีตที่ผ่านมา และอัตราเฉลี่ยของการเป็นข่าวแล้วชวนให้หนักใจแทนอนาคตของหนุ่มดาราคนนี้เป็นยิ่งนัก
ใครที่เป็นคนใกล้ชิดช่วยกันดูแลหน่อยเร็ว!!