ถึงขั้นป่วย! "ลูกเกด" ตรอมใจรายการเจ๊ง

ถึงกับล้มป่วยเลยทีเดียว สำหรับ "ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม" หลังตรอมใจที่รายการ "ไทยแลนด์ เพอร์เฟ็กต์ แมน 2006" ที่เจ้าตัวนั่งแท่นผู้ผลิต เรตติ้งไม่ดีโฆษณาไม่เข้า แถมยังขาดทุนสะบัด หมดท่าความเป็นนางแบบแถวหน้า ออกปากบ่น เป็นดาราดีอยู่แล้วไม่น่าหาเหาใส่หัว พร้อมแจงกรณีผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 6 "ไกด์ นฤต" เป็นเด็กเส้น เป็นเหตุให้ผู้เข้าแข่งขันออกอาการหมั่นไส้

"ตอนนี้ขาดทุนประมาณ 10% สปอนเซอร์เต็มแต่โฆษณาไม่เข้า แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือผลงานและครอบครัวใหม่ แต่ยังไงเราก็อยากได้รายได้เข้ามาตรงนี้นะ เพราะตั้งแต่ทำรายการงานอื่นเกดแทบจะไม่ได้รับเลย เราขาดรายได้จากตรงนั้น แล้วเกดยังเอาเงินตัวเองมาลงตรงนี้เองด้วย แล้วเงินค่าตอบแทนจากรายการเราก็ไม่ได้ ซึ่งจริงๆก็รู้ตั้งแต่ต้นแหละว่าคงไม่ได้อะไรมาก แต่ก็ไม่อยากให้ขาดทุนมาก เราอยากให้มันเป็นผลงานที่ทุกคนเห็นว่าเราทำได้มากกว่า"

"แรกๆ เครียดมากเลย ตอนนั้นป่วยเลย ไม่แฮปปี้ พอหลังๆ เราก็ทำใจและบอกตัวเองว่าเราต้องทำให้ดีที่สุด มันเหนื่อยแต่มันเป็นความเหนื่อยที่เราแฮปปี้ เราจะคอยเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลาว่าน้องๆเค้าโอเค.มั้ย โกรธเรามั้ย"

"มันสอนให้รู้ว่าทีนี้จะไม่ใจร้อน จะค่อยๆคิดค่อยๆไป ตอนนั้นเริ่มถ่ายรายการโดยที่ยังไม่มีช่องน่ะคิดดู แต่ตอนนั้นคิดในใจว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้ๆ ถึงวันนี้อย่างน้อยมันทำให้รู้ว่าคราวหน้าจะต้องโคกับบริษัทใหญ่ที่ช่วยเราโปรโมตด้วย ไม่ใช่ว่าแค่ออกอากาศให้เราอย่างเดียว เพราะเราทำคนเดียวไม่ไหว ตอนแรกคิดว่าความเป็นลูกเกดทำอะไรก็คงจะง่าย แต่เอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่อย่างที่คิด เรามันก็เหมือนปลาตัวน้อยตัวนึงเท่านั้นเอง"

"ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก มีเพื่อนคนนึงบอกเกดว่า ตอนที่เราเป็นดาราผู้จัดจะรักเอ็นดู ดูแลเราเหมือนครอบครัว แต่พอวันนึงเราพลิกบทมาเป็นผู้ผลิต สัมพันธ์จะเปลี่ยนแล้ว เรากลายเป็นคู่แข่งเค้าแล้ว เมื่อก่อนโทร.มาชวนไปกินข้าวเอาใจ แต่ทุกวันนี้โทร.ไปบอกพี่ยุ่งอยู่นะไม่คุย เกดก็เพิ่งจะรู้วันนี้เอง เริ่มคิดแล้ว…เป็นดาราดีอยู่แล้ว(หัวเราะ)"

โล่งใจที่เรตติ้งเริ่มกระเตื้องหลังนิ่งสนิทมานาน แต่มิวายมีเรื่องให้ปวดหัวเพราะผู้เข้าแข่งขันเริ่มมีพฤติกรรมแตกคอแบ่งแยกก๊กก๊วนอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามเจ้าตัวเผยว่าจะไม่มีการเข้าไปป้อนสคริปต์เปลี่ยนแปลงให้สวยหรูแน่นอน เพราะรายการเรียลิตี้ "ดี-เลว" ต้องมาจากความเป็นจริงเท่านั้น

"เรตติ้งเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเริ่มโปรโมตมากขึ้น เนื้อรายการก็ดุเดือดมากขึ้นๆ ตอนที่เรตติ้งไม่ดีรู้สึกกังวลมาก เพราะถ้ารายการมันไม่มีกระแสเรตติ้งไม่ดีโฆษณาก็จะไม่เข้า ทั้งหมดมี 13 ตอน ตอนนี้ก็เหลือครึ่งทาง"

"ตอนนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าข่าวการเมืองค่อนข้างเยอะอยู่ ตอนนี้ดีขึ้นและส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น นิสัยส่วนตัวเริ่มออก บางคนเห็นแก่ตัว บางคนไม่ค่อยน่ารัก และตอนนี้น้องๆ ก็เริ่มแบ่งแยกแข่งขันกันชัดเจน มีปะทะกันบ้าง ซึ่งเกดจะไม่เข้าไปยุ่งเพราะนี่มันคือรายการเรียลิตี้ อะไรต่างๆที่เกิดขึ้นเราจะไม่เข้าไปห้าม ถึงแม้ว่าวันนี้บางคนอาจจะยังไม่คุยกัน แต่คิดว่าคงไม่ถึงกับปะทะกันรุนแรง"

"ถามว่าหนักใจมั้ยที่น้องๆ ออกมาเป็นแบบนี้ เกดคิดว่ามันคงถึงเวลาที่ทุกคนเก็บกดแล้ว เพราะบ้านก็กลับไม่ได้ โทรศัพท์ก็ห้ามใช้ ไปไหนก็ไปไม่ได้ มันก็เลยเริ่มกดดัน เริ่มไม่พอใจกันและแตกคอกันบ้าง"

ยืนยันเวทีนี้ไม่มีเด็กเส้น ทุกคนล้วนวัดกันที่ความสามารถ ส่วนกรณีที่โดนเมาท์ว่า "ไกด์ นฤต" เป็นลูกรักเพราะโอ๋กันเหลือเกิน สาวเกดปฏิเสธเสียงแข็ง แจงปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกันหมด

"อย่างน้องไกด์ที่โดนเพื่อนๆ แบน เกดก็สงสารนะแต่ว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าเค้าเด็กที่สุดเลย แล้วด้วยความที่เป็นเด็กก็เลยเอานิสัยเด็กมาใช้ หรือว่าอาจจะเป็นแผนของเค้าก็ได้ ที่เอาความเป็นเด็กมาอ้อน ซึ่งมันก็เป็นไปได้ แต่เกดเชื่อว่าถ้าเค้าได้กลับมาดูรายการนี้แล้ว คงจะเป็นบทเรียนให้เค้าได้"

"ที่บอกว่าเกดโอ๋ไกด์มากกว่าคนอื่น จริงๆ เกดดูแลทุกคนเท่ากันหมด ใครเจ็บเกดจะเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปหาน้องๆ เพราะเกดต้องรับผิดชอบพวกเค้าเพราะเราเอาเค้ามา ภาพอาจจะเหมือนเกดโอ๋ไกด์มากสุดก็อาจจะเป็นไปได้เพราะเค้าเด็กสุด แล้วเกดก็กลัวว่าถ้าเค้าเข่าหลุดขึ้นมาจะทำยังไง อยากให้เค้าได้เล่นเกมแต่อีกใจนึงก็อยากให้สละสิทธิ แต่ถามทุกครั้งเค้าก็บอกจะสู้ต่อครับ"

"ไม่มีใครเป็นเด็กเส้นเลย เราตัดสินที่ภารกิจ เกดบอกได้เลยว่าน้องๆมีปัญหากัน เรามารู้ตอนเอาเทปมาตัดต่อ เพราะขั้นตอนการสัมภาษณ์น้องๆ เกดไม่ได้อยู่ด้วย แล้วทุกอย่างมันไม่ใช่สคริปต์ มันเป็นความรู้สึกจริงๆ ของเค้า และเราจะไม่มีการเข้าไปเคลียร์ให้ ถ้าจะโกรธก็ปล่อยให้โกรธกันไปเลย"

"คนที่ตกรอบไปเกดก็ยังดูแลอยู่ ก็พาน้องๆไปแคสติ้ง ไปเทสต์เสียง ก็มีหลายๆ ค่ายที่สนใจอยู่ เกดกำลังจะส่งไปเรียนแอ็กติ้งด้วย เซ็นสัญญาคนละปีก่อน รับงานนอกได้แต่ต้องบอกเราก่อน และให้ดูให้ดีๆ ว่างานอะไร ถ่ายชุดว่ายน้ำได้แต่อย่าถ่ายนู้ดเท่านั้นเอง"

นอกจากรายการจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ล่าสุดสาวเกดก็ได้เฮลั่นเมื่อคดีฟ้องห้องเสื้อ"Dapper" ที่ต่อสู้กันยาวนานข้ามปี ศาลพิพากษาตัดสินให้ฝ่ายสาวเกดและซาร่าเป็นผู้ชนะ

"เกดชนะคดีแล้วนะ เดี๋ยวจะมีการแถลงข่าวไม่เกินสิ้นเดือน แล้วคดีนี้จะลงไปอยู่ใน Case Study ตอนนี้นางแบบทุกคนถือว่าเป็นศิลปินแล้ว แต่เมื่อก่อนนางแบบก็คือนางแบบ ทีนี้ทุกอย่างที่เป็นลิขสิทธิ์ที่ดาราศิลปินมี นางแบบก็จะมีเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเอารูปไปทำอย่างอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตคุณผิด ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกก้าวนึงของวงการแฟชั่น เกดกับซาร่าสามารถทำได้ ดีใจมากเหมือนเราทำอะไรให้กับวงการนางแบบ ใครจะมาเอาเปรียบเราไม่ได้"

"ค่าเสียหายไม่ได้ตามที่เราเรียกร้องไป แต่ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ เห็นทนายบอกว่าถ้าฝ่ายโน้นอยากจะสู้สามารถสู้ได้อีกครั้งเดียว เราชนะในส่วนของสิทธินางแบบ แต่ค่าตอบแทนเรายังไม่ชนะ คงต้องสู้ต่อไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นบรรทัดฐานตรงนี้"