xs
xsm
sm
md
lg

สื่อกับ(ข่าว)วันหวยออก จากกรณี "เอเลี่ยน เจลฯ"/เรื่องจากจอ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ชวนฮา แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่รู้ใครคิดเหมือนผมหรือเปล่าว่ากรณีของข่าวเอเลี่ยน + สัตว์ประหลาด + วัตถุลึกลับจากนอกโลก = เจลลดไข้เด็ก(Cool Fever) นั้นเป็นเรื่องที่ชวนให้หัวเราะไม่ออกเอาเสียเลย

ลอง(ย้อนกลับไป)อ่านพาดหัวข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ยกมาให้อ่านกันเล่นๆ

ข่าวสด
14 พ.ค.ร่วงมาอีกแล้วท่อนวุ้นลึกลับ
15 พ.ค.รู้แล้ววุ้นลึกลับ แค่เจลลดไข้เด็ก
16 พ.ค.เด็กแห่ซื้อเจลทำวุ้นเล่น

ไทยรัฐ
14 พ.ค.ตัววุ้นประหลาดโผล่กลางกรุง อ้างหล่นจากฟ้า
15 พ.ค. โถวุ้นประหลาด อนุทินยัน คือแผ่นเจลลดไข้
16 พ.ค. ชี้เหตุคนตื่นเต้นเจลวุ้น ไม่รู้-จินตนาการ เปิดสายด่วน 24 ชั่วโมง

คมชัดลึก
15 พ.ค.พบวัตถุประหลาดอีก จากฟากฟ้าตกลงมากลางกรุง เท่าฝ่ามือ คล้ายวุ้น
16.พ.ค.- อ.ย.ย้ำวุ้นปริศนา เจลลดไข้แน่ ผวาเด็กกินตาย

เดลินิวส์
14 พ.ค.ตัวประหลาดบุกกทม.มากับฝน ก.วิทย์ร่วมไขคำตอบ
15 พ.ค. พิสูจน์วุ้นประหลาด เจลลดไข้ แช่น้ำเป็นตัวหนอน
16 พ.ค.เศษคลุกข้าวกิน ไม่สนว่าเป็นเจล มั่นใจตัวประหลาด เป็นของศักดิ์สิทธิ์

บ้านเมือง
14 พ.ค. ตัวประหลาดบุกกรงุเทพ ยืดได้หดได้ (วิจารณ์กันแซด สัตว์นอกโลก)
15 พ.ค. ยันวัตถุประหลาด เจลลดไข้ ไม่ใช่ตัวเอเลี่ยน
16 พ.ค. ผลแล็บยืนยัน เจลลดไข้เด็ก ยืด หด 60 เท่า

รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับกับพาดหัวข่าวเหล่านี้

ถ้าบอกว่าคนที่แตกตื่นเป็นคนโง่ ผมเองก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอนเพราะเป็นคนหนึ่งที่ยอมรับว่าไม่เคยเห็นเจ้าผลิตภัณฑ์ที่เรียกกันว่า Cool Fever นี้มาก่อน แต่สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ได้ครับว่าหากว่าเจอเจ้าสิ่งที่ว่านี้ผมเองก็คงไม่คิดว่าเป็นเอเลี่ยน เป็นเศษเสี้ยวของจานบิน ยานผี อะไรในทำนองนั้นอย่างแน่นอน (ทั้งๆ ที่ผมชอบเรื่องทำนองนี้และเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่ามันต้องมีจริง)

ในแง่ของคนอ่าน คนเสพข่าว อาจจะไม่ใช่เรื่องผิดมากนักที่หลายคนอดที่จะตื่นเต้นไปกับไอ้เจลที่ว่านี้โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร(ส่วนเรื่องเจอแล้วจะแตกตื่นหรือไม่แตกตื่อนอันนั้นคงแล้วแต่คน) แต่หากในแง่ของคนทำข่าวผมว่ามันออกจะน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกันกับการายงานข่าวที่ออกมาถึงเรื่องเหล่านี้

มาลองนับๆ ดู เรารวมถึงนักข่าวใช้เวลาถึง 3 - 4 วันเชียวครับกว่าจะรู้ว่าไอ้สิ่งที่ตื่นเต้นกันนักกันหนาเป็นเพียงแค่เจลลดไข้เด็กเท่านั้นไม่ใช่เอเลี่ยน สัตว์ประหลาด ไม่ใช่อึมนุษย์ต่างดาวและอะไรหลายๆ อย่างที่หลายคนจินตนาการ

เป็นเพราะนักข่าวรู้อยู่แล้วหรือเป็นเพราะไม่รู้จริงๆ หรือเป็นเพราะว่ารู้ว่าข่าวในลักษณะ "ขายได้" หรือเพราะการปิดหน้าที่ต้องรีบเร่งจนทำให้เกิดการลืมหาข้อมูลมาตรวจสอบก่อน กระทั่งทำให้การเสนอข่าวเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งก็ไม่ใช่หนังสือพิมพ์อย่างเดียวหรอกครับ ขนาดรายการข่าวทีวีของคนดังอย่างคุณ ส.คุณ ก.ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้อย่างออกหน้าออกตาไม่ได้

ถัดจากเรื่องของการนำเสนอข่าวของสื่อ ทีนี้เรามาดูกันว่าการรักษาความปลอดภัยที่แสดงถึงสวัสดิการของคนไทยเรามีสูงเพียงใด โดยวัดเอาจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

3 - 4 วันเช่นกันครับกว่าที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจหรือมีใครออกมายืนยันอย่างจริงๆ จังๆ ว่าไอ้เจ้าสิ่งนี้มันคือเจลฯ

ลองคิดกันในมุมกลับ หากมันเป็นอย่างอื่นๆ และลองคิดกันในมุมกลับที่เป็นแง่ร้ายว่า มันเป็นอย่างอื่นที่มีอันตราย สามารถติดเชื้อแพร่พันธุ์ เป็นโรคติดต่อ เป็นอะไรต่อมิอะไร แล้วอะไรจะเกิดขึ้น?

หรือว่าท่านผู้รู้หลายคนเห็นข่าวก็รู้อยู่แล้ว แต่ไม่มีคนมาถาม หรือท่านผู้รู้ท่านรู้อยู่แล้วเพียงแต่ว่าอยากจะให้คนไทยที่ไม่รู้ตื่นเต้นกันเล่นๆ ก่อนจะค่อยๆ ขยับเขยื้อนเคลื่อนกายออกมาบอก คนที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบคลายความสงสัย

ประเด็นเดียวกันแต่ย้อนกลับไปในส่วนของนักข่าว สังเกตมั้ยว่า แม้จะไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทว่าการเตือนให้เห็นว่าเจ้าสิ่งที่ไม่รู้นั้นอาจจะมีอันตรายกลับแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยในการนำเสนอ หากแต่พร้อมใจกันจงใจทำให้ข่าวนี้ดูน่าตื่นเต้นเชิญชวนเข้าไปให้น่าค้นหาอีกต่างหาก

ในขณะที่หลายมองว่าสาเหตุที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นน่าจะมาจากการที่ทางบริษัทที่ขายเจลชนิดนี้อยู่ต้องการโฆษณาสินค้าตนเอง ในขณะที่หลายคนที่คลั่งการเมืองนิดๆ มองว่านี่อาจจะเป็นการสร้างข่าวตลกฮาๆ ของรัฐบาลเพื่อจะกลบข่าวกระแสการเมืองที่กำลังร้อนแรงอยู่ หรือในมุมของผม ผมมองว่าน่าจะเป็นพวกมือบอนที่นึกสนุกมากกว่า ยิ่งหนังสือพิมพ์ลงกันครึกโครมมีคนออกมาพูดเป็นตุเป็นตะ ยิ่งสนุก โยนกันตรงนั้นที ตรงโน้นที ไปโผล่ทั้ง อุทัยธานี, ขอนเเก่น, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, เเพร่ เเละที่กรุงเทพฯ

แต่ไม่ว่าสาเหตุของการปรากฏของเจลจะเป็นเพราะอะไร ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เอาเรื่องของความ ไม่รู้ของคนในบ้านเรามาเป็นเรื่องตลกทั้งสิ้น

จริงๆ เรื่องนี้ ข่าวนี้น่าจะจบไปแล้วครับ ถ้าไม่ติดข่าวพาดหัวจากนสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันนี้(16) วันที่เขียนต้นฉบับเรื่องนี้อยู่ที่ว่า...เศษคลุกข้าวกินไม่สนว่าเป็น "เจลลดไข้" เชื่อตัวประหลาดเป็นของศักดิ์สิทธิ์ - ชาวบ้านไม่สนวัตถุประหลาดจะเป็นเจลลดไข้เด็ก ยังคงแห่กันไปดูหนอนวุ้นที่จังหวัดอุทัยฯ กันเพียบ เจ้าของบ้านเชื่อเป็นของศักดิ์สิทธิ์ แถมนำเศษเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยมาคลุกข้าวกินเฉยไม่สนใครจะว่าอย่างไรทั้งๆ ที่กระทรวงวิทย์ฯ-อย.- สธ. ออกมาเเถลงไขปริศนาระบุความจริงไปเเล้ว...

อาจจะเหมือนโยนบาปแบบกำปั้นทุบดิน แต่ผมอยากจะยกให้ภาวะอาการน่าเป็นห่วงในสุขภาพของชาวบ้านที่ได้รับประทานเจลที่ว่าเข้าไปนี้เป็นผลพวงมาจากระบบการศึกษา รวมไปถึงการนำเสนอข่าวทั้งหลายของสื่อที่แข่งกันขายข่าวจนกระทั่งดูเหมือนจะละเลยหรือยอมเสียเวลาในเรื่องที่(สม)ควรจะตรวจสอบเสียก่อนกระทั่งดูกลายเป็นสิ่งที่มอมเมา ปลูกฝังความคิด ความเชื่อแบบผิดๆ ราวกับเป็นหนังสือแปลก หนังสือพิสดาร แทนที่จะมุ่งให้คนอ่านได้เกิดการคิด ตั้งข้อสังเกต และค้นหาในคำตอบ

ก็ได้แต่คงต้องช่วยกันภาวนาแหละครับว่าคงจะไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่รับประทานเจลฯ ที่ว่าเข้าไป

แต่ตอนนี้ หวยจะออกแล้ว

ยังไงก็ช่วยกันภาวนาให้หวยเอเลี่ยน(เจล)นี้ออกสักหน่อยแล้วกันนะครับ

3 ตัวจังๆ รับรองจะสร้างสระใหญ่ๆ เลี้ยงเอาไว้บูชาสัก 100 - 200 ตัวเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น