xs
xsm
sm
md
lg

‘เด็กเลี้ยงแกะ’ สมศักดิ์ศรี 20 ปี อัสนี-วสันต์ โชติกุล(1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหมือนเดินหลุดเข้าสู่อีกมิติหนึ่งในภวังค์ที่เกิดจากการกรีดสายเส้นเสียงกีตาร์บนเนื้อของอารมณ์ที่กลั่นออกมาจากห้วงลึกภายใน เป็นพาหะเดินทางเข้าไปสู่วันที่ 30 กุมภาพันธ์ 2549 การไต่บนเส้นลวดของความรู้สึกที่หลุดออกไปในการนำเสนอไอเดียหรือความคิดที่แหวกและเฉียบแหลมออกมาในบทเพลง ’30 กุมภา 2549’

ดนตรีบรรเลงที่มีเสียงกีตาร์เป็นพระเอกนำสู่ห้วงความคิดและตีความผ่านประสบการณ์และปูมหลังของคนฟังว่า จะเดินไปสู่หนใดในการพาตัวเองล่องลอยผ่านความคิดและจินตนาการ นี่คือความยอดเยี่ยมของ "อัสนี โชติกุล" ที่ทำงานสร้างสรรค์ในเชิงศิลปะบทเพลงและดนตรีให้ขยายขอบข่ายมิติความคิดออกไป ไม่จบแค่การเสพฟังเพียงอย่างเดียว แต่สามารถให้คนฟังเดินร่วมและสร้างโลกของความตีความในแง่มุมต่างๆ และสนุกกับการเล่นกับปริศนาที่โยนมาคือชื่อของบทเพลง ’30 กุมภา 2549’ ซึ่งไม่มีอยู่ในโลกจริง

เพราะปี 2549 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน และเดือนกุมภาพันธ์ทุก 4 ปี เวียนบรรจบจะมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ขึ้นมาครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีวันที่ 30 กุมภาพันธ์ในปฏิทิน

นี่คือการคิดชื่อเพลงและทำงานดนตรีแบบกลั่นกรองและวางแผนอย่างสลับซับซ้อน แค่ 1.27 นาทีซึ่งผ่านเลยไป ได้ก่อตัวให้มีจินตนาการขึ้นแตกต่างกันไปตามความรู้สึกของผู้ฟัง เสียงกีตาร์โซโล่ในลักษณะลากท้ายพยางค์เสียงยาวตามแบบสโลว์แฮนด์ มีความคมเข้มในแต่ละตัวโน้ตที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมา เมื่อผนวกด้วยกับเสียงซินธิไซเซอร์ที่ปูคลอลอยล่องอย่างลึกลับในลักษณะของเสียงในแบบตะวันออก ทำให้บทเพลงนี้ ซึ่งบรรเลงด้วยการโซโล่กีตาร์สามารถต่อยอดความคิดของคนฟังว่า จะเดินทางไปมุมไหนในจินตนาการของตัวเอง

’30 กุมภา 2549’ ถูกวางไว้เป็นบทเพลงที่ 11 ซึ่งก็เหมาะสมในการวางคั่นเพื่อจะฟังบทเพลงที่เหลืออีก 3 บทเพลงสุดท้าย เพราะน่าจะเป็นบทเพลงที่ต้องใช้สมาธิอยู่ส่วนหนึ่งเพื่อปิดท้ายการฟังอย่างเพลิดเพลินและยอดเยี่ยมในเชิงดนตรีร็อกที่หนักหน่วง และบัลลาดร็อกในลายเซ็นหรือสกุลเพลงของอัสนี โชติกุล

52.11 นาที ที่พุ่งทะยานและโขยกดนตรีร็อกที่ดุเดือด รวมถึงบัลลาดร็อกหวานซึ้งปนเศร้ากรีดใจกับ 14 บทเพลงเต็มอิ่ม และได้ความอร่อยรูหูในอัตราส่วนที่กำลังเหมาะเจาะ

นานเหลือเกินแล้ว สำหรับการฟังอัลบั้มเพลงไทยแล้วจะได้จดจ่อมีความตื่นเต้น เสพบทเพลงและดนตรีอย่างสนุกสนานเหมือนมีอะไรให้ค้นหาในตัวเพลงอย่างเร้าใจ ไม่ใช่เพียงผ่านหูแล้ว พยักหน้าพอผ่านไป

อัลบั้ม ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ ซึ่งเป็นงานสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ล่าสุดของอัสนี-วสันต์ โชติกุล สามารถสร้างพลังอย่างนั้นในการฟังได้เป็นอย่างดี เรียกเอาความรู้สึกสนุกในการฟังเพลงร็อกไทยขึ้นมาอีกครั้งแบบเมื่อครั้งในอดีต

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า อัสนี โชติกุล ได้สถาปนาตัวเองและผลงานให้เป็นหนึ่งในจำหลักของประวัติศาสตร์ของดนตรีร็อกในเมืองไทยไปอย่างเรียบร้อย โดยประมวลได้จากผลงานที่สร้างทำสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีต ยิ่งการมาสร้างค่ายเพลงมอร์มิวสิค จะด้วยความตั้งใจหรือการแกมบังคับหรือไม่ก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นกึ๋นของรสนิยมในดนตรีร็อกของเขาว่า เปิดกว้าง หัวก้าวหน้า สามารถคัดเลือกและดึงศักยภาพและฝีมือของนักร้องและวงดนตรีที่อยู่ในสังกัดให้ขับเน้นโดดเด่นออกมามีลักษณะเฉพาะตัวของตัวเอง ที่สำคัญเขาสามารถทำให้อัลบั้มที่ออกในสังกัดมอร์มิวสิคมีพื้นที่ในตลาดเพลง ประสบความสำเร็จในยอดขายและกลายเป็นวงดนตรีของยุคสมัยในเส้นทางดนตรีร็อกได้เช่นกัน

แบล็คเฮด, ซิลลี่ฟูลส์, โลโซ, สิบล้อ, ฟาเรนไฮต์, ฯลฯ สามารถสร้างตัวตนมีพื้นที่อันเป็นที่นิยมและฐานแฟนเพลงในลักษณะอุ่นหนาฝาคั่งของคอร็อกแบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี

จากจุดนี้นอกจากงานของอัสนี-วสันต์ โชติกุลเองแล้ว รวมทั้งผลงานดนตรีร็อกของเหล่านักร้องนักดนตรีในค่ายมอร์มิวสิค เมื่อมาประมวลกอปรรวมและชั่งนำหนักแล้ว แสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมดนตรีร็อกที่มีต้นแบบจากโลกตะวันตกสามารถนำมาสร้างสรรค์และประยุกต์ให้เข้ากับรสนิยมหูหรือการฟังเพลงร็อกของคนไทยได้เป็นอย่างดี

ในฐานะนักร้องนักดนตรี ในฐานะโปรดิวเซอร์ ในฐานะผู้บริหารค่ายเพลง แสดงให้เห็นถึงฝีมือของเขาแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดเพลงเป็นอย่างดี อย่างหาตัวจับวางเทียบได้ยากคนหนึ่งสำหรับตัวของอัสนี

สิ่งที่สัมผัสได้อย่างเด่นชัดในขอบข่ายความคิดก็คือ เอกลักษณ์ของการสร้างสรรค์งานไม่ว่าในนามของอัสนี-วสันต์เอง หรืองานของวงดนตรีในสังกัดล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มาทางเพลงทางดนตรี มีบุคลิกของดนตรีและการเขียนเพลงที่ชัดเจนไม่เดินตามรอยทางของใคร ใช้อิทธิพลและแรงบันดาลใจจากดนตรีร็อกจากต่างประเทศมาทำให้เป็นสไตล์ของตัวเอง โดยยืนบนหลักให้ถูกหูถูกใจคนฟังเพลงไทย

นับว่าในส่วนนี้ อัสนีสามารถผ่องถ่ายอิทธิพลการทำงานในสไตล์ของเต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ผู้สถาปนาแกรมมี่ซาวด์ขึ้นมาในอุตสาหกรรมเพลงไทยมาได้อย่างเต็มที่ เข้าใจเชิงชั้นและการทำเพลงที่ตามใจตัวเอง และไม่ขัดใจตลาด ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่การประนีประนอม แต่เป็นสัมผัสพิเศษของการทำงานในโลกของธุรกิจดนตรีที่ใช้แกนของคำว่า ‘พาณิชย์ศิลป์’ ที่มีคุณภาพเป็นพลังในการขับเคลื่อนถ่ายเทความคิดทางดนตรีผลิตบทเพลงร็อกออกมา

ว่าไปแล้ว งานของอัสนี-วสันต์ โชติกุล รวมทั้งของวงดนตรีในค่ายมอร์มิวสิคถือว่า ประสบความสำเร็จสามารถพาตัวเองเข้าไปมีที่ทางในตลาดคนฟังเพลงป็อปหรือตลาดเพลงกระแสหลักในวงกว้างได้อย่างเต็มที่ สามารถสร้างสายสกุลเพลงร็อคแบบมอร์มิวสิคขึ้นมาได้ ฉีกหลุดออกไปจากความเป็นแกรมมี่ซาวด์ได้ชัดแจ้ง

กลับมาที่งานในอัลบั้ม ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ ของดูโอร็อกเกอร์ที่มีฐานคนฟังเพลงขาประจำที่เหนียวแน่นที่สุดในเมืองไทย สองศรีพี่น้องจากเมืองเลย อัสนี-วสันต์ โชติกุล ที่กำลังเฉลิมฉลองกับการทำงานในนามนี้ครบวาระ 20 ปี แน่นอนก็เป็นการฉลองของการมีเลข 5 นำหน้าอายุไปในตัวด้วย กลายเป็นคนดนตรีรุ่นใหญ่อย่างสมศักดิ์ศรีสมฐานะ

หลังจากพูดถึลงงานดนตรีบรรเลงในบทเพลง ’30 กุมภา 2549’ เรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว ก็เหลือบทเพลงในอัลบั้มที่มีเรื่องและประเด็นให้พูดถึงอยู่ในระนาบที่ลึกลงไปได้อีก ไม่ใช่เป็นเพียงบทเพลงที่พูดแค่เพียงในระนาบกว้างเพื่อความบันเทิงและรื่นหูในการฟังเพียงถ่ายเดียว

อัสนี-วสันต์ โชติกุล ได้เดินกลับไปหาจุดเดิมแท้ของแก่นความคิดที่เคยสร้างตัวจนและเอกลักษณ์ของดูโอร็อกเกอร์ที่เข้มข้นขรึมขลังเหมือนในยุค 20 ปีที่แล้ว แล้วสร้างสรรค์งานดนตรีร็อกที่ร่วมสมัยเปี่ยมด้วยฝีมือและกึ๋นออกมา ที่สำคัญไม่ทิ้งคนฟังในตลาดเพลงกระแสหลักกลุ่มใหญ่ ยังอิงฐานไว้อย่างแนบแน่น

งานเพลงหลายๆ เพลงในอัลบั้มชุดนี้สามารถนำมาตีความทั้งในเชิงความรัก เชิงปรัชญา เชิงการเมืองได้อย่างคมคายและคมเข้ม รวมถึงดนตรีร็อกที่เป็นสื่อกลางก็โชว์ทักษะฝีมือ และความสามารถที่เอกอุออกมาได้อย่างน่าชื่นชม

คราวหน้ามาลงในรายละเอียดของบทเพลงร็อกที่เป็นเอกลักษณ์ของอัสนี-วสันต์ โชติกุลว่า ยอดเยี่ยมเพียงไร…
.....
paulheng2006@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น