เหนือเมฆ! เจ้าพ่อหนังโป๊เปิดขายทางเน็ต "โหลดได้-ไรท์ได้"

Vivid Entertainment ค่ายหนังปลุกใจเสือป่าชื่อดังของสหรัฐ เตรียมปฏิบัติการตัดหน้าค่ายยักษ์ใหญ่ทั้งหลายของฮอลลีวูด ด้วยการเปิดให้โหลดหนังพิเศษของตน โดยเปิดโอกาสให้ลูกเค้าสามารถนำไฟล์ดังกล่าวไปไรท์เป็นดีวีดีที่สามารถนำไปเล่นบนเครื่องเล่นดีวีดีทุกชนิดเลยทีเดียว

ขณะที่บรรดาค่ายยักษใหญ่ยังลังเลต่อผลได้ผลเสียของการปล่อยหนังให้โหลดหนังทางเน็ต ผู้ผลิตหนังผู้ใหญ่นำโดยค่ายดังอย่าง Vivid Entertainment ได้ทำการเปิดขายหนังทางเน็ตผ่านทางเว็บไซต์ CinemaNow เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และที่เหนือกว่า ไฟล์ที่ได้มายังสามารถไรท์เป็นแผ่นดีวีดีที่เล่นได้บนเครื่องเล่นปกติ ไม่ได้จำกัดให้เล่นเฉพาะบนเครื่องคอมพิวเตอร์เหมือนไฟล์ของบรรดาค่ายยักษ์เสียด้วย

ไมเคิล กรีสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทดิฟฟัสชัน กรุ๊ฟ หน่วยงานวิจัยผู้บริโภคประเภทสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในเมืองพลาโน รัฐเท็กซัส กล่าวถึงการเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า "เป็นอีกครั้งที่ธุรกิจสื่อลามกได้เป็นผู้แผ้วถางเส้นทางธุรกิจสายใหม่ พวกสตูดิโอยักษ์ใหญ่ต่างถอยมาข้างหลังแล้วยืนดูบรรดาผู้ผลิตสื่อลามก ที่ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อเสี่ยงต่อปัญหาทางเทคนิกต่างๆ บนการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต"

ข้อสังเกตก็คือความแตกต่างทางช่องการขายที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อบรรดาค่ายยักษ์ใหญ่ในการเปิดสู่ตลาดดาวน์โหลดภาพยนตร์อย่างเต็มตัว เนื่องด้วยเป็นที่ยอมรับกันว่ารายได้ทางการขายดีวีดีทุกวันนี้สามารถทำเงินให้กับรรดาสตูดิโอได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่าการฉายผลงานในโรงเป็นไหนๆ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงไปสู่การดสวน์โหลดอย่างเต็มตัว อาจสร้างความไม่พอใจต่อพ่อค้าคนกลางอย่างร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่างวอล-มาร์ทและร้านบล็อกบัสเตอร์ ที่กำลังกอบโกยรายได้จากการขาย-เช่าดีวีดีอยู่ก็เป็นได้

แต่ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ผู้ผลิตหนังพิเศษทั้งหลายต้องกังวลแต่อย่างใด โดยบิล แอชเชอร์ ประธานร่วมและผู้ร่วมก่อตั้ง Vivid Entertainment ค่ายหนังผู้ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดของปัจจุบัน ได้ยืนยันถึงความได้เปรียบของธุรกิจของตนว่า

"เราไม่จำเป็นต้องแบ่งพายชิ้นหวานกับใคร สินค้าเราขายในร้านที่เล็กกว่า มีเครือข่ายที่ครอบคลุม แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับรายการสั่งซื้อทางโทรศัพท์หรอกน่ะครับ"

โดยเทคนิกการป้องกันการก็อปปีทุกวันนี้ที่ทางสตูดิโอต่างๆ ใช้อยู่ได้แก่ระบบที่เรียกว่า CSS หรือ content scrambling system ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ชมไรท์ดีวีดีแล้วนำไปแจกจ่ายทางอินเตอร์เน็ต โดยระบบดังกล่าวยังถูกสร้างขึ้นในเครื่องเล่นดีวีดีในปัจจุบันเพื่อบล็อกการเล่นแผ่นดิสที่ถูกไรท์มาจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากเวลาที่ผ่านมาระบบดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันเท่าที่ควร

ขณะที่การมาถึงของ HD DVD และ Blu-ray ที่จะใช้ระบบการป้องกับแบบใหม่ ที่อนุญาตให้ดีวีดีที่ไรท์บนคอมพิวเตอร์สามารถเล่นบนเครื่องเล่นดีวีดีทั่วไปได้ แค่ยังอีกนานกว่าเครื่องเล่นที่มีความสามารถดังกล่าวจะออกมาแทนที่เครื่องเล่นที่มีอยู่เดิม ซึ่งทางสตูดิโอกล่าวว่าการอนุญาตให้เครื่องเล่นสามารถอ่านแผ่นที่ไรท์จากอินเตอร์เน็ตได้ก็ต่อเมื่อเครื่องเล่นรุ่นใหม่ดังกล่าวได้รับการตอบรับในวงกว้างเสียก่อน

ขณะที่ทาง Vivid Entertainment กล่าวว่าการดาวน์โหลดหนังของตนจะมีราคาอยู่ที่ 19.95 เหรียญต่อเรื่อง โดยจะไม่ใช่ระบบป้องกันแบบ CSS แต่ทาง CinemaNow ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้โหลดหนังของค่ายดังกล่าวจะใช้วิธีที่เหมาะสมกว่า ด้วยการป้องกันตัวดิสที่ไรท์เรียบร้อยแล้วไม่ให้สามารถไรท์ไปสู่ดิสแผ่นอื่นอีกต่อไปนั่นเอง

ขณะที่ทางสตูดิโอค่ายหนังยักษ์ใหญ่ต่างๆ กำลังลองกับหลายๆ กลวิธีในการเข้าสู่ช่องทางการขายแบบใหม่ ทั้งการที่ค่ายดังอย่างวอร์เนอร์ บราเดอร์สและยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ ได้ส่งหนังไปทางไปรษณีย์แก่ลูกค้านอกสหรัฐที่ดาวน์โหลดหนังของตนด้วย แต่เป้าหมายสูงสุดของทางสตูดิโอทั้งหลาย คือการปล่อยหนังและรายการโทรทัศน์ไปสู่โลกไซเบอร์ แล้วส่งตรงไปสู่เครื่องรับโทรทัศน์โดยผ่านทางสื่อดีวีดีทั้งหมด

"ลองนึกดู ถ้าแค่เราหยิบรีโมทแล้วกดปุ่ม จากนั้นทุกอย่างที่อยากดูก็มาอยู่ที่น่าจอ มันจะยอดเยี่ยมขนาดไหน" กรีสันกล่าวถึงความเป็นไปได้ของการรับชมความบันเทิงในอนาคต

ขณะที่ฮอลลีวูดกำลังจะก้าวเดินไปสู่การเปลี่ยนแปลงนี้อย่างช้าๆ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการประนีประนอมต่อตัวแทนจำหน่ายดีวีดีรายย่อย ,หุ้นส่วนทางสื่อในสังกัด ,โรงภาพยนตร์ และผู้เสียประโยชน์รายย่อยอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยกรีสันกล่าวว่า

"ยิ่งพวกเขาเดินหน้าในการค้าทางโลกไซเบอร์มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งหันหลังให้กับหุ้นส่วนเป็นเป็นเจ้าของสื่อกลางอื่นๆ มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เป็นจริงได้"

และก็เป็นอีกครั้งที่สื่อลามกที่มีข้อจำกัดในทางธุรกิจที่น้อยกว่า จะเป็นผู้แผ้วถางธุรกิจรูปแบบใหม่นี้อีกครั้งหนึ่ง

"สื่อลามกถือเป็นผู้นำตลาดของพวกเรา หลังจากทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำในโลกไซเบอร์แล้ว พวกเขารู้ดีว่ายังมีโอกาสตักตวงได้อีกมาก ถ้าสินค้าของพวกเขาส่งตรงไปถึงโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นของลูกค้าโดยตรง" กรีสันทิ้งท้าย