xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ต้านฉาย “แอน” ขอแค่บอก Davinci Code เป็นนิยาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รุนแรงทีเดียวสำหรับกระแสต่อต้านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ The Davinci Code จากเหล่าคริสเตียนที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยโดยในวันนี้(15)ตัวแทนคณะกรรมการประสานงานคริสตจักรโปรเตสแตนต์แห่งประเทศไทย (กปท.) ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ระงับการฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่จะเข้าฉายในวันที่ 18 พ.ค.นี้ พร้อมนัดรวมตัวกันประกาศจุดยืนในวันที่ 16 พ.ค.มีคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง อาทิ บอย โกสิยพงษ์, ปุ๊ อัญชลี ฯ เข้าร่วม

เกี่ยวกับกระแสที่เป็นอยู่ สอบถามไปยัง “แอน นันทนา บุญหลง” หนึ่งในผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์เผยว่า โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่านี่คือนวนิยาย และอยากจะให้ทางผู้สร้างหนังทำความเข้าใจกับคนดูว่าเป็นเรื่องแต่งไม่ใช่เรื่องจริง

“คืออยากให้ทุกคนรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มันมีหลายๆ ส่วนเราจะชี้แจง มันมีความรู้สึกว่า เราไม่อยากให้ใครมาเข้าใจผิดในเรื่องความเชื่อ ความที่เราเป็นคริสเตียนไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด มันค่อนข้างเซ้นซิทีฟ คริสเตียนรุ้สึกอย่างไรกับดาวินชีโค้ด เรารู้สึกว่ามันเป็นนวนิยายแค่นั้น”

“การที่เราจะไปยื่นหนังสือพรุ่งนี้(16)เนี่ยเป็นเพราะว่าเราอยากให้สังคมทั้งหมดเป็นนวนิยาย เราเชื่อว่าถ้าคนดูรู้ว่ามันคือนวนิยาย ก่อนที่เขาจะเชื่อเขาต้องค้นหาความจริงก่อน แต่ที่นี้ถ้าทุกคนไม่รู้ คนก็อาจจะเชื่อไปอย่างนั้นได้ มันก็เป็นไปได้ที่หลายๆ คนจะอิน และเข้าใจผิด”

ไม่ต้องถึงขั้นระงับการฉาย แค่แจงว่าเป็นเรื่องแต่งก็พอ
“ไม่นะคะ ไม่ได้ต้องการให้ระงับฉาย อยากฉายก็ฉายได้ แต่ขึ้นว่ามันคือนวนิยาย ว่ามันคือนวนิยายทั้งต้นและจบเรื่อง และเราก็เข้าใจคนสร้างเขาก็อยากโชว์ศิลปะ แต่บางครั้งงานสร้างสรรค์ของเขามันไม่แฮปปี้กับความเป็นคริสเตียนบอกเรา คือจริงๆ ในดาวินชีโค้ดในหนังสือเค้าก็เขียนมาเลยว่ามันคือนวนิยาย แต่ทีนี้พอมาฉายในเมืองไทย ถ้าไม่มีการบอกว่ามันคือนวนิยาย มันก็ไม่รู้ คนก็จะนึกว่าเรื่องจริง บิดเบือนได้”

“วงการหนังต้องศึกษาอะไรมากๆ บางเรื่องมันเซ้นซิทีฟมากกับคนบางกลุ่ม ถ้ามันไม่มีความจำเป็นที่ว่ามันไม่ควรจะทำให้คนเรารู้สึกว่าขัดแย้งกันขึ้นมา โดยเฉพาะเพื่อนๆ พี่ที่เป็นพุทธเค้าก็อยากดูนะ พี่ก็บอกว่าไปดูนะ เรายินดีอธิบายให้รู้ว่าส่วนไหนที่มันไม่ใช่ จริงๆ มีคนทำวิจัยมาแล้วว่ามันไม่ใช่ อยากให้รอฟังการแถลงพรุ่งนี้”

คนสร้างอาจจะมองว่าเพื่อศิลปะและความบันเทิงของหนัง อาจไม่มีเจตนาบิดเบือน ตรงนี้คิดอย่างไร?
“ตัวพี่ไม่รู้สึกอะไร ถ้าสิ่งที่เขาใส่ไปเขาพรีเซ้นต์ให้คนรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เขาจินตนาการเพิ่ม แต่ก็ขอให้ขึ้นให้คนรู้ว่ามันคือนวนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง เท่านั้นเอง แต่บางกลุ่มขึ้นว่าเป็นนวนิยายเขาก็อาจจะยังคล้อยตาม”

“เราชี้แจงผ่านสื่อ คนดูเขาก็จะเกิดวิจารณญาณว่าเขาควรจะไปดูอย่างไร จริงๆ เราคุยกันถึงขนาดว่าเรามีคู่มือน่ะ เรามีคู่มือการดู เหมือนตอนดูสุริโยไทว่ามันเป็นประวัติศาสตร์ช่วงไหน อะไรอย่างไร บางที อาจจะมีคู่มือแจกให้คนดู หรือบางทีอาจจะมีเว็บ มีหนังสือ ให้คนที่เขาอยากรู้ได้รู้ ว่าจริงๆ มันเป็นอย่างไร”

กลัวมั้ยว่ายิ่งออกมาต่อต้านมากๆ ก็ยิ่งจะเป็นการโปรโมตหนังไปในตัว?
“ด้วยความเป็นคริสเตียน เราไม่อยากมองอะไรเป็นลบหมดไงคะ เหตุการณ์ทุกสถานการณ์มันจะมีทั้งบวกและลบ ถึงแม้บางสถานการณ์มันจะไม่ดี เราพยายามมองอีกด้านว่า เออ...หลังจากหนังออกไปอาจจะมีคนที่อยากศึกษาความจริงก็ได้ อีกหลายคนก็อยากรู้จักพระเจ้าหรือพระเยซูมากขึ้น เรามองในมุมบวกไว้ด้วย”

“พี่ฝากถึงความรู้สึกและจิตสำนึก พี่เชื่อว่าทุกคนอยากประสบความสำเร็จกับงานที่เราทำ แต่ทีนี้บางครั้งมันไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำอะไรขึ้นไปหรือบิดเบือนความจริงบางอย่าง ให้เราเชื่อในความจริง ความถูกต้องมากกว่า ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ้าเขาทำแบบนี้ แล้วเค้าโปรโมตในส่วนที่มันคือนวนิยาย บางทีเขาอาจจะประสบความสำเร็จในมุมอื่นก็ได้ แต่มาบิดเบือนความจริงบางอย่างเพื่อให้คนอยากไปดู ตรงนั้นต่างหากที่ยกประเด็นผิดมา”

“จริงๆ เรื่องนี้ถูกห้ามฉายในหลายประเทศที่เป็นคริสต์ แต่สำหรับประเทศไทยขอแค่บอกว่ามันคือนวนิยายไม่ใช่เรื่องจริงก็พอ แต่บ้านเราเป็นประชาธิปไตย คงมีหลายๆ คนที่อยากรู้ อยากค้นหาความจริง”
กำลังโหลดความคิดเห็น