แพทย์แจงอาการ "ฉัตรชัย" "ไก่" ยันไม่ได้เป็นเอดส์

แพทย์แจงอาการ "นก ฉัตรชัย" แบคทีเรียขึ้นสมองรักษาได้แต่ต้องใช้ระยะเวลา ด้านเจ้าตัวฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เผยกำลังใจดี ทั้งเมีย-ลูก อยู่ไม่ห่าง ส่วนภรรยา "นก สินจัย" มั่นใจสามีต้องหายเป็นปกติ ขณะที่ "ไก่ วรายุฑ" ปัดข่าวพระเอกดังเป็นเอดส์

สร้างความเป็นห่วงเป็นใยปนความสับสนให้กับบรรดาแฟนหนัง - ละครเป็นอย่างยิ่งกับอาการป่วยของนักแสดงระดับพระเอกชื่อดัง "นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช" หลังถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยหมอตรวจพบว่าเจ้าตัวมีอาการติดเชื้อทางเลือดก่อนลุกลามไปที่สมอง

ล่าสุดเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายเนื่องจากมีข่าวลือในทางร้ายๆ ออกมามากมายเกี่ยวกับอาการป่วยของเจ้าตัวทั้งที่ว่าเจ้าตัวจะเป็นอัมพฤกษ์, เป็นเอดส์ หรืออาจจะมีอาการเหมือนกับ "บิ๊ก ดีทูบี" ฯ ทางโรงพยาบาลฯ โดยการร้องขอจากญาติของนักแสดงดังจึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวขึ้นในวันนี้(14) โดยยืนยันว่าอาการป่วยของนักแสดงชื่อดังนั้นไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

"คุณฉัตรชัยมีประวัติปวดกล้ามเนื้อมาก ได้เข้าพบแพทย์ห้องฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา และอาการไม่ดีขึ้นหลังรับประทานยาแล้วจึงเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ช่วงเวลาประมาณ 16 .00 น. ซึ่งอาการก็มีปวดข้อหลายข้อแต่ไม่พบความผิดปกติอย่างอื่น ไม่มีไข้"

เช้าวันที่ 5 พ.ค. ทางแพทย์ได้ทำกายภาพบำบัด เพราะขาขวาเริ่มไม่มีแรง ร่างกายไม่มีไข้ แต่พบว่าเม็ดเลือดขาวมีมากผิดปกติจึงได้ปรึกษาแพทย์โรคทางประสาทสมอง และแพทย์โรคติดเชื้อมาดูแล ก่อนตรวจพบเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่าสเตร็ปโตคอคไค (Streptococci)
"หลังเข้าตรวจร่างกายพบว่ากล้ามเนื้อและเส้นประสาทของแขนขาข้างขวาผิดปกติ ไม่มีอาการไข้ จึงได้ส่งตรวจคลื่นแม่เหล็ก ของสมองและไขสันหลังในวันนั้น พบว่ามีการอักเสบที่สมอง ซีกซ้ายที่ควบคุมแขนขาขวา และผลเลือดมีเม็ดเลือดขาวสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้สงสัยว่ามีการติดเชื้อแม้ว่าจะไม่มีไข้ จึงได้ทำการเจาะเลือด เพาะเชื้อไว้ 2 ขวด และได้เริ่มให้ยาปฏิชีวนะ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาที่ผ่านมา"

"การเพาะเชื้อจากเลือดทราบผลในวันที่ 9 พ.ค. ช่วง 9 โมงเช้า และผลการตรวจน้ำไขสันหลัง วันที่ 5 พ.ค. พบว่าผิดปกติ และผลเพาะเชื้อขึ้น ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับเชื้อในเลือด จึงได้ให้ยาที่ตรงกับเชื้อและได้เพิ่มขนาดยาที่ใช้เพื่อให้ระดับยาเข้าสมองเพียงพอ ผลการเพาะเชื้อจากการเจาะเลือดอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค. ปรากฏว่าไม่พบเชื้อแล้ว แต่จากน้ำไขสันหลังครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน ยังพบเชื้ออยู่ ซึ่งเชื้อในสมองต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่า”

ปัญหาสำคัญต้องหาว่าต้นตอของเชื้อมาจากที่ไหน ก่อนจะชี้แจงเชื้อที่พบเป็นคนละตัวกับ "บิ๊ก ดีทูบี" พร้อมยืนยันเจ้าตัวอาการดีขึ้นมากแล้วและสามารถรักษาได้แม้จะต้องใช้เวลานานกว่าปกติเพราะเป็นที่สมอง
“ไม่ใช่ ของบิ๊กเป็นเชื้อรารักษาหายยาก ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ แต่ของคุณฉัตรชัยเป็นเชื้อแบคทีเรีย อย่างที่เรียนให้ทราบว่าการรักษาต้องเป็นขั้นเป็นตอนไป ต้องดูความก้าวหน้าของโรคแต่เชื่อที่เราตรวจพบนี้ระยะหลังปรากฏว่าตรวจดูก็ไม่มีแล้ว อันนี้เป็นสิ่งที่ดีเพราะแสดงว่าเชื้อถูกฆ่าไปแล้ว ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าอะไรที่เกี่ยวกับสมองต้องใช้เวลาต้องให้ยานานกว่าปกติ"

ด้านภรรยาของ "นก ฉัตรชัย" "สินจัย เปล่งพานิช" เผยต่อผู้สื่อข่าวพร้อมแสดงความมั่นใจว่าสามีตนเองจะต้องหายอย่างแน่นอน
"เป็นหน้าที่ของหมอเพราะคุณหมอจะดูแลเป็นเวลา มีการจัดยาทำกายภาพอะไรต่างๆ แต่คนที่ดูแลอยู่เป็นประจำคือพี่ไก่ วรายุฑ เพราะนกติดถ่ายละคร ก็ผลัดกันมาดู ช่วงไหนที่นกไม่ได้ถ่ายก็จะเป็นนกที่มาดู ตอนนี้เค้าดีขึ้นมากวันนี้เริ่มขยับตัวได้เยอะมากแล้ว จากที่ชาตอนนี้ดูมีเรี่ยวแรงขึ้น แขนก็เริ่มยกขึ้นได้แล้ว สภาพจิตใจตอนนี้ดูสบายดีขึ้น สดชื่น มีกำลังใจดีขึ้น"

"ก็มีเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการมาเยี่ยมตลอด เขาก็แข็งแรง เขาก็สู้ วันแรกอาจจะรู้สึกว่านานจัง เมื่อไหร่จะหาย ตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่ามันต้องใช้เวลา ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ อย่างที่คุณหมอบอกว่าหลายส่วนก็หายไปแล้ว เหลือบางส่วนเท่านั้นเองที่ยังต้องรักษาต่อไป เป็นเรื่องที่ดีแสดงว่าเขารับยาได้เร็ว นกก็บอกเขาว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย ถือว่ามาพักฟื้น เพราะปกติเค้าเป็นคนไม่ชอบเช็กร่างกายแต่เป็นคนชอบออกกำลังกาย ร่างกายเขาแข็งแรงหมด มีแบคทีเรียตัวนี้เท่านั้นที่ทำให้เค้าป่วย"

กลัวเป็นเหมือนน้องบิ๊กมั้ย?
“ไม่หรอก เพราะทราบอยู่แล้วว่าไม่ใช่ และคุณหมอยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ คนอาจจะไม่เห็นภาพพี่นก พอได้ยินว่ามีเชื้อแบคทีเรียก็เข้าใจกันไปหมดว่าเชื้ออยู่ในสมอง ต้องเป็นเหมือนน้องบิ๊กแน่เลย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่คนละตัวกัน ของพี่นกมันเป็นแบคทีเรียที่รักษาหายได้ ไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ข่าวออกไป"

"แขนขาลีบหัวลีบก็ไม่จริงค่ะ นกเข้าใจว่าทุกคนอยากจะเห็นว่าพี่นกชายเป็นอย่างไร แต่ความที่ตอนแรกเขาต้องพักผ่อนมากๆ ต้องให้ยาและเขาต้องให้กำลังใจตัวเองก่อน ตัวเขาขอให้เขาสบายใจ พร้อมที่จะเจอทุกคนก่อน แต่ตอนนี้เขาดีขึ้นแล้ว ก็พร้อมที่จะไห้เข้าไปถ่ายภาพได้แล้ว และตอนนั้นพี่นกเขากลัวติดเชื้อด้วยถ้าให้เข้าไปในห้อง ก็เลยไม่อนุญาตให้เยี่ยม"

ส่วนข่าวลือที่ว่าเจ้าตัวป่วยเป็นโรคร้ายอย่างโรคเอดส์นั้น "ไก่ วรายุฑ" ที่มาเฝ้าดูแลอาการป่วยอย่างใกล้ชิดเผยว่าไม่เป็นจริงอย่างแน่นอน
"ข่าวออกมาว่าเป็นเอดส์ไม่ยอมให้ถ่ายรูป ไอ้เราก็ตกใจ จริงๆ ไม่ใช่นะ ที่ไม่ให้เข้าเยี่ยมเพราะกลัวพี่นกติดเชื้อด้วย เรื่องละครที่ถ่ายค้างไว้ ก็ให้ถ่ายอันอื่นไปก่อนในส่วนของพี่นกเก็บไว้ถ่ายทีหลัง หลังจากหายแล้ว เราไม่เร่งรัดอะไรอยากให้รักษาให้หาย100% ละครรอได้ร่างกายรอไม่ได้"

ทั้งนี้หลังการสัมภาษณ์จบลงทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปพูดคุยกับทางพระเอกชื่อดังได้ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะมีร่างกายที่ซูบลงอย่างเห็นได้ชัดทว่าสีหน้าและท่าทางนั้นดูเหมือนคนปกติทั่วๆ ไป โดยเจ้าตัวบอกสั้นๆ ว่า...

“สวัสดีทุกคน สวัสดีสื่อมวลชนและแฟนๆ ทุกๆ คนครับ อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จากวันแรกที่เข้าโรงพยาบาลอาการค่อนข้างรุนแรงก็หนัก วันนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมาให้ ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทางคุณหมอเองก็ยืนยันแล้วว่าตรวจพบเชื้อแล้ว ตอนนี้ก็คงต้องพักรักษาตัวต่อไป ตอนนี้ก็มีนก น้องกัน แล้วก็มีพี่ไก่มาคอยดูแลอยู่ตลอดครับ”

.....

รู้จัก สเตร็ปโตคอคคัสชนิดบี
ภาวะติดเชื้อจากสเตร็ปโตคอคไค (Streptococci) ที่ “นก” ฉัตรชัย เปล่งพานิช นักแสดงชื่อดังป่วยอยู่นั้นตามคำบอกเล่าของ นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอคคัสกรุ๊ปบี ซึ่งเชื้อสเตร็ปโตคอคคัสในมนุษย์จะพบ 6 กรุ๊ป คือ กรุ๊ปเอ กรุ๊ปบี กรุ๊ปซี กรุ๊ปดี กรุ๊ปจี และกรุ๊ปเอ็ม โดยกรุ๊ปที่พบมากที่สุดคือ กรุ๊ปเอ พบในพวกที่มีอาการเจ็บคอ เป็นฝี หนอง แผลตามผิวหนัง ตุ่ม หนอง

ส่วนกรุ๊ปบี ที่ตรวจพบเชื้อในรายของพระเอกดังนายฉัตรชัยนั้น จะพบน้อย และส่วนใหญ่ที่พบจะพบในเด็ก หญิงหลังคลอด เป็นภาวะแทรกซ้อน และพบในผู้ใหญ่น้อยมาก ซึ่งถ้าพบก็จะเป็น report case ได้ มีระยะการฟักตัว ตั้งแต่ 1 - 3 วัน และ1 สัปดาห์ พบเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส กรุ๊ปบีนี้ ในบริเวณโพรงจมูก คอ ลำคอ ผิวหนัง ซึ่งจะพบเชื้อมาก ส่วนบริเวณช่องคลอด และรอบๆ ปากทวารหนัก พบน้อย

เชื้อสเตร็ปโตคอคคัสกรุ๊ปบี จะเกิดอาการรุนแรงสำคัญ 3 ประเภท คือ 1.เยื่อหุ้มสมองอักเสบ 2.ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และ 3.โลหิตเป็นพิษ กรณีของนายฉัตรชัยนั้น พบว่ามีอาการโลหิตเป็นพิษ และมีอาการทางระบบประสาท คือ แขนขาไม่มีแรงร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบนั่นเอง อย่างไรก็ตามก่อนถึงอาการโลหิตเป็นพิษ จะเป็นไข้ เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นหนอง การรักษาไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้ยาเพนนิซิลินธรรมดาฉีดเข้ากล้ามเนื้อเท่านั้น

“สำหรับการติดต่อนั้น เนื่องจากพบเชื้อในหลายที่ ทั้งโพรงจมูก คอ และลำคอ ต้องระมัดระวังการไอ จาม ให้ป้องกันโดยใช้ผ้าปิดปาก ไม่ไอ จามใส่กัน ส่วนแผล ฝี หนอง ที่มีแผลตามผิวหนัง ก็ระมัดระวังอย่าสัมผัส ใครที่ภาวะร่างกายอ่อนแอมากๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ต้องระวัง ไม่พบรายงานการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้เชื้อส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นกลุ่มเอ ในแต่ละปีพบผู้ป่วยในภาวะติดเชื้อจากสเตร็ปโตคอคไคกรุ๊ปเอ นับ 1 ล้านคน แต่ในผู้ที่ได้รับเชื้อนี้และเกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสโลหิต ที่เป็นกรุ๊ปเอ 146 ราย และที่เป็นกรุ๊ปบี 54 ราย ในจำนวนนี้ไม่มีการเสียชีวิต” นพ.ธวัช กล่าว