xs
xsm
sm
md
lg

อินคา 16 ปี แห่งความหลัง รวมพลังสู่ ‘Arrival’ การมาถึงของอดีต/พอล เฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัตตาที่คับพองของคนในวัยหนุ่ม เมื่อมาผนวกกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นแบบรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน จากนักร้องนักดนตรีธรรมดากลายเป็นวงดนตรีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองไทยในชั่วพริบตา จะจัดการกับแรงขับภายในที่พลุ่งพล่านจนฟุ้งซ่านๆ ได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เสมอ และไม่มีทางหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะวงดนตรีที่โด่งดังถึงขั้นสูงสุด การปะทะกันระหว่างอัตตาของสมาชิกในวงย่อมที่จะปะทุจนแตกหักยากที่จะหลอมรวมได้อีกต่อไป

ต่างคนต่างกลุ่มต่างแยกทาง…เดินจากกันไป

เมื่อทุกคนคิดว่าตัวเองมีดี มีหนทางของตัวเองที่จะพิสูจน์ออกมา โดยไม่ต้องยึดติดกับกลุ่มก้อนต่อไป ‘อินคา’ วงดนตรีในสไตล์ป็อปร็อกที่มีกรุ่นกลิ่นอายคันทรีร็อกผสมอยู่ ย่อมเป็นตัวอย่างที่ดีของวงดนตรีระดับป็อปปูลาร์หรือยอดนิยมในระดับสูงสุด ที่ต้องแตกดับไปก่อนกาลเวลาอันสมควรที่จะเป็น

สมาชิกยุคก่อตั้งแรกเริ่มและดั้งเดิมจำนวน 6 คน ศักดา พัทธสีมา (กีต้าร์-ร้องนำ), รณภพ อรรคราช (กีต้าร์-ร้องประสาน), วรวิทย์ พิกุลทอง (คีย์บอร์ด-ร้องประสาน), จารุวัฒน์ วิเศษสมบัติ (กีต้าร์-ร้องนำ), นล สิงหลกะ (กลอง-ร้องนำ), ปิติ ดวงพิกุล (เบส-ร้องประสาน) ปัจจุบันทุกคนต่างมีอายุเลข 4 ขึ้นนำหน้ากันเกือบทั้งสิ้น

หากเชื่อตามสุภาษิตของฝรั่งที่บอกว่า เลข 4 ถือเป็นช่วงอายุที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง วงดนตรีอินคาก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เมื่อกลับมารวมตัวกันทำอัลบั้มกันครบ 6 คนเท่ากับเริ่มก่อตั้ง หลังผ่านไปนานนมห่างกันถึง 16 ปีกับอัลบั้มชุดแรก ‘อินคา…คนล่าฝัน’ ซึ่งออกมาในปี 2533

อัลบั้ม ‘เออร์ไรวัล’ (Arrival) ที่ออกมาในปี 2549 นี้ ก็นับได้ว่าเป็นการหลอมละลายตัวตนที่เคยผ่านพ้นมาในอดีตมารวมตัวกันอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์และร้อนหนาวที่ผ่านมา ซึ่งหลายๆ คนก็หายหน้าหายตาไปจากการเป็นคนด้านหน้าไปทำงานอยู่ในฐานะคนเบื้องหลังแทน

ทั้ง 10 บทเพลงในอัลบั้มนี้ของอินคา เป็นงานป็อปร็อกในแบบผู้ใหญ่ที่พยายามคงกลิ่นอายความเป็นคันทรีร็อกอยู่จางๆ ห่างๆ ไม่เข้มข้นเท่าไหร่นัก ถือว่าเป็นการคลี่คลายตัวเองตามวันวัยและเวลา

หากย้อนกลับไปฟังงานชุดแรก ‘อินคา…คนล่าฝัน’ ทั้ง 10 บทเพลง ซึ่งถือว่าเป็นงานชิ้นเยี่ยมของวงอินคา โดยผ่านกระบวนการสร้างจากทีมผลิตเพลงของแกรมมี่ รวมถึงทีมสร้างภาพลักษณ์และการตลาดที่สามารถตอบโจทย์ในการสร้างวงดนตรีหน้าใหม่วงหนึ่งขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรูปลักษณ์ และภาพลักษณ์ภายนอกที่อิงกับแนวดนตรีที่ต้องการนำเสนอ โดยไม่หลุดออกจากกรอบในการทำเพลงพ็อพร็อกตามสูตรของแกรมมี่ ซึ่งในขณะพ.ศ.นั้น มีบุคลากรทางการเขียนเนื้อเพลงและดนตรีที่ทำงานเบื้องหลังก้าวหน้าที่สุดในเมืองไทยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการได้ชาตรี คงสุวรรณมาทำงานให้ฐานะโปรดิวเซอร์

การจัดวางตำแหน่งของอินคานั้นยอดเยี่ยม และมาแบบถูกที่ถูกเวลา ในช่วงเกือบ 20 ปีที่แล้ว แม้แกรมมี่จะครองตลาดเพลงป็อปและป็อปร็อกอยู่ แต่ในตลาดเพลงทั่วไปก็ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นของวงการเพลงเพื่อชีวิตเช่นกัน ด้วยภาพที่ออกไปของ 6 หนุ่มผมยาวสลวย หน้าตาไม่หล่อเหลามาก แต่ดูเท่เคร่งขรึม รวมถึงใส่เสื้อผ้าในแนวเมโทรโพลิแทน-คาวบอยซึ่งทันสมัย และสะอาด ทำให้สามารถขยายเข้าสู่อ้อมกอดของตลาดเพลงเพื่อชีวิตได้อยู่เช่นกัน 2-3 เพลงในงานชุดแรกของอินคา อาทิ ‘คืนรัง’, ‘ฮึด’, ‘ฝ่าวงล้อม’ ก็มีเนื้อหาออกไปทางปรัชญาและการให้กำลังใจ สามารถรับได้โดยไม่รู้สึกแปลกแยก

งานชุดแรกของอินคาบทเพลงมีคุณภาพที่เรียกว่า สามารถขึ้นเป็นเพลงฮิตได้ทุกเพลงเลยทีเดียว แม้บางเพลงจะมีท่วงทำนองและเมโลดี้ละม้ายเพลงจากฟากดนตรีตะวันตกอยู่บ้างก็ตาม

ส่วนงานชุดที่ 2 ที่ออกมาในปี 2535 ‘ตามรอยตะวัน’ แม้จะยังใช้ชื่ออินคาอยู่ แต่วงได้แตกไปเสียแล้ว เหลือสมาชิกดั้งเดิมแค่ครึ่งหนึ่งเพียง 3 คน ส่วนบทเพลงก็ไหลตามความสำเร็จเดิม

หลังจากนั้นอินคาก็ปิดฉากตัวเองลงไปอย่างสิ้นเชิง

การกลับมาออกอัลบั้มใหม่คราวนี้ ก็เป็นผลพวงจากการรียูเนี่ยนหรือกลับมารวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตตามกระแสความโหยหาของแฟนเพลงอินคา และถือว่าประสบความสำเร็จอยู่ในระดับที่ดี

บทเพลงของอินคาในคราวนี้ ยังใช้บริการของคนเขียนเนื้อเพลงอยู่ แต่ต้องยอมรับว่า สามารถเขียนเนื้อร้องที่มีเนื้อหาออกมาได้สมวัย และเป็นเพลงรักที่ไม่ขัดเขินจนเกินไป สำหรับในส่วนของดนตรีก็มีอยู่หลายเพลงที่นำแนวทางบทเพลงเก่าที่เคยฮิตนำมาสานต่อจากเดิม โดยภาพรวมแล้วทั้ง 10 เพลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของบทเพลงป็อปร็อกที่ฟังได้สนุกและเพลิดเพลิน

กว่าครึ่งอัลบั้มเป็นบทเพลงในแบบไม้ตายของอินคาในแบบที่เคยเป็นมาก็คือ บทเพลงเล่าเรื่องความรักที่ไม่สมหวังหรือความรักที่ครึ่งๆ กลางๆ เศร้าทว่าไม่หดหู่ เช่นเพลง ‘ไม่รัก’, ‘อีกไม่ช้า’, ‘จะดีจะร้าย?’, ‘ครึ่งทาง’ และ ‘หากเพียง’ ซึ่งบอกได้ว่าเป็นเพลงที่เรียกว่า ‘โดน’ ทั้งหมด

มุมมองในบทเพลงที่พยายามแสดงให้เห็นวัยวุฒิที่เปลี่ยนแปลงไปก็มีบทเพลง อย่าง ‘เจ้าชายในฝัน’, ‘ให้มันเนียนหน่อย’, ‘แหวนนิ้วนาง’ และ ‘แย่นะ’ เนื้อหาที่มีอยู่ในเพลงเหล่านี้ เด็กวัยรุ่นไม่มีทางหยิบมาพูดอย่างแน่นอน

‘รักแท้มีแค่ครั้งเดียว’ น่าจะเป็นเพลงที่ติดหูคนฟังเพลงที่เป็นแฟนเพลงเก่าๆ ได้ง่ายที่สุด เพราะมีกลิ่นและทางเพลงที่อิงอยู่กับงานเพลงดังในชุดแรกมากที่สุดเพลงหนึ่ง โดยเฉพาะการเขียนเพลงและเนื้อหาที่เป็นแบบอินคาจ๋าเลยทีเดียว แต่เพลงนี้พัฒนาขึ้นสู่ความสุขุมนิ่งลึกมากขึ้น

อัลบั้ม ‘เออร์ไรวัล’ ไม่ใช่งานที่เลิศหรูแสดงถึงพัฒนาการของความคิดและวันวัย รวมถึงมุมมองทางดนตรีที่แปลกและใหม่ไปจากเดิม แต่เป็นงานที่ทำออกมาเพื่อเชื่อมต่อแฟนเพลงดั้งเดิมและคนฟังเพลงรุ่นใหม่ให้รับงานเพลงป็อปร็อกในแบบอินคากันได้แบบสบายหู

คนที่เติบโตมากลับบทเพลงของอินคา ในช่วงเวลานี้ก็อยู่ในวัย 30 ปีขึ้นไป อยู่ในวัยทำงานมีกำลังซื้ออยู่พอสมควร กับการถวิลหาอดีตจึงพร้อมที่จะจ่ายออกไป โดยเฉพาะในงานคอนเสิร์ตที่ได้เสพฟังเพลงเก่าที่รู้จักกันดีแบบเต็มอิ่ม แต่สำหรับงานใหม่ก็คงตัดสินใจกันช้าหน่อย แต่คิดว่าอัลบั้มนี้น่าจะซึมเข้าสู่ฐานคนฟังกลุ่มเดิมไม่ยาก

แต่ถ้ามองกันอย่างเคร่งเครียด ในแง่ตัวตนและการแสดงออกในฐานะของคนดนตรีรุ่นกลางที่กำลังอยู่ในช่วงขยับขึ้นเป็นรุ่นใหญ่ อินคาไม่ได้ตอบหรือแสดงอะไรออกมาอย่างชัดเจน การทำงานในลักษณะประคองตัวเช่นนี้ นับได้ว่าเป็นการยืนนิ่งอยู่กับที่ รวมถึงไม่สามารถเทียบเคียงอดีตซึ่งมีความสดกว่า ทรงพลังมากกว่า

อินคาในอายุช่วงต้นวัย 40 ยังไม่หลุดออกมาสู่ความเป็นอินคาที่สลัดภาพอดีตได้ ยังยึดแน่นยึดมั่นอย่างมิยอมเปลี่ยนแปลง อัลบั้ม ‘เออร์ไรวัล’ ได้บ่งบอกด้วยตัวมันเองแล้ว
......
paulheng2006@hotmail.com
.....
Gold / Donna Summer
อยู่ยงคงกระพันในฐานะราชินีดิสโกที่มาก่อนใครๆ ด้วยพรสวรรค์ในการขับร้องที่มีพื้นฐานมาจากการฝึกฝนการร้องกอสเปล (เพลงสวดในโบสถ์) รวมถึงความสามารถในการเขียนเพลง การเเลือกโปรดิวเซอร์มาทำงานด้วย ทำให้เธอเป็นนักร้องเสียงในสายดิสโก หนึ่งในป็อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ในโลกดนตรี

ถือเป็นผู้บุกเบิกดนตรีในสายดิสโก คลับแด๊นซ์ และเออร์บัน ให้ขจรขจายไปสู่คนฟังในระดับมหาศาล อัลบั้มซีดีคู่ชุดนี้บรรจุไว้ 34 เพลง จะฟังได้ถึงความเจนจัดของตัวดอนน่า ซัมเมอร์ และโปรดิวเซอร์อย่างจิออร์จิโอ โมโรเดอร์ ทำเพลงอย่างไรให้ฮิต เต้นรำสนุก และโชว์กึ๋นทางเสียงร้อง และดนตรี
.....
Walk the Line / Original Soundtrack
งานเพลงของจอห์นนี่ แคช ขึ้นหิ้งคลาสสิกนิรันดร์กาลของวงการเพลงคันทรี ติดหูติดใจคนฟังมายาวนานกว่า 50 ปี หนังอัตชีวประวัติของตำนานเพลงคันทรีซึ่งวางวายไป ถือเป็นการบันทึกลงบนแผ่นฟิล์มเพื่อเป็นการคารวะ หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่มีเพลงเป็นแกนกลางเดินควบคู่ไปโดยปริยายอย่างช่วยไม่ได้

แม้หนังจะให้ดารานำ โจอาควิน ฟินิกซ์ กับรีส วิเธอร์สพูน และดาราประกอบเป็นคนร้องเพลงก็ตาม แต่ก็ได้อรรถรสโดยไม่ทำลายต้นฉบับดั้งเดิม เมื่อฟังเพลงอย่างเดียวทั้งอัลบั้มก็ต้องยอมรับว่า เป็นงานเพลงคันทรีซึ่งนำเพลงมาร้องใหม่ได้ดี แม้สู้ต้นฉบับไม่ได้ แต่ก็ได้อีกอารมณ์ของความตั้งใจและพยายามอย่างจริงใจ
.....
The Sound of Music [40th Anniversary Deluxe Editon] / Original Soundtrack
หนังเพลงอมตะไม่เคยตายเฉกเช่นหนังเพลงเรื่องนี้ คราวนี้มาในวาระครบรอบที่เคยลงโรงมาแล้ว 40 ปี ความอมตะคลาสสิกของหนังเรื่องนี้ต้องบอกว่า มีเพลงเป็นหลักใหญ่ พอมาผนวกองค์ประกอบทุกอย่างที่เข้มข้นลงตัวทำให้กลายเป็นหนังที่ดีเยี่ยม

คงไม่ต้องกล่าวถึงอะไรมากสำหรับงานเพลงคลาสสิก และการโชว์เสียงร้องในหนังเพลงเรื่องนี้ได้พิสูจน์ตัวเองมาเนิ่นนานอยู่เหนือกาลเวลา สำหรับการออกใหม่ครั้งนี้มีการนำเพลงในหนังเวอร์ชั่นที่ยังไม่เคยออกเผยแพร่มาเป็นโบนัส รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องที่สำคัญๆ ถือว่าเก็บสะสมเป็นงานประวัติศาสตร์ในวงการหนังเพลงของโลก
.....
Chasing Time: The Bedlam Sessions / James Blunt
ไม่ต้องสาธยายมาก เพราะเขาเป็นนักร้อง / นักเขียนเพลงที่ดังที่สุดในปีที่แล้วและลากยาวมาในปีนี้ด้วยบทเพลงที่อยู่ในระดับเมกะฮิตทั่วโลก ‘You’re Beautiful’ โด่งดังจนคนร้องติดปากและขายถล่มทลาย รวมถึงการคว้ารางวัลในหลายเวที ทำให้เขากลายเป็นป็อปสตาร์ที่มีโอกาสขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์สูงคนหนึ่งในวงการเพลงโลก

อัลบั้มนี้ถือเป็นงานเฉพาะกิจทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อฉลองความสำเร็จ มีดีวีดีที่แสดงถึงการทำงานและตัวตนของเจมส์ บลันต์อย่างเต็มที่ รวมถึงมิวสิกวิดีโอ และสารคดีชีวิตของเขา อีกแผ่นเป็นซีดีบันทึกการแสดงสดในไอร์แลนด์ ที่แสดงให้เห็นอารมณ์การร้องเพลงและดนตรีเวลาเล่นสดของเขานั้นตรึงตาตรึงใจคนฟังมากกว่างานสตูดิโออัลบั้ม




กำลังโหลดความคิดเห็น