“ฟิล์ม รัฐภูมิ” เปิดอกอีกรอบกลางรายการทีวียืนกราน ไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ“เสี่ยอู๊ด” มั่นใจภาพลับสยิวแค่คำขู่ ออกปากไม่สะท้านกับฉายา“เบนโล”ที่คนตั้งให้ ก่อนจะแจงด้วยท่าทีเฉยชาว่าไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวกับข่าวค(ร)าวที่เกิดขึ้น ประกาศชัดแม้จนตรอกแค่ไหนก็ไม่คิดเอาตัวเข้าแลก!! ย้ำแฟนเพลงขอให้ไว้ใจในตัวฟิล์ม
ยังคงเดินหน้าโต้กันสลับไปมาสำหรับนักร้องจากค่ายอาร์เอสฯ "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" กับนักธุรกิจในวงการพระเครื่อง "อู๊ด สิทธิกร บุญฉิม" หลังจากที่ฝ่ายหลังได้ออกมาทยอยแฉถึงความสัมพันธ์ของตนกับนักร้องหนุ่มรวมไปถึงพฤติกรรมหลายๆ อย่างของเจ้าตัวชนิดที่ชวนให้หลายคนสงสัยว่าทั้งสองอาจจะมีความสนิทลึกซึ้งกันเกินกว่าการเป็นผู้มีอุปการะคุณในฐานะพี่น้องอย่างที่ทั้งคู่บอกออกมา
ล่าสุดก็เป็นทางนักร้องหนุ่มที่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างบันทึกเทปรายการ "ทไวไลท์ โชว์" โดยเจ้าตัวยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองไม่ได้มีคิดเกินเลยกับเสี่ยพระเครื่องมากไปกว่าผู้มีพระคุณ พร้อมย้ำชัดตกต่ำแค่ไหนก็ไม่คิดจะขายตัวแลกเงิน ก่อนแสดงความมั่นใจอีกฝ่ายไม่มีภาพลับสยิวออกมาขู่แต่อย่างไร
ทางเสี่ยอู๊ดบอกว่าถ้าฟิล์มจะคืนเงินที่เคยช่วยเหลือไป เขาก็ยินดีรับ?
“ก็ไม่มีอะไรครับ ยังไม่รู้เลยเพราะตอนนี้ผมก็ทำงาน 7 วันเต็ม ยังไม่มีเวลาถึงขั้นนั้น ไม่มีแม้เวลาที่โทรไปคุยกัน ผมว่าเรื่องบางอย่างมันน่าจะจบไปแล้ว”
คิดว่าคืนเงินคืนของแล้วเรื่องทุกอย่างจะจบหรือเปล่า?
“อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมคงอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี สำหรับตัวผมไม่ได้คิดอะไรเลย ฟิล์มไม่เคยมีคำว่าเริ่มและไม่เคยมีคำว่าจบ เหมือนเดิมครับเขาก็คือผู้มีพระคุณของผม”
บ้านและรถก็ยังเป็นชื่อฟิล์ม?
“ก็ยังเป็นชื่อผม เขาเป็นคนค้ำให้”
ยังคงปล่อยให้เรื่องเป็นอย่างนี้ต่อไป?
“ใช่ครับ เพราะฟิล์มไม่ได้มีความลับหรือว่าอะไร พูดหมดแล้ว”
จากเคยรักเสี่ยอู๊ดบอกตอนนี้เปลี่ยนเป็นเกลียดแล้วฟิล์มรู้สึกยังไง?
“ไม่ได้ซีเรียสเลยครับ เฉยๆ”
มาถึงประเด็นที่ว่าเคยไปเที่ยวมาไหนด้วยกัน?
“จริงครับ แต่บางทีผมไปกับครอบครัว บางทีไปกับเพื่อนๆเยอะแยะมากมาย แต่บางทีภาพที่ออกมาดันออกมาแบบนั้น ให้คนเข้าใจผิดกันไปพอสมควรเหมือนกัน”
เคยบอกรักกันเมื่อคราวที่ไปต่างประเทศด้วยกัน จริงหรือเปล่า?
“คงไม่มีนะครับ ผมไม่ได้พูดเลยครับ ไม่มีครับคงไม่ถึงขั้นนั้น ผมไม่ได้คิดอะไรเลย ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรจริงๆ ที่ผมกังวล คือเป็นห่วงพวกแฟนเพลงกลัวบางคนเขามองผมผิดอะไรอย่างนี้ครับ แค่นั้นเอง”
ถ้ามีการพูดพาดพิงถึงอีกจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นฟิล์ม รู้สึกยังไง?
“ก็เฉยๆ อันนี้อยู่ที่ผู้ใหญ่ครับ คือตรงนี้ผมไม่ได้สนใจอะไร ไม่ใช่แค่ตอนนี้ มันตั้งแต่ตอนแรกๆ นะครับ ไม่ได้คิดไม่ได้สนใจ ไม่ได้ออกมาแก้ข่าว หรือมาทำโน้นทำนี้เลย...”
“ผมทำงานอย่างเดียวครับเพราะตอนนี้เยอะมาก ซึ่งมีพรีเซ็นเตอร์ที่เข้ามาเยอะพอสมควร ซึ่งไม่มียกเลิกเลย แน่นเอี๊ยด ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ไม่อะไรเสียหายกระทบถึงผมเลย ผมพูดตลอดว่าเชื่อในตัวผม ไว้ใจในตัวฟิล์มแค่นี้พอแล้วครับ เรื่องฟ้องร้องตรงนี้ผมไม่ทราบ เพราะจริงผมไม่เคยว่า ผมพูดเฉยๆ ตลอด”
ที่เสี่ยบอกว่าหากอาร์เอสฯจะฟ้องกลับ จะนำภาพที่มีความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งออกมาแฉ?
“ผมก็ไปกับครอบครัว ไม่กลัวครับเพราะผมก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้พี่เขาเลย ผมก็ทำงานตลอด จริงๆ เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้ซีเรียสครับ ผมเลิกคิดไปแล้ว”
มีคนตั้งฉายาให้ว่า “เจ้าชายเบนโล” รู้สึกยังไง?
“ไม่เคยได้ยิน เพิ่งจะมาได้ยินนี่แหละครับ เขาเรียกฟิล์มอย่างนั้นเหรอ ผมคงไปห้ามความคิดใครไม่ได้ อยากให้แฟนๆ เขาเชื่อใจในตัวผมก็พอแล้ว”
คิดว่าเราดำเนินชีวิตพลาดไปมั้ย และจะทำยังไงต่อไป?
“คงไม่ถึงขั้นนั้น เวลาที่คบคนหรือจะดูคนก็ต้องดูให้มากขึ้นครับ แล้วจริงๆผมไม่เคยทำอะไรเลยตั้งแต่แรกก็ไม่เคย ไม่ทำยังไงก็เหมือนเดิม ใช้ชีวิตทำงานตามปกติ”
ด้วยความลำบากของฐานะที่พูดกันมาตลอด พร้อมที่จะเอาความเป็นชายแลกกับเงินมั้ย?
“ไม่ครับผม ผมคิดว่าผมก็มีมือมีเท้าเหมือนกัน คิดว่าทำงานได้ และคงไม่คิดเอาศักดิ์ศรีและตัวของผมไปแลกอย่างนั้นแน่นอนครับ เพราะว่ายังมีคนที่รักผมอยู่เยอะแยะมากมายยังมีคุณพ่อ คุณแม่ มีพี่ชาย พี่น้องผมทุกๆคน แฟนเพลง แฟนคลับของผม ไม่มีทางครับ”
ความสัมพันธ์กับคนที่เป็นข่าว เป็นความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวหรือเปล่า?
“ไม่ใช่อย่างแน่นอนครับ หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่สื่อออกไป ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เขาต้องการอะไรเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่พูดมาตลอด แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ไปซีเรียสหรืออะไร เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้คิดอะไร ฟิล์มยังทำงานทุกวัน ตื่นมาเจอคุณพ่อคุณแม่ฟิล์มเจอ เฮีย เจอคนที่ผมรัก เจอพี่สื่อมวลชนที่ผมรัก เจอแฟนเพลงทุกคนที่เขาให้กำลังใจผม ผมมีความสุขมาก และมีแรงทำงานต่อไป และผมคิดเสมอว่าผมเข้าวงการนี้ผมจะทำงานอย่างเดียว และจะทำงานในสิ่งที่ผมรักให้ดีที่สุด เพื่อคนที่เขารอผมอยู่ เขารักผมเขาห่วงใยผม และเขามีความสุขต่อไป”
ประเด็นที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจว่าฟิล์มมีอะไรกับคนที่เป็นข่าวหรือเปล่า?
“ไม่มีครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะทุกคนที่อยู่ใกล้ผม ทุกคนที่เจอผมรู้ว่าผมเป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ บางทีการสื่อสารอาจจะผิดพลาดไป”
ถ้าหากไม่มีอะไรกัน ทำไมเขาต้องยื่นมือมาช่วยเหลือฟิล์มมากมายขนาดนั้น?
“ตรงนั้นจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยครับ พยายามคิดอยู่ตลอดเลยว่าช่วยแบบนี้แล้วมาเป็นแบบนี้ มันคืออะไร”
ขออนุญาตถามถึงตัวฟิล์มว่าชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิง?
“ผมชอบผู้ชายครับ... (อมยิ้ม) ชอบผู้หญิงครับ เออ....ผมชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ”
ฟิล์มเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?
“เป็นผู้ชายครับ แล้วก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยครับ ร้อยนี่คือล้านเลยก็ว่าได้ครับ”
ตอนนี้มีแฟนหรือยัง?
“ยังครับ จริงๆ ก็อยากมีนะ แต่มันยังมาถึงเวลานั้นเพราะว่า ผมนี่เวลานอนตอนนี้ยังไม่มีเลยครับ นอนวันละไม่ถึง 5 ชั่วโมง บางวันก็น้อยมากๆ”
กับข่าวที่ออกมารู้สึกยังไง?
“จริงๆ ผมก็เฉยๆ นะครับ ไม่ซีเรียสอะไรเลยเพราะผมไม่ได้ไปคิดว่า โห..เราต้องมาโต้ข่าว กับเรื่องนี้ผมเฉยๆมาก เพราะผมมีจุดมุ่งหมายของผมอยู่แล้ว”
ผ่านไปแค่หนึ่งแต่ยังมีอีกคนที่กำลังออกมาอ้างสิทธิ์ว่าเป็นคนเจอและพาฟิล์มเข้าวงการเป็นคนแรก?
“คนที่พาผมเข้าวงการมันมีเยอะนะครับ คนปั้นจริงๆ คนทั้งประเทศรู้หมดครับ พี่พจน์กับเฮียครับ มันมีแค่นั้น และเป็นสิ่งที่ผมพูดมาตลอด”
ฟิล์มอยากจะฟ้องกลับมั้ย?
“ไม่ครับไม่ทำอะไร ผมเฉยๆ ผมไม่ทำอะไรใคร ใครทำอะไรก็ทำ ฟิล์มคิดว่าฟิล์มทำวันนี้ให้ดีที่สุดพอแล้ว”
มีอะไรจะบอกแฟนๆ มั้ย?
“อยากจะบอกกับทุกคนว่าผมขอบคุณมากๆ เลยนะครับที่เชื่อใจผม อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ผมเข้าวงการจะ 4 ปีแล้ว ผมดีใจมากดีใจที่อยู่กับทุกๆคน ดีใจที่ได้เจอพี่ๆสื่อมวลชน ทุกคนให้การสนใจในตัวผม คอยติดตามข่าวอยู่กับผมมาตลอดเวลา ผมพูดกี่ครั้งมันก็จะไม่ไหว(น้ำตาซึม) คือผมรักพวกคุณทุกๆ คนมากๆ นะครับ ทั้งข้างหน้าผมแล้วก็ทางบ้าน ผมดีใจทุกครั้งที่ร้องเพลง คือมีคนมาเชียร์เห็นภาพที่มีคนคอยเชียร์ผม เดินไปไหนมีคนคอยเรียกพี่ฟิล์มๆอย่างนี้”
“จนถึงวันนี้ผมเจอปัญหา ผมออกไปไหนทุกคนไม่มีใครมาซ้ำเติม มีแต่บอกว่าสู้ สู้ สู้อยู่ข้างพี่ ข้อความเต็ม จดหมายมี ส่งดอกไม้ส่งอะไรมาที่บ้านผมคือทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ผมมีพลัง มีจุดมุ่งหมายที่จะทำอะไร ต่อไปนี้ผมจะเดิน จะระวังยังไง จะมีแนวทางในการเลือกคบใครยังไง คือมันเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับผมมากจริงๆ รู้ว่าใครที่รักเราจริง ทุกคนจริงๆ ที่ให้กำลังใจ ผมอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะพวกคุณ”