xs
xsm
sm
md
lg

มั่นใจไม่ซ้ำรอย "กบ" ทีมผู้สร้าง "โกสต์เกม" ยันไม่เจตนาประณามเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมผู้สร้าง“โกสต์เกม” ออกโรงขอโทษ พร้อมโต้เครียด ไม่เจตนาย่ำยีความรู้สึกชาว “เขมร” บอสใหญ่เผยยังมึนๆ ถามหาความรับผิดชอบยังตอบไม่ได้ เจ้าตัวยอมรับพลาดตรงที่คิดน้อยไป ลั่นจะจำจนวันตาย แต่ปัดไม่รู้เรื่องที่กระทรวงวัฒนธรรมเขมรสั่งทำลายแผ่นฟิล์ม ยันจะมีการฉายหนังต่อไป

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นจนได้เมื่อนักวิจัยของเขมรท่านหนึ่งออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจกรณีหนังสยองขวัญของไทย“โกสต์เกม ล่า–ท้า-ผี” มีเนื้อหาส่วนหนึ่งไปพาดพิงถึงเหตุการณ์การสังหารหมู่ที่ในประเทศกัมพูชาร้อนถึงฝ่ายผู้สร้างอย่าง “บ.ที่ฟ้า” และ “บ.เอ็น จี อาร์” ต้องส่งตัวแทนออกโรงชี้แจงเรื่องดังกล่าวการด่วน

โดยในวันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 16.00 น. 3 หัวเรือใหญ่อย่าง “ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม” บิ๊กบอส บ.เอ็น จี อาร์ “พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์” ผอ.การสร้าง และ ผกก.“สราวุธ วิเชียรสาร” ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าวพร้อมชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะไปตอกย้ำความโหดร้ายของเหตุการณ์ที่ว่าแต่อย่างใด ก่อนจะยืนยันหนังยังไม่ได้ถูกแบนตามที่มีข่าวลือออกมา

“ตอนนี้ยังไม่มีการแบน ทุกคนกำลังเข้าใจผิดคิดว่าเราโดนแบน เหตุการณ์มันยังไม่ได้รุนแรง แต่ที่ตัดสินใจแถลงข่าว ก็เพราะว่า จบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แคร์ความรู้สึกของเพื่อนบ้านของเรา พอข่าวลงเมื่อวันที่ 25 เมษาฯ เราก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วตกใจมาก ที่หนังของเราเป็นข่าวลงทั่วโลก ซึ่งได้เห็นเนื้อข่าวเรายิ่งตกใจ เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไทย-กัมพูชาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” “ณภัทร” หนึ่งในทีมผู้สร้าง ออกตัวชี้แจง....

“สิ่งที่เราทำเราไม่ได้มีเจตนา ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าไปกระทบกระเทือนทางกัมพูชา เราก็อยากออกมาแสดงความรู้สึก ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เราทำมันถูกหรือผิด เลยอยากจะกราบขอโทษเพื่อจะแสดงความเสียใจและขอโทษ เราไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ วันนี้เราได้สั่งทำพวงมาลัยพิเศษเพื่อขอแสดงความรู้สึกว่าเราไม่มีเจตนา และขอมอบพวงมาลัยนี้ให้ไปสู้คนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เฉพาะแค่ชนชาติกัมพูชา มันยังมีชนชาติอื่น ที่อยู่ในเรื่องนี้ด้วย”

เผยไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายคล้ายเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยที่ประเทศกัมพูชาซึ่งมีการโยงเอาชื่อของนักแสดงสาว "กบ สุวนันท์" เข้าไปเกี่ยวข้อง ก่อนจะยืนยันไม่ได้สร้างสถานการณ์เพื่อโปรโมตหนัง
“ยังตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย ยังไม่รู้จะทำยังไง คงต้องดูกันไปว่าจะยังไง ก็ขอภาวนาที่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เรื่องของกบมันจบไปแล้วอย่าไปรื้อมันดีกว่า เพราะมันละเอียดอ่อนมาก”

“หนังจะเข้าฉายในวันพรุ่งนี้ (27) ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถ้าใครคิดว่าเราทำพีอาร์เราก็อยากจะบอกว่า เราก็อยากทำพีอาร์ที่ถูกต้องไม่อยากให้ออกมาแบบนี้ ต้องตัดต่ออะไรมั้ยมันไม่ได้ เพราะเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวโดยตรง เราไม่ได้ถ่ายทำที่นั่น ก็ยังยืนยันเจตนาเดิมว่าไม่ได้ตั้งใจ บริษัทของเราเคยทำเรื่องคาวน้ำค้าง หน้าต่างบานแรก เป็นเรื่องสร้างสรรค์สังคมทั้งนั้น เราไม่เจตนาทำเรื่องที่ไม่ดี”

ยอมรับเนื้อหาในหนังส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่ว่าจริง ทว่าไม่ได้เป็นการทำเพื่อประจานความโหดร้าย พร้อมปฏิเสธข่าวกระทรวงวัฒนธรรมของกัมพูชาอาจยึดฟิล์ม
“จะทำอย่างไรต่อไปยังคิดอะไรไม่ออก ใครตอบได้ช่วยตอบหน่อย ยังไม่กล้าบอกทางโรงหนังเลยว่าอย่างไร บอกได้แต่ว่าหนังจะเข้าปกติ ต้องพิสูจน์ดูเจตนาของเราจากในหนัง มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นแค่แรงบันดาลใจ ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยติดต่อไปทางกัมพูชาเพื่อถ่ายทำ แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะยังไม่ได้กลั่นกรอง และไม่ได้ไปถ่ายทำจริงๆ”

“ยอมรับว่าเหมือนเด็กโง่ ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ขอโทษจริงๆ ตอนแรกที่ตัดสินใจทำก็คือคิดแต่ว่าต้องระวังหน่อยแค่นั้นเอง ทีนี้เป็นบทเรียนที่จะจำไปตลอดชีวิต ไม่ได้ตั้งใจจะก็อปปี้ให้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราทำหนังสักเรื่องมันต้องมีภาพในหัว แต่เราไม่มีเจตนาจะก็อปปี้เลยนะ พอรู้ข่าวจุกเลย แน่นหน้าอกเลย ลูกก็บอกว่าเค้าจะคิดว่าโปรโมทหนังไหมเนี่ย สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ ขนาดว่าจะตายยังต้องนึกถึงเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

กำลังโหลดความคิดเห็น