xs
xsm
sm
md
lg

"ครูสลา-ต่าย อรทัย" ร่ำไห้โต้ข่าวสัมพันธ์ลึกเตรียมฟ้อง 2 นสพ.บันเทิงเรียก 10 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครูเพลงชื่อดัง “สลา คุณวุฒิ” พร้อมครอบครัวร่ำไห้แถลงข่าวปฏิเสธความสัมพันธ์กับ “ต่าย อรทัย” หลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนสพ.บันเทิงชื่อดังตีพิมพ์ถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นครูเพลงดังต้องเลิกกับภรรยา พร้อมเตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 10 ล้าน เจ้าตัวย้ำไม่เคยคิดหาเรื่องสื่อฯ แต่ครั้งนี้รับไม่ไหว ด้านนักร้องสาวน้ำตานองหวั่นแฟนเพลงเข้าใจผิด

บานปลายจนได้กรณีหนังสือพิมพ์บันเทิงชื่อดัง 2 ฉบับลงข่าวระบุถึงความสัมพันธ์ของครูเพลงชื่อดัง "สลา คุณวุฒิ" กับลูกศิษย์นักร้องล้านตลับ "ต่าย อรทัย" สังกัดแกรมมี่ โกลด์ไปในทำนองฉันท์ชู้สาวเป็นเหตุให้ครอบครัวของฝ่ายชายพังทลาย ต้องบอกเลิกกับภรรยา

ทั้งนี้ภายหลังการตีพิมพ์ของหนังสือพิมพ์บันเทิงดังกล่าว ล่าสุดทางฝ่ายครูเพลงชื่อดังจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์บันเทิงทั้ง 2 ฉบับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนจะควงภรรยาพร้อมด้วยลูกสาวทั้งสอง "ข้าวขวัญ - แพรวา" รวมถึงนักร้องสาว "ต่าย อรทัย"ร่วมกันแถลงข่าวเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (10 เม.ย)ที่ตึกแกรมมี่ โดยเจ้าตัวกล่าวทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดที่เป็นข่าวเมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมาพร้อมกับย้ำว่าไม่เคยคิดที่จะหาเรื่องสื่อแต่อย่างไรแต่ครั้งนี้ที่ทำก็เพราะต้องการที่จะปกป้องชื่อเสียงและครอบครัวของตนเอง

"ต้องขอโทษมากๆ ที่รบกวนมาฟังทุกคนมาฟังในครั้งนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเราเคยเจอกันในสิ่งที่มันสร้างสวรรค์ ก็ขอขอบคุณทุกๆ คนที่ให้เกียรติมารับฟังความในใจครั้งนี้ ...(เสียงสั่น) ในสิ่งที่ผม ครอบครัวเพื่อนพ้องได้รับผลกระทบ"

"จริงๆ แล้วความรู้สึกผมที่มีต่อสื่อมวลชนผมถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ ความสำเร็จที่ผ่านมาทุกย่างก้าวที่ผ่านมาในเส้นทางสายนี้ ผมคิดว่าผมได้รับความร่วมมือจากพี่น้องสื่อมวลชนมาอย่างดี มาตลอด และถือเป็นข้อพึงระวังอย่างหนึ่งในแง่ของการทำงานและการวางตัวก็ตาม แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาก็ได้มีข่าวที่ค่อนข้างรุนแรงและมีผลกระทบกับความรู้สึกอยากจะบอกว่าเป็นผลกระทบที่รุนแรงต่อความรู้สึกพี่ที่สุด จึงต้องดำเนินคดีแจ้งความ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะทำเลย ไม่อยากจะทำเลยจริงๆ”

“พาดหัวข่าวแรกที่ผมได้รับรู้ซึ่งตอนนั้นผมเขียนแต่งเพลงอยู่ที่บ้าน แล้วมีคนโทรมาบอกว่า สลามีข่าวกับต่ายนะ พี่คนนั้นที่โทรมาบอกว่ามีข่าวว่าสลาหย่าเมีย ซึ่งผมก็ตกใจมาก ในขณะที่ผมนอนแต่งเพลงอยู่ที่บ้าน ก็เลยได้ให้ลูกสาวไปหาซื้อดูหนังสือพิมพ์ฉบับนี้มาอ่านซึ่งก็เขียนแบบนั้นจริงๆ"

"ครั้งแรกที่เห็นผมรู้สึกว่ามันรุนแรงต่อความรู้สึกของผมเป็นอย่างมาก เพราะมันกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวผมเองเพียรสร้างมา ที่ตกใจยิ่งกว่าก็คือ ผมไม่ทราบว่าภรรยาของผมและลูกทั้งสองจะรู้สึกอย่างไร วันนี้ผมก็เลยถือโอกาสขออนุญาตชี้แจงความในใจ ให้ทุกคนได้รับทราบ ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือต่างๆ ทั้งจากหนังสือพิมพ์ จากเว็บไซต์ หรือสื่อต่างๆ ผมขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงครับ”

“ผมอยู่กินกับแฟนมาทั้งหมด 18 ปีด้วยความรักและความเข้าใจ มีลูกสาว 2 คน...จริงๆ ต้องขอเรียนทำความเข้าใจก่อนว่าผมก็ไม่อยากเอาลูกผมมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ผมถูกใส่ความ ผมตระหนักอยู่เสมอว่า เพลงทุกเพลงที่เขียนก็หวังจะเติมเต็มให้สังคม ดูแลสถาบันครอบครัวมาตลอด การที่สื่อมวลชนหรือประชาชนให้การขานรับที่ดีเสมอมา ยิ่งเป็นข้อตระหนัก และยิ่งเป็นข้อคำนึง ที่ทำให้ผมดูแลครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น”

ครูเพลงชื่อดังเปิดเผยถึงข่าวลือทั้งหมดที่เคยได้รับมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่าไม่เป็นความจริง แต่ที่ไม่คิดแก้ข่าวเพราะเห็นเป็นเรื่องธรรมดาแต่ยอมรับข่าวนี้กระทบความรู้สึกเกินไป เลยต้องมีการฟ้องร้องพร้อมวอนแฟนเพลงให้ความยุติธรรมกับตนด้วย
“ถ้าถามว่าได้รับกระทบอย่างไรหรือไม่ ในแง่ของความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก รุนแรงกับความเชื่อมั่นของตัวเอง เหมือนกับว่าต่อไปนี้ เราจะเขียนเพลงอะไรอีก เราจะพูดเรื่องที่เราพูดแล้วพี่น้องแฟนเพลงเคยเชื่อ ต่อไปนี้พวกเค้ายังจะเชื่อเราอีกหรือเปล่า กังวลความรู้สึกของภรรยาและที่ห่วงที่สุดคือลูกสาวทั้งสองคน ไปนั่งกินข้าวแล้วได้ยินคนนินทาพ่ออยู่ข้างๆ"

"ผมแคร์ความรู้สึกของประชาชน แคร์ความรู้สึกของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อนพ้องที่เคยมีความไว้ใจผม เพราะฉะนั้นท้ายสุดวันนี้ ผมกราบวิงวอนต่อพี่น้องสื่อมวลชน ขอให้เค้าให้เวทีที่เป็นกลางกับผม ให้ข้อมูลที่เป็นจริงส่งผ่านไปยังพี่น้องประชาชน ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม และผมยังมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ดี ขอความเป็นธรรมกับผมด้วย”

โดนข่าวลือคาวๆ มาโดยตลอดแต่ครั้งนี้ถือว่าสาหัสที่สุด
“ตลอดระยะเวลาที่ผมทำงานมาในวงการบันเทิง ผมก็มีข่าวลือมาโดยตลอด ในเรื่องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือที่ว่า แกรมมี่ทุ่มเงินซื้อผม 40 ล้านเพื่อให้ผมลาออกจากราชการมาทำงานกับแกรมมี่ เรื่องของเพลงกระทงหลงทางที่ดังก็บอกว่าครูสลารวย 30 ล้าน แต่นี่เป็นข่าวบวกผมก็ยินดีน้อมรับ และอีกกรณีก็คือที่หาว่าผมไปลอกเพลงยาใจคนจนมา ก็มีการต่อสู้กันจนความจริงปรากฏ"

"ข่าวลือที่ว่าผมเป็นเกย์ หาว่าผมมีอะไรกับศิริพร อำไพพงษ์ จนกระทั่งมาร่วมงานกับต่าย อรทัย พออัลบั้มดอกหญ้าในป่าปูนประสบความสำเร็จ ก็มีข่าวลืออีกว่า ผมจ้างหย่าภรรยาตัวเอง 5 ล้าน บ้างก็ว่า 3 ล้าน ถามว่าครอบครัวผมอยู่อย่างไรเมื่อมีข่าวลือเกิดขึ้น ผมก็ถามภรรยาผมว่ารู้สึกหนักใจมั้ย เค้าก็บอกว่าเค้าเชื่อมั่นในตัวผม และผมเองก็ให้ความเชื่อมั่นกับเค้า ในความเสมอต้นเสมอปลาย ผมได้ทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีมาตลอด รวมถึงหน้าที่ครูด้วย แต่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องออกมาแก้ข่าวแบบนี้ ผมก็บอกภรรยาผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้มันจะรุนแรง ทำให้เราต้องเจ็บ แต่ก็ให้ถือเป็นบาดแผลของความสำเร็จ”

“ต่าย อรทัย เป็นศิลปินคนแรกที่ผู้ใหญ่ให้ผมดูแลมาตั้งแต่ต้น ดูแลในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับต่าย จนอัลบั้มแรกเค้าประสบความสำเร็จ ผมเองก็เหมือนเป็นปริญญาในการทำงาน เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมภูมิใจเฉพาะต่าย อรทัยคนเดียว ลูกศิษย์ของผมทุกคน บทเพลงทุกบทเพลง ผมต่างก็ภูมิใจทั้งนั้น"

"ผมบอกกับต่ายเสมอว่า โอกาสเป็นเรื่องที่หายาก แต่การจะรักษาโอกาสเป็นเรื่องที่ยากกว่า และเมื่อมีความสำเร็จเกิดขึ้น ทุกครั้งที่ขานชื่อต่ายก็จะมีชื่อของครูสลาพ่วงมาด้วยตลอดด้วยความที่เป็นคู่กันในเรื่องของบทเพลง ซึ่งผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่าต้นตอของข่าวลือเกิดจากอะไร แต่ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่านี่คือบาดแผลแห่งความสำเร็จ เราไม่ต้องไปกังวลอะไรมาก เราแค่ทำข้อเท็จจริงให้ดีที่สุดก็พอ”

ด้าน “ลัดดาวัลย์ คุณวุฒิ” ภรรยาของครูเพลงชื่อดังก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตาเช่นกัน โดยเจ้าตัวบอกว่าเชื่อมั่นว่าสามีเป็นคนดีไม่คิดทำให้ครอบครัวแตกแยกแน่
“ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้โอกาสครอบครัวที่ได้มาชี้แจงข้อเท็จจริง จากที่ได้ฟังข่าวลือครั้งแรก รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา รู้สึกสงสารพี่สลา พี่สลาเป็นคนดีเราอยู่ด้วยกันมานาน และตัวดิชั้นเองก็มีความเชื่อมั่นไว้ใจ ให้เกียรติในตัวพี่สลาเสมอมา โดยเฉพาะในเรื่องของข่าวลือที่มีมานานแล้ว แต่ด้วยความที่เรารักกันและไว้ใจกันมาตลอด ก็เลยคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เก็บมาใส่ใจ และไม่เคยคิดที่จะเอามาพูดให้พี่สลาไม่สบายใจ ตัวน้องต่ายเองก็เป็นคนดี ส่วนตัวก็รู้สึกเอ็นดูน้องเค้าเสมอมา เพราะฉะนั้นกับข่าวลือที่เกิดขึ้นนี้ ดิชั้นเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าไม่เป็นความจริง อยากจะวิงวอนให้ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชนด้วย"
"ถามถึงเรื่องผลกระทบบอกได้เลยว่ามันมีผลกระทบค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะตัวดิชั้นเอง ทำงานเป็นหัวหน้างาน พัฒนาเครือข่ายสุขภาพจิต ที่จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ ดูแลสุขภาพจิตของตนเอง และคนในครอบครัว การที่จะไปพูดไปคุยไปสื่อสาร มันทำลายความเชื่อมั่นค่ะ ถ้าเราไม่สามารถดูแลครอบครัวเราได้ดี เราจะสามารถพูดได้อย่างเต็มปากได้อย่างไร"

"โดยเฉพาะกับลูกที่เค้ายังเด็กเกินไปที่จะรับรู้ พี่สลาที่ยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ก็ด้วยกำลังใจจากทุกๆ ฝ่าย เราพยายามต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย ฉะนั้นไม่มีทางที่พี่สลาจะทำลายครอบครัวของเราเอง พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมันยากนะคะ....เหมือนตกเป็นจำเลยของสังคม (ร้องไห้ )...เป็นเป้าสายตากับทุกๆคน”

ขณะที่นักร้องดัง "ต่าย อรทัย" กล่าวเพียงสั้นๆ พร้อมวอนให้แฟนเพลงเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของตน
“ความรู้สึกแรกคือตกใจมาก กับข่าวที่เกิดขึ้นไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดข่าวแบบนี้กับตัวเอง ผลกระทบมีแน่นอนกับความรู้สึกของต่ายเอง ครอบครัว แคร์ที่สุดคือพี่น้องแฟนเพลง ขอฝากพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่านขอให้ช่วยต่ายยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป้นความจริงเลย วิงวอนผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องแฟนเพลง ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของต่ายด้วย”

ทั้งนี้ในส่วนของคดีความที่มีการฟ้องร้องกันนั้น “สุพัฒน์ ตรงสวัสดิ์” ทนายความของครูสลาชี้แจงว่าอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูลหลังไปแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะฟ้องทั้งแพ่งอาญา ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พร้อมเผยว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากนสพ.ทั้ง 2 ฉบับแต่อย่างใด
“ตอนนี้ได้แจ้งความไว้ที่สน.ทองหล่อ อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูล ความคืบหน้าคาดว่าคงเร็วๆนี้ ส่วนค่าเสียหายถ้าวัดจากความมีชื่อเสียงของครูสลาคาดว่าน่าจะเกิน 10 ล้าน และจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา โทษฐานหมิ่นประมาทด้วยเอกสารและข้อความโฆษณา...โดยเราจะยื่นเอกสารฟ้องศาลไม่เกิน 10 เมษายนครับ”



กำลังโหลดความคิดเห็น