xs
xsm
sm
md
lg

เลิกอาชีพดารา "จุ้มจิ้ม" เอาดีด้าน "หมอฟัน" ทุนหนา 50 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพิ่งฉายแวว “ดารา” ได้ไม่ทันไร สาว “จุ้มจิ้ม กิตติลักษณ์ จุลลัษเฐียร” แห่งบ้าน AF 1 ก็ตั้งใจลาขาดจากงานในวงการบันเทิงซะแล้ว เธอว่าจะหันไปทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับธุรกิจคลินิกทันตกรรมที่เปิดขึ้นที่ห้างสุดหรู ซึ่งใช้เงินลงทุนสูงถึง 50 ล้านบาทแหน่ะ แถมเป็นสาขาที่ 19 ของโลกอีกต่างหาก งานนี้ไม่ธรรมดาเพราะเป็นการร่วมหุ้นกันระหว่างไทยกับอเมริกาซะด้วย

“จุ้มจิ้มตั้งใจว่าจะเล่นละครเรื่องเดียวและหนังเรื่องเดียว(โกสต์ เกม)พอแล้ว จะไม่รับงานแล้วซึ่งทุกคนที่ดูอะคาเดมี แฟนเทเชียจะรู้ว่าจุ้มจิ้มเข้ามาที่นี่เพื่ออยากจะลอง อยากสนุกและก็ 1 ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสทำนี่ทำนั่นแล้วรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง แต่อาชีพที่เรารักจริงๆคือทันตแพทย์ เราก็ยังมุ่งมั่นในการเป็นหมอฟันเหมือนเดิมค่ะ”

“ถามว่าถ้าให้รับงานในวงการบันเทิงเป็นงานอดิเรกได้หรือเปล่า จุ้มจิ้มก็อาจจะรับนะคะแต่เนื่องจากว่าหนังกับละครใช้เวลาค่อนข้างนานมากๆ อย่างหนังก็เป็นปีเลยทำให้วางแพลนวางเวลาค่อนข้างยากเนาะ เวลาในวงการบันเทิงทุกคนก็ทราบอยู่จะแบบเป็นช่วงหนักๆ แล้วก็หายไปเลยซึ่งทำให้เราฟิกส์เวลาประจำเราจะทำไม่ได้น่ะค่ะ”

“แต่สัญญาก็ยังมีกับยูบีซีอยู่ค่ะเพราะจุ้มจิ้มเซ็น 5 ปีเพียงแต่ว่าผู้ใหญ่ค่อนข้างน่ารัก ตั้งแต่จุ้มจิ้มเล่นละครแล้วคือก็มีติดต่อมาอีกเหมือนกัน จุ้มจิ้มก็บอกว่าถ้าจุ้มจิ้มจะขอไม่เล่นได้มั้ย เขาก็บอกว่าไม่เอาก็ไม่เป็นไร แต่จุ้มจิ้มไม่ดื้อนะคะถ้าอันไหนผู้ใหญ่สั่งว่าจะต้องเล่นต้องทำ จุ้มจิ้มก็ทำค่ะ”

โอดครวญงานบันเทิงรัดตัวมากจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง พร้อมบอกตั้งใจจะไปทุ่มเทใจให้กับปฏิบัติล่าฟันต่อ
“จริงๆ แล้วจุ้มจิ้มค้างอะไรอีกตั้งเยอะ วิทยานิพนธ์ก็ค้างมาตั้งปีหนึ่งแล้ว ก็คิดว่าหลังจากจบหนังเรื่องนี้ก็ต้องรีบกลับไปทำให้จบสักที ถ้าเกิดแบบว่ายังมีงานต่อๆ แล้วเนี่ยก็คงเรียนไม่จบสักที แต่นี่ก็ยังมีคอนเสิร์ตเอเอฟ 1 กับเอเอฟ 2 มาชนอีกแล้ว ก็โอ๊ย ! ตายแล้วเมื่อไหร่จะมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง”

“นอกจากวิทยานิพนธ์ยังมีคลินิกทันตกรรมอีกค่ะ ที่เปิดที่พาราก้อนน่ะแหละค่ะ อันนั้นเป็นการร่วมทุนกันระหว่างต่างชาติเลยนะคะ ไม่ใช่เล็กๆ ค่ะ เป็นบริษัทในอเมริกาจากฮอลลีวูดน่ะค่ะซึ่งเขามีสาขา 18 แห่งทั่วโลก ซึ่งเขามาร่วมหุ้นกับเมืองไทยเนี่ยเป็นแห่งแรกในเอเชียเลย ก็เป็นที่ 19 ของโลกน่ะค่ะ”

“เขาร่วมทุนครึ่งๆ น่ะค่ะ เงินลงทุนทั้งหมดก็ประมาณ 50 ล้านน่ะค่ะ มันเป็น บ.ไบรท์สมาย (Brite Smile)ของอเมริการ่วมหุ้นกับ บ.แอคคอร์ด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเครื่องมือทันตกรรมของเมืองไทยมา 30 ปีแล้ว เป็นบริษัทอันดับ 1 ของเมืองไทยเลยน่ะค่ะคือทันตแพทย์ทุกคนรู้จักบริษัทแอคคอร์ด"

"จุ้มจิ้มก็รู้จักและสนิทสนมกับพี่ในบริษัทแอคคอร์ดนี้เขาก็เลยชวนให้ไปทำด้วยกัน จิ้มก็เลยได้ไปเป็นหมอฟันให้ที่นั่น ก็ถือว่าจุ้มจิ้มได้กลับไปปฏิบัติการล่าฟันอีกครั้งหนึ่งอย่างที่ใจรักแล้วค่ะ ก็เจอจุ้มจิ้มได้ค่ะทุกวันพฤหัสฯกับวันเสาร์นะคะ แต่ต้องโทรไปนัดนิดหนึ่ง"

"และที่เขาเลือกที่สยาม พาราก้อนเพราะบ.ไบรท์สมายเป็นแบรนด์ต่างชาติที่ชาวต่างชาติรู้จักดี คือถ้าคนต่างชาติเห็นก็จะรู้จักเลยแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วก็เป็นแบรนด์ที่ดาราฮอลลีวูดเขาทำเพราะฉะนั้นนี่เป็นแห่งที่ 19 ในโลกใช่มั้ยคะ มาตรฐานก็ใช้อันเดียวกันพอมาที่เอเชียเขามาลงที่ประเทศไทยเขาก็เลยเลือกลงที่สยาม พาราก้อนด้วยความที่มันยิ่งใหญ่ เปิดตัวก็ต้องใหญ่นิดหนึ่งอะไรแบบนี้น่ะค่ะ"

"ถ้าถามว่าจุ้มจิ้มกลัวความเสี่ยงกับธุรกิจตรงนี้มั้ยเพราะเม็ดเงินสูงถึง 50 ล้าน ก็ไม่กลัวหรอกค่ะเพราะไม่ใช่เงินจิ้มน่ะ (หัวเราะ) อีกอย่างจุ้มจิ้มลงใจไปน่ะแบบเรามีความสุขกับการทำงานมากว่า จุ้มจิ้มไม่ค่อยคิดเรื่องธุรกิจหรอกค่ะ มันก็มีได้มีเสียเป็นเรื่องธรรมดาเป็นเรื่องในอนาคต เราไม่ได้หวังว่าเราจะต้องรวยแต่เรามีความสุขกับมันรึเปล่า จุ้มจิ้มทำทุกอย่างเพราะว่าจุ้มจิ้มมีความสุขกับมันถึงทำ"

"เพราะปกติเนี่ยจิ้มรับราชการรับเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะแต่จิ้มมีความสุขกับการทำงานตรงนี้ จิ้มมีความสุขกับการไปออกหน่วย มีโอกาสได้ทำฟันให้กับคนที่อยู่ไกลๆ นู้น จิ้มมีความสุขที่จะได้คุยกับเด็กๆ มีความสุขที่ได้ทำอยู่ที่ร้านทำฟันที่น่ารักๆ ไม่น่ากลัว อยากตรวจฟันให้เขา และอยากให้เขาได้ใส่ใจและเห็นถึงความสำคัญในการดูแลช่องปากน่ะค่ะ"
กำลังโหลดความคิดเห็น