ชี้แจงชัดว่าไม่ได้กิ๊กกับสาวไฮโซ "เกรซ มหาดำรงค์กุล" พระเอก “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ขอยืนยันถึงคำพูดดังกล่าวด้วยการออกปากสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปว่าตนไม่เคยไปเที่ยวกับสาวเกรซเลยแม้แต่ครั้งเดียว ย้ำความสัมพันธ์แค่คนเคยทำงานร่วมกัน !! พร้อมแอบเหน็บสื่อที่ตั้งฉายา "พระเอกเทวดา" ให้ ควรมีเหตุผลกว่านี้
ปิดปากเงียบที่จะพูดถึงข่าวคั่วไฮโซสาว "เกรซ มหาดำรงค์" อยู่นาน เคยถึงขนาดหนีให้นักข่าวเดินตามไปขอสัมภาษณ์ถึงหน้าห้องน้ำ แถมให้คุยแค่ 5 นาทีและไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ จนสื่อมวลชนตั้งฉายา”พระเอกเทวดา”ให้ ในที่สุดพระเอกชื่อดัง "ติ๊ก เจษฎาภรณ์" ที่ทำใจอยู่แรมเดือนก็ยอมเปิดใจพูดทุกเรื่องกลางกองถ่ายฯ ”ต่างฟ้าตะวันเดียว” ซึ่งไปถ่ายไกลถึงวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ จ.สระบุรีว่า...
“ข่าวกับไฮโซเป็นแค่เราไปทำงานด้วยกันครับ เพียงแต่อาจจะบังเอิญว่าเราไม่น่าจะรู้จักกันหรือว่ารู้จักได้ยังไง ผมต้องย้อนไปสมัยก่อนคือผมค่อนข้างไปงานอีเว้นท์เยอะแล้วเขาก็เป็นพิธีกรตลอดซึ่งก็จะรู้จักกัน วันหนึ่งเราทำรายการเนวิเกเตอร์แล้วประชุมกันตั้น(พิเชษฐ์ไชย)บอกว่าทำไมไม่หาคนที่เรารู้จักล่ะ ก็เลยเชิญเขาไป”
“ถามว่าแสดงว่าเราต้องรู้จักกันระดับหนึ่งแล้วใช่มั้ยถึงคิดชวนเขามาออกรายการเราได้คือรายการนี้ผมจะเชิญคนที่เป็นไปไม่ได้มาออก มันต้องลำบากชัวร์ต้องเหนื่อยมากๆ เราเพียงอยากจะบอกกับผู้ชมว่าความเป็นเพื่อนมิตรภาพเราผู้ชายเขาผู้หญิงคือเราสามารถไปผจญภัยด้วยกันได้”
แม้จะมีข่าวออกมาว่าหนุ่มติ๊กไปเที่ยวกับสาวเกรซอยู่บ่อยๆ แต่หนุ่มติ๊กก็ปฏิเสธเสียงแข็งแถมกล้าสาบานเสียด้วย
“ไม่เคยไปจริงๆ ไม่มีเลยครับ (สาบานเลยใช่มั้ย?) นี่ไงครับอยู่ต่อหน้าพระเลย ก่อนหน้านี้ที่ผมไม่ค่อยพูดถึงเพราะถ้ายิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่น่ะครับ ผมไม่อยากให้ไปกระทบกระเทือนถึงบุคคลอื่นๆ อีกแล้ว ผมรู้สึกเกรงใจคนที่เป็นข่าวด้วยมาก”
“ก็หลังจากที่ไปผจญภัยด้วยกันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยครับแต่ผมก็โทรไปขอโทษนะที่เขามาเป็นข่าวด้วยเพราะผมยังอยากจะทำงานกับอีกหลายๆ คนซึ่งเรากลัวไม่ได้ทำงานกับอีกหลายๆ คนน่ะครับ กลัวว่าเขาจะมองว่าเอ๊ะ! ติ๊กจะเอาเขามาโปรโมตรึเปล่าน่ะครับ”
เคลียร์เรื่องฉายา”พระเอกเทวดา” ที่สื่อมวลชนตั้งให้ว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน
“วันนั้นเรามีนัดจริงๆ ทุกคนรอเราอยู่เราจึงรีบไป จึงทำให้เวลาที่ให้สัมภาษณ์ไม่ได้เท่าที่ควรและแค่วันนั้นวันเดียวผมรู้สึกว่าบางอย่างถ้าเราได้คุยกันมากขึ้นได้ฟังกันมากกว่านี้ก็น่าจะทำอะไรต่างๆ ดีขึ้น ผมคิดว่าอะไรต่างๆ แค่นี้ไม่น่าจะตัดสินคนๆ หนึ่งได้ ถ้าเกิดเรามองอะไรต่างๆ ให้ลึกซึ้งแล้วก็มีเหตุผลด้วย เราลองถอยมามองสักก้าวดูสิว่าเขาก็มีเหตุผลส่วนตัวของเขาเท่านั้นเองครับ”
“ถามว่าผมน้อยใจมั้ย ก็ไม่ล่ะครับเพราะผมคิดว่าเราทุกคนสามารถเข้าใจผิดกันได้ คิดดูสิสมัยก่อนผมเป็นลูกเสือและผมเล่นเกมเรียกว่าเกมการสื่อสาร สมมติเรามีหมู่หนึ่ง 20 คน คนแรกไปอ่านหนึ่งข้อความแล้วไปกระซิบบอกคนที่ 2 บอกไปจนถึงคนที่ 10 คนที่10 พูดไม่เหมือนคนที่ 1 อย่างแน่นอน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบใช่คือไม่ใช่ ตรงกันข้ามไปเลยซึ่งเป็นบทเรียนที่เราเห็นอย่างชัดเจน ผมก็เป็นคนที่เข้าใจทุกๆ อย่างเข้าใจโลกมากครับ”
“แต่ผมจะบอกว่าตอนนี้ก็ไม่มีใครเรียกผมอย่างนั้นนะครับเพราะเวลาผมทำงานกับทุกๆ คนน่ะผมเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าผมเป็นยังไง ในการทำงานเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมเองชอบที่จะทำงานให้ออกมาดีอยู่แล้ว ก็เท่านั้นน่ะครับ"
"ถ้าสมมติว่าในอีกความหมายหนึ่งที่บอกว่าผมจะต้องอยู่สบาย อันนี้มันไม่ใช่อยู่แล้ว ปกติผมก็ทำตัวง่ายและก็ง่ายกว่าทุกๆ คนด้วยซ้ำคือเราต้องง่ายกว่าทุกคนเพราะว่าทุกคนมองเราอยู่”
แฟนคลับออกอาการเป็นห่วงเพราะช่วงนี้มีข่าวไม่ดีเกี่ยวออกมาบ่อยๆ ทว่าเจ้าตัวก็ไม่หวั่นเพราะมั่นใจหลายคนเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เป็นอย่างดี
“ช่วงนี้ที่ผมเป็นข่าวในทางที่ไม่ดีเยอะๆ ออกมาแฟนคลับผมก็เป็นห่วงอยู่แล้วน่ะครับ เขาก็จะพยายามให้กำลังใจผมว่าทุกๆ อย่างอยู่ที่ว่าเราจะเข้มแข็งและอดทนต่ออะไรต่างๆ เพียงใดเท่านั้นเอง เหมือนเวลาฝนตกอยู่ที่ว่าเราจะวิ่งไปหลบฝนหรือตากฝนเดินกลับบ้าน ถามถึงสภาพจิตใจผม ผมก็สบายใจตลอดเวลาอยู่แล้วครับ”
